ทั่นยั๊วอีกแล้ว “พูดงี้ มาชกปากกันมั้ย” เดี๋ยวได้ฉายาใหม่นะ ‘นายั๊ว’
แต่ก็มีคนคอมเม้นต์ว่า ‘ใครจะกล้า’ ลิ่วล้อ รปภ. คุมหลังทั่นกว่าสิบ
ตามรายงานข่าวจากเฟชบุ๊ค Wassana Nanuam with Wassana Nanuam
ในช่วงท้ายของการพูดงานขับเคลื่อน SMEs พล.อ.ประยุทธ์ ได้สอบถามว่าใครมีอะไรสงสัยหรือไม่ โดยหันไปถาม พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผบ.ช.น.๑ ว่า
“พี่นวยมีปัญหาอะไรหรือไม่ ตอนนี้ตำรวจดีๆมีเยอะ ถ้าไม่มีตำรวจน่ะยิ่งกว่านี้ ทุกอย่างมันอยู่ที่คนสั่ง อย่าไปเกลียดชังเขาเลย ถ้าไม่มีตำรวจไปจ้างยามเอามั้ย”
"มีคนเสนอว่าไม่ต้องมีตำรวจ ไม่ต้องมีทหาร มีมาทำไม ทหารไม่ทำอะไรปฏิวัติอย่างเดียว แล้วพวกมึงทำเลวกันรึเปล่าเล่า ถ้าทำดีแล้วใครจะทำ ทำดีแล้วผมจะมายืนตรงนี้ทำไม ผมเองอายเขา เสี่ยงทุกอย่างเข้ามา แล้วมาพูดกันอย่างนี้มาชกปากกันมั้ย"
แล้วทั่นก็ตลก..โปกฮา ต่อไปตามเรื่อง ไม่มีไรมาก ‘โร้ดโชว์’ ฝึกไว้ไปพูดที่ยูเอ็น
อีกอย่างเบี่ยงเบนความสนใจเรื่องใหญ่กว่าเวลานี้ ‘วิบากกรรมรถไฟ ไทย-จีน’ ที่ประชาชาติธุรกิจเขาบอกว่า
“ลงเสาเข็มไม่ทันเดือนตุลาคมอย่างที่วาดแผนไว้ รอลุ้นอีกเฮือกจะปักหมุดทันเดือนธันวาคมนี้ อย่างที่ได้ลั่นวาจา หรือจะเลื่อนยาวข้ามไปถึงปีหน้า...
รวมถึงต่อรองอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จีนให้ได้อัตราไม่เกิน ๒% จากที่จีนเสนอมา ๓.๒๘% (รวมค่าเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน) เนื่องจากยังสูงกว่าเงินกู้ในประเทศ (พันธบัตรรัฐบาล) อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ ๓.๑๕% เงินกู้จากประเทศญี่ปุ่นผ่านไจก้า และต่อรองให้จีนรับภาระความเสี่ยงโครงการร่วมกันจากการตั้งบริษัทร่วมทุน (SPV) งานระบบและเดินรถในสัดส่วน ๕๐ : ๕๐ จากเดิมจีนขอร่วมทุนสัดส่วน ๔๐% และไทย ๖๐%”
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมป้ายแดงเผยว่า “ขณะนี้มูลค่าโครงการยังไม่นิ่ง”
“ซึ่งเงินลงทุนเสนอมายังสูง โดยจีนชี้แจงว่าเพราะช่วงแรกมีการสร้างอุโมงค์และสะพานถึง ๗๕% ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นจากเดิมที่ไทยเคยศึกษาไว้”
(http://m.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1442392086)
ผู้รับเหมาหมดขอขึ้นราคา ว่างั้นเหอะ ทั้งๆ ที่คว้านิ่มๆ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ไปแล้ว ๔ พันล้าน เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม
เนื่องจาก “เมื่อถึงกำหนดยื่นซองประมูลกลับมีเพียงกลุ่มกิจการร่วมค้าชางชุนจากจีนเพียงรายเดียวยื่นข้อเสนอ...
ทั้งนี้ เหตุที่ผู้ผลิตรถไฟฟ้ากลุ่มอื่นๆไม่เข้าร่วมนั้น เพราะมีการกำหนดเงื่อนไขที่ทำให้ผู้ผลิตรถไฟรายอื่นไม่สามารถทำตามได้ แม้ก่อนหน้านี้บริษัทซีเมนต์ จะทำหนังสือทักท้วงการรถไฟไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข จึงทำให้ไม่มีเอกชนผู้ผลิตรายอื่นเข้าประมูลได้”
(http://www.thairath.co.th/content/525800)
ตานี้ทำไงล่ะ หาเงินไม่ค่อยได้ ติดขัดนิดหน่อย รีดเลือดจาก ‘ปู’ ดีฝ่า
“คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและกำหนดค่าความเสียหาย และคณะกรรมการว่าด้วยการรับผิดทางแพ่งคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มีมติให้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย มูลค่า ๕.๑ แสนล้านบาท
แบ่งเป็นโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ๕ แสนล้านบาท และโครงการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และข้าราชการ มูลค่า ๑ หมื่นล้านบาท...
การใช้วิธีการดังกล่าวเป็นการสั่งให้ผู้กระทำผิดชดใช้เงินค่าสินไหมทดแทนโดยตรง แทนการยื่นฟ้องทางแพ่งต่อศาลซึ่งจะใช้เวลานานและมีขั้นตอนยุ่งยาก
หากศาลเห็นว่าคำสั่งของกระทรวงการคลังชอบแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวกต้องชดใช้ค่าเสียหายในทันที หากไม่นำเงินมาชำระภายในเวลาที่กำหนด ให้เจ้าพนักงานสามารถดำเนินการยึดทรัพย์ได้”
(http://www.posttoday.com/politic/388746)
เห็นไหมล่ะ เป็นนายกฯ จากการยึดอำนาจเอาเนี่ย จะทำอะไรก็ง้าย ง่าย ตามสไตล์ the generalissimo speaks
มิน่าถึงได้รางวัล ‘ผู้นำที่ส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน' ที่นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่าทั่น “เตรียมขึ้นรับรางวัลจากสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ” ตอนไปนิวหยอกเที่ยวนี้
(ข่าวดีๆ อย่างนี้ต้องค่ายเนชั่นจัดให้http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/666195)
