วันจันทร์, กันยายน 14, 2558
โอละพ่องแล้วนี่คดีเกาะเต่า เหลืออีกสองอาทิตย์จะปิดคดี ‘ดีเอ็นเอ’ บนอาวุธของกลางไม่ match สองหม่อง ทางการไทยจะปิดฝาโลงไงล่ะ?!?
โอละพ่องแล้วนี่คดีเกาะเต่า ‘ดีเอ็นเอ’ บนอาวุธของกลางไม่ match สองหม่อง
เหลืออีกสองอาทิตย์จะปิดคดีผู้ต้องหาฆ่าฝรั่งอังกฤษสองคนที่เกาะเต่า ที่เป็นข่าวนอกประเทศไทย โดยเฉพาะอึกทึกมากในอังกฤษ
คุณหญิงแพทย์ พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้เชี่ยวชาญนิติเวชบอกศาลสมุยว่า ดีเอ็นเอทีตรวจพบบนด้ามจอบของกลาง เชื่อว่าเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้สับหัวแฮนนาห์ วิทเตอริดจ์ กับเดวิด มิลลเลอร์ หนุ่มสาวนักท่องเที่ยวนั้น
ไม่ต้องตรงกับดีเอ็นเอของสองหนุ่มคนงานพม่า วัย ๒๒ ปีทั้งคู่ ซึ่งก่อนหน้านี้กลับคำให้การอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ไทยข่มขู่บังคับให้รับสารภาพ
ซาร่าห์ หยวน รายงานไว้ในหนังสือพิมพ์ Eastern Daily Press ของอังกฤษ (เมื่อวาน ๑๑ กันยายน) ว่าถ้อยแถลงของคุณหญิงพรทิพย์สร้างความประหลาดใจแม้แต่กับ นคร ชมพูฉัตร ทนายจำเลยที่ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากตำรวจว่าไม่ปรากฏคราบดีเอ็นเอใดๆ บนจอบ
หมอพรทิพย์ยังบอกด้วยว่าการเก็บหลักฐานของตำรวจเต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อถือ ไม่ถูกต้องตามหลักวิธีทางนิติเวช
“เธอบอกว่าไม่มีการเก็บหลักฐานจากกองเลือดบนผืนทรายหาดสายรีเกาะเต่าที่เกิดเหตุเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว” ไม่มีแม้แต่เก็บหลักฐานดีเอ็นเอจากเสื้อผ้าบนร่างของแฮนน่าห์ในวันที่พบว่าเธอเสียชีวิต
“ไม่มีการถ่ายภาพหลักฐานอย่างเหมาะควรในสถานที่เกิดเหตุ พอที่จะใช้ประกอบการตรวจสอบทางนิติเวชให้ได้ผล การจัดเก็บดีเอ็นเอก็ไม่ต้องตามระเบียบที่ถูกต้อง...เอกสารบันทึกหลักฐานดีเอ็นเอถูกขีดแก้ การลงวันที่ก็ไม่ถูกต้องกับวันจริง”
หนักหน่วงกว่านั้น คุณหญิงหมอบอกว่างานนี้จำเป็นจะต้องมีการตรวจสอบดีเอ็นเอโดยหน่วยงานอิสระ จนกว่าหน่วยตรวจสอบของตำรวจไทยจะได้มีการปรับวิทยาการให้ทันสมัยและได้รับความเชื่อถือ
(http://www.edp24.co.uk/…/dna_found_on_murder_weapon_does_no…)
อ่า การนี้ แอนดรูว์ ดรัมมอนด์ นักหนังสือพิมพ์อิสระชาวอังกฤษที่เคยอยู่กรุงเทพฯ มานาน แล้วเร็วๆ นี้ต้องอำลาเมืองไทย หลังจากเกาะติดทำข่าวเจาะลึกคดีเกาะเต่า เขารายงานล่าสุดว่า
“หมอพรทิพย์...เธออาจเคยถูกจับผิดเรื่องการทุจริตจัดซื้อเครื่องตรวจระเบิด จีที-๒๐๐ ที่เธอให้คำรับรองสนับสนุนต่อทางการตำรวจและกองทัพบกไทย ทั้งที่เป็นอุปกรณ์ปลอมแปลงอันไร้คุณค่า”
(สำหรับท่านที่รู้แล้วอยากรู้อีกว่าไอ้ GT-200 นี่โด่งดังขนาดไหน ชนิดคนขายโดนคดีอาญาระนาวในอังกฤษ แต่คนซื้อประเทศไทยเอ้อระเหิดไปกับกลิ่นอายไอระเหย งบประมาณจัดซื้อละลายหายจ้อย แนะว่าต้องเสาะไปชมเสื้อทีเชิ้ร์ตที่ อจ.กานดา นาคน้อย รณรงค์จัดทำเพื่อมอบส่วนเกินค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกหลานนักโทษการเมืองเป็นทุนศึกษา)
อย่างไรก็ดี การเสนอรายงานตรวจสอบครั้งนี้ พบดีเอ็นเอบนด้ามจอบอาวุธของกลางว่าเป็นของบุคคลที่ไม่ใช่สองหนุ่มพม่าผู้ต้องหา นับว่า ‘ระเบิดเถิดเทิง’ (bombshell) เป็นอย่างยิ่ง
ข้อเขียนของนายดรัมมอนด์พูดถึงประเด็นหน่วยงานสก็อตแลนด์ยาร์ด และทางการตำรวจนอร์ฟ้อคในอังกฤษ ซึ่งส่งเจ้าหน้าที่ของตนมาร่วมการสืบสวนสอบสวนกับตำรวจไทย แต่มีเสียงครหาในหมู่สื่ออังกฤษว่า “ใช้ล่ามที่ทางตำรวจไทยจัดให้”
ซึ่งนายแอนดรูว์ไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น แต่หากถามว่า “สก็อตแลนด์ยาร์ดอาจถูกหลอกได้ไหม” เขาตอบว่า “Certainly.” แหงแก๋
เนื่องจากแม้สก็อตแลนด์ยาร์ดจะชื่อเสียงโด่งดังทาง ‘สืบ-สอบ-สวน’ ไปทั่วโลก จนเป็นนายแบบหนังฮอลลีหวูด แต่สำหรับชื่อเสียงภายในบ้านแล้ว ไม่ค่อยสูงส่งเท่าไหร่
ทนายจำเลยพยายามแล้วพยายามอีก ร้องอ้อนวอนต่อศาล (รวมกระทั่งยื่นคำร้องเป็นทางการด้วยลายลักษณ์อักษร) ขอดูขออ่านรายงานที่สก็อตแลนด์ยาร์ดและตำรวจนอร์ฟ้อคมอบแก่ศาลหลังจากการร่วมสืบสอบเดือนกว่าในไทย ศาลท่านก็ยังยืนกรานจนบัดนี้ว่าขอเก็บไว้อ่านเองเท่านั้น
นายดรัมมอนด์ยังอ้างอีกว่าตำหวดไทย ‘เชื่อถือยาก’ เพราะเคยมีชื่อเสีย_โด่งดังในหมู่ต่างชาติ เรื่อง ‘ห้ามถาม ห้ามเถียง’ เกี่ยวกับรูปคดีจากกรณีฆาตกรรมเคิร์สตี้ โจนส์ บัณฑิตสาวชาวอังกฤษถูกฆ่าข่มขืนที่เชียงใหม่
(http://www.andrew-drummond.com/p/about.html)
แล้วไงล่ะ ทางการไทยต้องการเร่งปิดคดีเกาะเต่าเอาแพะขึ้นเขียง กะจะปิดฝาโลงภายในสี่วันเมื่อถึงกำหนดซักพยานรอบสุดท้ายเริ่มวันที่ ๒๒ กันยายนนี้
เห็นทีจะต้องถูก amplified ในอังกฤษอีกยกใหญ่ ไม่รู้จะดังไปถึงนิวหยอกอ๊ะป่าวนะทั่น ถ้างั้นไอ้ที่มีคนไปก่อกองไว้ที่ฮาวาร์ด ก็เลยเสียของ