|  | 
| (ภาพจาก Kim J. Lee) | 
ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อสองวันก่อนหน้า
ปรากฏข้อความชักชวนให้ไปร่วมการชุมนุมครั้งนี้ทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยกลุ่ม ENGAGE ของนักศึกษาแลกเปลี่ยนอเมริกันที่เคยร่วมรณรงค์เพื่อชุมชนอีสานกับขบวนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในประเทศไทย
อาทิ กลุ่มดาวดิน ปัจจุบันกลุ่ม ‘เอ็นเกจ’ นี้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ของไทย
การชักชวนชุมนุมโดยเอ็นเกจครั้งนี้ประจวบเหมาะกับการนัดหมายอภิปรายถึงความเสียเปล่าจาก
๙ ปีแห่งการรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ที่ห้องประชุมประกอบ หุตะสิงห์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งจัดโดยกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่
โดยมีกำหนดว่าหลังเสร็จการอภิปรายจะพากันเดินไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
เพื่อแสดงสัญญลักษณ์ต่อต้านรัฐประหารและเชิดชูประชาธิปไตย
นายไมเคิล อะกิลาร์ ผู้ประสานงานศูนย์เอ็นเกจประจำลอส
แองเจลีส
กล่าวว่าการมาวันนี้ยังเป็นการมาทวงถามคำตอบต่อข้อเรียกร้องที่ยื่นไว้ในการชุมนุมเมื่อเดือนที่แล้วผ่านรองกงสุลใหญ่ไปสู่หัวหน้า
คสช. ให้ยุติการบังคับใช้ ม.๔๔ ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว ๒๕๕๗
อันเป็นกฏหมายเผด็จการที่ให้อำนาจเบ็ดเสร็จแก่หัวหน้าคณะรัฐประหารเหนืออำนาจอธิปไตยทั้งสามแขนงของไทย
ทั้งยังเรียกร้องให้ปล่อยนักโทษการเมืองทั้งหมดในทันทีด้วย
อย่างไรก็ดี ข้อเรียกร้องในคราวที่แล้วมิได้รับการใส่ใจจากคณะรัฐบาลทหารแม้แต่น้อย
จึงเป็นโอกาสที่ได้ทำการยื่นหนังสือผ่านสถานกงสุลใหญ่อีกครั้ง
โดยตัวแทนเอ็นเกจประกาศว่า จะมาชุมนุมตามสิทธิอันชอบธรรมในสังคมอเมริกัน
และทวงถามคำตอบทุกๆ เดือนจนกว่าภาวะการณ์ประชาธิปไตยกลับคืนมาในประเทศไทย
ก่อนที่นายไมเคิลแห่งเอ็นเกจ และนายประจวบ เจริญสุข
ตัวแทนกลุ่มเร็ดยูเอสเอ ในลอส แองเจลีส จะขึ้นไปยังที่ทำการสถานกงสุลเพื่อยื่นหนังสือ
ได้มีกิจกรรมย่อยๆ ของการชุมนุม
โดยล้อมวงปาฐกถาแลกเปลี่ยนกันเกี่ยวกับสถานการณ์ข่มเหงและคุกคามแนวทางประชาธิปไตยในประเทศไทย 
จากนั้นนายไมเคิลได้ชักชวนผู้ร่วมชุมนุม
๕ คน อาสาสมัครเล่นกิจกรรม ‘Human Knots’ หรือในที่นี้เรียกเป็นไทยว่า ‘เงื่อนมนุษย์’ 
กิจกรรม ‘เงื่อนมนุษย์’ เริ่มโดยชายหญิง
๕ คนยืนจับมือกันกับคนที่อยู่ข้างๆ ล้อมเป็นวงกลม เสร็จแล้วทุกคนปล่อยมือ
หลับตา
นายไมเคิลเป็นผู้เข้าไปนำพาผู้ร่วมกิจกรรมที่ยืนล้อมวงนั้นสองสามคนเคลื่อนจากตำแหน่งเดิมไปเล็กน้อย
ก่อนบอกให้ลืมตาและยื่นมือออกไปหามือเดิมที่ตนเคยจับ
จากนั้นให้ต่างพยายามหาทางกลับไปจับมือล้อมวงเหมือนตอนเริ่มต้น
โดยห้ามปล่อยมือที่จับกันอยู่
หลังจากที่ผู้ยืนล้อมวงพยายามยกข้อศอก บิดตัว
ก้มหัวรอดวงแขน กันสามสี่ครั้งก็สามารถกลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมสำเร็จ
ได้รับการปรบมือชื่นชมจากผู้ชุมนุมอื่นๆ ที่รายล้อมดูอยู่
นายไมเคิลได้ขอให้ทุกคนหลับตาอีกครั้ง
คราวนี้เขาพาแต่ละคนเปลี่ยนจุดจากที่ยืนอยู่อย่างสับสนมากขึ้น ครั้นถึงตอนที่จะหาทางกลับสู่ตำแหน่งเดิมพบว่ากรรมวิธียกแขน
มุดศีรษะรอดไปมานั้น ต้องใช้การประสานงานที่ซับซ้อนและทุกคนร่วมแก้ปมไปพร้อมๆ
กัน แม้จะใช้เวลามากขึ้นไปอีกหน่อย แต่ท้ายสุดก็กลับสู่จุดเดิมได้ทุกคน
 ผู้ประสานงานเอ็นเกจอธิบายว่า ‘เงื่อนมนุษย์’ นี้คือส่วนหนึ่งในแผนงานของกลุ่ม
และว่าการชุมนุมครั้งนี้ไม่ใช่การมาร่วมกันเพื่อ “seize the moment” แต่เป็นการ “make the movement” นั่นคือเมื่อเข้าสู่ภาวะติดขัด
สับสน การแก้ปมเงื่อนมนุษย์ไม่อาจสำเร็จได้สะดวก หากขาดการประสานร่วมงานกันจากทุกๆ
คน โดยไม่ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งมาบงการแก้ปัญหา
หากแต่ละคนมุ่งหน้าแก้ปมของตนเองโดยประสานกับคนข้างๆ เงื่อนก็จะหลุดได้ในไม่ช้า
ผู้ประสานงานเอ็นเกจอธิบายว่า ‘เงื่อนมนุษย์’ นี้คือส่วนหนึ่งในแผนงานของกลุ่ม
และว่าการชุมนุมครั้งนี้ไม่ใช่การมาร่วมกันเพื่อ “seize the moment” แต่เป็นการ “make the movement” นั่นคือเมื่อเข้าสู่ภาวะติดขัด
สับสน การแก้ปมเงื่อนมนุษย์ไม่อาจสำเร็จได้สะดวก หากขาดการประสานร่วมงานกันจากทุกๆ
คน โดยไม่ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งมาบงการแก้ปัญหา
หากแต่ละคนมุ่งหน้าแก้ปมของตนเองโดยประสานกับคนข้างๆ เงื่อนก็จะหลุดได้ในไม่ช้า
เสร็จสรรพจากการยื่นหนังผ่านกงสุลใหญ่แล้ว
ได้มีการนำแผ่นกระดาษขนาดใหญ่มากางให้ผู้ร่วมชุมนุมเขียนข้อความไปถึงพล.อ.ประยุทธ์
ซึ่งจะไปร่วมประชุมใหญ่ประจำปีขององค์การสหประชาชาติในนครนิวยอร์คตั้งแต่วันที่ ๒๔
กันยายน ที่จะถึงนี้ ซึ่งสมาชิกเอ็นเกจในท้องที่นิวยอร์คกับกลุ่มคนไทยต่อต้านเผด็จการที่นั่น
พร้อมทั้งคนไทยอีกจำนวนหนึ่งที่เดินทางไปจากเมืองอื่นๆ ทั้งในและนอกสหรัฐ
จะร่วมกันชุมนุมประท้วงพล.อ.ประยุทธ์ ในบริเวณหน้าที่ทำการสหประชาชาติในวันที่ ๒๖
กันยายน
อนึ่ง ในการชุมนุมหน้าสถานกงสุลไทยในลอส แองเจลีสครั้งนี้
มีเจ้าหน้าที่จาก State Department สองคนไปคอยสังเกตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ
และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ LAPD ในเครื่องแบบสามนายไปรักษาการณ์ตอนช่วงท้าย
(ผู้สื่อข่าวพิเศษไทยอีนิวส์ในแอล.เอ. รายงาน)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 



 
 
