วันอาทิตย์, กันยายน 13, 2558
แว่วว่าทั่นหัวหน้า ‘รัฐบาลที่มาอย่างผมเช่นนี้ มันไม่มีใครพูดได้’ จะไปพูด ‘ไม่อ่านโพย’ จึงไม่มีการ ‘อ่านผิด’ ณ ที่ประชุมใหญ่ UNGA
แว่วว่าทั่นหัวหน้า ‘รัฐบาลที่มาอย่างผมเช่นนี้ มันไม่มีใครพูดได้’ จะไปพูด ‘ไม่อ่านโพย’ จึงไม่มีการ ‘อ่านผิด’ ณ ที่ประชุมใหญ่องค์การสหประชาชาติ (General Assembly) นครนิวยอร์ค วันที่ ๒๔ กันยายน นี้แน่
(นี่เดาจากที่ snipping จับความเอาตามข้อเขียน Pavin Chachavalpongpun นะฮัฟ รวมถึงถ้อยคำที่ว่า “สงสัย คงต้องไปให้การต้อนรับซะหน่อย” ด้วย)
อีกทั้งสื่อเล่นข้างของไทยอย่าง ‘ทีนิวส์’ และ ‘แนวหน้า’ ช่วยกันประโคมขนานใหญ่ (ขออภัยไม่ให้ลิ้งค์) ก็คงมีใครต่อใครหลายๆ คน อยากไปร่วมต้อนรับกันเยอะมั้ง
หวังว่าทั่นผู้ณรรมจะไม่ประหม่าจนเกิดอาการคล้าย menopause อย่างเดิมๆ ล่ะ (นี่บังเอิญตรงกับที่ The Huffingtonpost เขาเรียกทั่นว่า ‘the slightly mad Queen of Hearts’)
ประเดี๋ยวเผลอไปฮึ่มกับนักข่าวฝรั่งว่าจะเอา ‘พล้าสเตอร์ปิดปาก’ อะไรเนี้ย เสียหน้าบูรพาพยักเพยิดแย่เลย
แล้วก็วิธีพูดปฏิเสธนำร่องก่อนบอกว่า ‘เออน่ะ ใช่แน่’ แบบว่า “ผมไม่ใช่พ่อเขานะ แต่หมายความว่าถ้าลูกคุณขัดคำสั่งคุณ คุณจะยอมหรือไม่ ผมว่าไอ้คนที่ชอบทำผิดกฎหมายกับผม ทำอย่างนั้นกับผมไม่ได้”
ขืนพูดแบบนั้นในนิวยอร์คศูนย์กลางสากล มนุษย์ทั้งหลายเขามีพ่อคนเดียวทั้งนั้น ย่อมไม่ยอมให้ทั่น groan ใส่หรอก
ดั่งอ้างถึงกรณีส่งตะหานไปเชิญอดีตรัฐมนตรีพลังงานรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พิชัย นริพทะพันธุ์ ไปเข้าค่ายสระบุรีเพื่อปรับทัศนคติ ๗ วัน เหตุที่เขาวิจารณ์การบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลทหาร (ภายในปีเดียวจากที่พอถูไถกลายเป็นลูกผีลูกคนเวลานี้)
กับที่กำลังจัดการกับ ‘เก่ง’ การุณ โหสกุล อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย เห็นภรรยาเขาบอกว่าสามียังไม่ได้ทำอะไร ยังไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของทั่นผู้ณรรมเลยสักนิด ส่วนข้อหาให้การสนับสนุนอดีตนายกฯ ทักษิณ นั่น ‘บ้าจี้’ นะทั่น
คิดเหรอว่าที่พร่ำบอกกับต่างประเทศว่า “โร้ดแม้พ โร้ดแม็พ” นั้นมันจะขลังเหมือนอย่างที่ทีนิวส์ แนวหน้า และไทยโพสต์ (แอสทีวีเป็นครั้งคราว) ช่วยกันวาด (paint v. แปลว่า ‘ป้ายสี’ ก็ได้นะ)
พวกฝรั่งมังค่า ตุรกี อัยกูร์ เขารู้ไส้ คสช. จะหมดพุงอยู่แล้วว่าแค่อยากอยู่ยาว ได้อิ่มหมีพีมัน ก็เลยคอยแต่หาแพะไปวันๆ
เอางี้ดีกว่า ดูจากสื่ออเมริกันชนิด high profile เช่น ‘ฟอร์บ’ และ ‘ฮัฟฟิงตัน โพสต์’ ที่เขาตีพิมพ์บทความของ Doug Bandow เรื่อง ‘Military Junta Turns Thailand into Land of Frowns.’
(http://www.huffingtonpost.com/…/military-junta-turns-thai_b…)
ประมาณว่าพวกเผด็จการเปลี่ยนประเทศไทย (จาก smiles) เป็น ‘หน้านิ่วคิ้วขมวด’ ด้วยเหตุที “the regime has failed on all three counts.” จากที่ “his (Generalissimo Prayuth’s) junta promised happiness, prosperity, and security.”
บทความยังเปรียบเทียบนายพลนักเผด็จการไทยว่าเอาแบบอย่างผู้เผด็จการทหารอียิปต์ไว้ด้วย “Much like the Egyptian military dictatorship, the regime instructed college administrators and education bureaucrats to monitor and restrict student protests.”
นอกจากเสนอความเห็นต่างๆ ของนักสิทธิมนุษยชน นักการเมือง นักวิชาการ อย่าง Niran Pitakwatchare, a member of the National Human Rights Commission Nipit Intarasombat, deputy leader of the anti-Thaksin Democrat Party และ Pavin Chachavalpongpun of Japan's Kyoto University แล้ว
กล่าวได้ว่าบทความยังรู้ละเอียดไปถึงเรื่อง “Prayuth suggested that the police watch the New York police drama ‘Blue Bloods’ for help: "They will get tips, ideas and insights into their case. (on Bangkok bombing)"
เข้าใจนะ ไม่ต้องให้ อจ.ปวิน จ้ำจี้จ้ำไช ตอกย้ำซ้ำหัวตะปูเกือบทุกวัน บอกเลยว่าสื่ออเมริกันอาจมีบ้างประเภท ‘kiss asses’ แต่คงไม่ไปไกลถึงขนาด ‘lick boots’ จะปากล้วยใส่ หรือคลึงใบหูเล่นก็ไม่ได้
แล้วก็เลิกเสียเถอะ “increased use of Thailand's oppressive lese-majeste laws” ที่ตามรายงานของ Freedom House กล่าวว่า “The military is employing these abusive measures to halt even modest criticism in the name of ‘national security’.”
เรื่องอย่างนี้สื่อต่างชาติรู้แล้ว รู้ลึก และรู้เยอะ กระทั่งสื่อท้องที่ซานดิเอโก ย่านท่องเที่ยวใต้สุดแคลิฟอร์เนียที่จัดว่ามักคุ้นกับทหาร เพราะมีค่ายทัพเรือขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ยังสามารถเล่าละเอียดถึงการประชุมสมัชชาเสรีไทย (องค์กรต้านรัฐประหารและเผด็จการ คสช. ในสหรัฐ) ณ นครลาส เวกัส เมื่อเร็วๆ นี้
เมื่อวันก่อน The Times of San Diego ตีพิมพ์บทความที่ว่า “They say that what happens in Vegas stays in Vegas. No more.” เขียนโดย Leonard Novarro and Rosalynn Carmen ถึงรายละเอียดการประชุมเมื่ออาทิตย์ที่แล้วดังกล่าว
(http://timesofsandiego.com/…/american-thai-community-seeks…/)
เขาได้สัมภาษณ์ทีมงานผู้จัดและผู้เข้าร่วมประชุมหลายคน จากที่ไปงานนี้ราวกว่าร้อยเล็กน้อย แล้วลงท้ายว่า ทั้งๆ ที่มีคนเสนอให้ลงมติ “We will end the monarchy.” แต่ที่ประชุมไม่อาจมี ‘ฉันทา’ ได้
จึงเพียงสรุปข้อเสนอแนะส่งให้รัฐบาลทหารในประเทศไทย พร้อมทั้งส่งไปยังองค์กรของสหประชาชาติ ใจความว่า
“ให้ยกเลิกการเก็บภาษีแบบให้สิทธิพิเศษเฉพาะบางคน เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ห้ามกองทัพเป็นผู้บริหารปกครอง ละเว้นใช้สถาบันกษัตริย์เป็นอิทธิพลครอบงำระบบราชการ ให้สถาบันกษัตริย์มีบทบาทในทางสัญญลักษณ์เท่านั้น ยุติการใช้ข้อห้ามการใช้สื่อทางสังคมและวิธีการประท้วงต่อต้านใดๆ และปลดปล่อยนักโทษทางการเมืองทุกๆ รายที่ถูกคุมขังโดยคณะยึดอำนาจชุดนี้”
ที่นิวยอร์คอาจมีคำถามเรื่องต่างๆ เหล่านี้ต่อทั่นผู้ณรรม เพื่อให้ชาวโลกได้รับรู้ว่า เดอะ เจ็นเนรัลลิสสิโม คิดเห็นอย่างไร ต่อข้อเรียกร้องหลักการที่นานาอารยะประเทศถือมั่นเป็นสรณะแห่งนิติรัฐ ผู้ที่ต้องการประชาธิปไตยแท้จริงสำหรับประเทศไทยเดี๋ยวนี้ (ไม่อยากรอ) ตั้งคอคอยฟังกันอยู่
เว้นแต่ที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติเกิดคร้านสำนวนวกวน ‘โร้ดแม็พ โร้ดแม็พ’ ซ้ำซากปราศจาก substances ไม่กำหนดให้ทั่นพูด จนเป็นเหตุให้ทั่นเปลี่ยนใจ
หรือข้อสำคัญมากๆ หากสถานกงสุลใหญ่ไทยประจำนิวยอร์คต้องออกประกาศเตือน “งดแสดงตัวเป็นคนไทย” เหมือนกงสุลใหญ่ ณ นครแฟร้งค์เฟิร์ต บ้างละก็ จบกัน