วันศุกร์, มิถุนายน 10, 2559

จากผู้ใหญ่ในเมืองนี้ ถึงเปลวสีเงิน เรื่องวัดธรรมกาย



ที่มา เวปโรงละครสยาม
9 มิถุนายน พ.ศ. 2559

จากผู้ใหญ่ในเมืองนี้ ถึงเปลวสีเงิน

มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ท่านส่งข้อความมาฝากไปถึงคุณเปลวสีเงิน แต่ว่าไม่อยากเอาชื่อท่านมาลงไว้ในนี้ หากข้อความนี้ลอยไปถึงคุณเปลว แล้วอยากทราบว่าใคร ก็ถามมาแล้วกันนะ จะบอกให้

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

ถึงคุณเปลวสีเงิน

ความจริงผมไม่ประสงค์ที่จะชี้แจงใดๆเรื่องวัดเลย

แต่เห็นท่านผู้เจริญทั้งหลายโพสในเชิงอคติโดยไม่ได้สอบทานข้อเท็จจริงให้ถ่องแท้ จะเป็นการสร้างเวร สร้างกรรมเปล่าๆ

ถ้าเราเอาข้อมูลจากสื่อมาวิเคราะห์ จะทำให้เกิดการเบี่ยงเเบนได้ครับ การบวชแสนรูปพร้อมกันเป็นการบวชเณรใช้การเปล่งวาจาขอสรณศีลสิบ ของสามเณรพร้อมกัน แล้วรับผ้าไตรจีวรกับพระอุปัชฌาย์ตามไลน์แถว. 





ส่วนการบวชเป็นพระภิกษุนั้น เมื่อบวชสามเณรแล้ว สามเณรก็เดินทางไปบวช ที่อุโบสถในวัดทั่วประเทศนับพันแห่ง โดยที่ที่มีพระอุปัชฌาย์นับพันองค์ ใช้เวลาหลายวัน

คุณแปลวสีเงินไม่ได้ไปดูข้อเท็จจริง อนุมานข้อมูลตามข่าวแล้วคำนวณปริมาณกับเวลาในกรอบที่ตนเอง คิด

การที่เราจัดบวชคนเป็นพระมากๆแทนที่จะอนุโมทนาบุญกลับถูกตำหนิ สังคมสมัยนี้ทำดียากจัง นะครับ

ส่วนเรื่องเงินที่ลงในบัญชีชื่อหลวงพ่อนั้นเพราะเวลาญาติโยมมาถวายในแต่ละสัปดาห์มาเป็นพันๆคน หลวงพ่อไม่สามารถทราบเลยว่าใครถวายเท่าไรท่านทำได้เพียงจับผ้ารับประเคนอยู่ข้างหลัง ส่วนด้านหน้าจะมีพระรับปัจจัยแทน

และจะมีพระเจ้าหน้าท่ีรวบรวมปัจจัยแล้วนำไปเข้าบัญชีตามวัตถุประสงค์ผู้บริจาค





สำหรับบัญชีหลวงพ่อที่มีเพราะ มีสาธุชนเขียนเช็คในนามชื่อท่าน ฝ่ายการเงินก็นำไปเข้าบัญชี เสร็จแล้วก็จะโอนไปตามภารกิจในงานมูลนิธิ ในวัด หรืองานก่อสร้าง ซึ่งมีระบบตรวจสอบได้

ฝ่ายการเงินวัด มีทั้งพระและเจ้าหน้าที่จบบัญชีจุฬาฯก็มี จบจากมหาลัยต่างๆ ที่มีความรู้ทางด้านการเงิน มาเป็นผู้ดำเนินการ

ความจริงเรื่องพระพุทธศาสนาละเอียดอ่อนน่าจะไปตรวจสอบดูให้ครบถ้วนจะได้ไม่เป็นเวรเป็นกรรมในภายภาคหน้า ไม่คุ้มเลยกับการตกนรกโดยพูดจาบจ้วงพระผู้บริสุทธิ์

หากติดใจสงสัยสิ่งใดที่ไม่ถูกต้องถามมาได้เลยครับ ไม่ต้องเกรงใจผมเชื่อว่าท่านและผมต่างเป็นผู้ใหญ่ปรารถนาดีต่อบ้านเมืองแต่อาจตกอยู่ภายใต้การครอบงำอิทธิพลของสื่อมวลชนปั้นแต่งข่าวให้เข้าใจคลาดเคลื่อนไป

จึงวิจารณ์ตามข้อมูลที่มี.

ถ้าคิดง่ายๆโดยไม่ต้องใช้ข้อมูลมาก หากมีบุคคลท่านหนึ่งจบคณะเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเกษตรฯ อายุยี่สิบกว่าแล้วบวชอุทิศชีวิตให้พระพุทธศาสนามาจนถึงอายุ73แล้ว





มีลูกศิษย์นับล้านคน ทั้งมหาเศรษฐี และประชาชนรากหญ้า มีคนศรัทธาจัดตั้งสาขาทั่วโลก ทุกทวีปกว่าร้อยห้าสิบแห่ง ทุ่มเทสั่งสอนคนมากว่าห้าสิบปี จะมีพฤติกรรมฉ้อฉล แสวงหาทรัพย์เพื่อตน ไปทำอะไร มูลค่าก่อสร้างถาวรวัตถุที่สร้างไว้ หลายหมื่นล้านเป็นศาสนสถาน

เมื่อรุ่นเราตายแล้ว ก็ส่งต่อให้ลูกหลานสานงานไป ก็จะเป็นสมบัติของชาติ เป็นของลูกหลานเรา สถานที่นี้ในอนาคตจะเป็นสถานที่ๆชาวโลกทุกศาสนามาใช้ เป็นศูนย์กลาง การฝึกสมาธิ นับล้านคน ท่านลองคิดดูว่าเศรษฐกิจในภายหน้า จะเป็นอย่างไร พวกผมภูมิใจท่ีได้เสียสละทำสิ่งเหล่านี้ใว้ ให้ลูกหลาน

ท่านท่ีไม่ได้ทำบุญความจริงต้องอนุโมทนาบุญถึงจะถูก

แต่กลับเจ็บปวดหัวใจ ที่เห็นพวกท่านจ้องทำลายศาสนสถานของชาติให้หายนะ ผมไม่รู้ว่าท่านเอาส่วนไหนมาคิดใช้หลักคิดอะไร

ท่านน่าจะตั้งคำถามในใจซิว่าเพราะอะไรคนอย่างท่านเจ้าของบริษัทอันดับหนึ่ง ติดชื่อเศรษฐีอันดับโลกหลายท่าน ท่านทานบดีผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลาย สาธุชนเป็นล้านๆคน ไม่ใช่คนโง่

ถูกหลอกได้ง่าย อย่างนั้นเลยหรือ

ท่านได้โปรดพิจารณาดูว่า ท่ีผมเขียนมานี้ ก็ไม่ได้มีความรู้สึกโกรธเกลียดอะไรท่านเลย กลับสงสารท่ีท่านไม่ได้มีโอกาสร่วมทำบุญใหญ่ให้พระพุทธศาสนาอย่างท่ีพวกผมได้ทำ แต่ยิ่งมาให้ร้ายตัดกำลังบุญคนอื่น จะทำให้เกิดวิบากกรรมตกนรกไปหลายภพหลายชาติ. ส่วนรายละเอียดข้อสงสัยใดๆต่อวัดและหลวงพ่อ ที่จะพึงมีในจิตใจ

ผมยินดีพาท่านทั้งหลายทัวร์ภายในบริเวณวัดได้เลยของจริงต้องทนต่อการพิสูจน์

หรือท่านไม่ยอมไปพี่บุญเลิศที่รัก

ลงชื่อ..... (สงวนไว้ ไม่ให้เอิกเกริก)

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


ขอข้อความนี้จงไปถึงเป้าหมาย แล้วสามารถไปสะกิดใจ ให้ท่านได้คิด ให้คลายความรู้สึกเกลียดชัง ต่อวัดพระธรรมกาย แล้วมาค้นหา พิสูจน์ มาศึกษาพวกเรา ว่า ที่คิดว่า เราบ้าบุญน่ะ คิดได้ครบไหม

จะบอกให้ว่า พวกเราบ้าบุญ มากกว่าที่ท่านจะคิดถึง ..นะจะบอกให้

อ้างถึง บทความที่เปลวสีเงินเขียน กดที่นี่