 |
| วันที่ 7 กันยายน ดร.เสรี วงษ์มณฑา อดีตแกนนำ กปปส. ได้เขียนข้อความผ่านทางเฟสบุ๊กส่วนตัว ดร.เสรี วงษ์มณฑา ระบุว่า |
ที่มา มติชนออนไลน์
ที่เราเป็นอย่างที่เป็นอยู่เวลานี้ เพราะเราเป็นคนที่ใสสะอาดมีคนยกย่องมาตลอดชีวิตจนถึงอายุ 65 แต่เราต้องมาเจอคนที่อายุน้อยกว่าทำให้เรามีรอยด่างที่กลายเป็นประวัติศาสตร์ที่ไม่อาจจะลบได้ เราเรียนหนังสือดี สอบได้ที่หนึ่ง ครูรักเราทุกคนตั้งแต่ประถม มัธยม อุดมศึษา บัณฑิตศึกษา เราเป็นหัวหน้าห้อง เป็นรองประธานนักเรียน เป็นกรรมการนักศึกษา เป็นตัวแทนโรงเรียนในการแข่งขัน ทำกิจกรรมของโรงเรียนของมหาวิทยาลัย เป็นคนที่มีลักษณะผู้นำที่มีคนยินดีตาม ไปเมืองนอกเราก็ได้ทุนไปเรียนไม่เคยเสียเงิน เป็นตัวแทนนักเรียนไทยในการนำเสนอวัฒนธรรม เป็นรองประธานนักเรียนต่างชาติของมหาวิทยาลัย ได้ทุนเป็นอาจารย์ผู้ช่วยสอนในระดับปริญญาตรี ได้ทุนผู้ช่วยวิจัย เพื่อนรัก อาจารย์รัก เพราะเราชอบทำงานให้กับสังคม มารับราชการเราได้ 2 ขั้นเกือบทุกปี
เราเป็นอาจารย์ที่ลูกศิษย์รัก เพื่อนอาจารย์รักจนได้เป็นคณบดี เราทำงานสื่อมวลชนมีคนชวนเขียนบทความ ได้รางวัลเทพทองนักจัดรายการวิทยุดีเด่น ได้รางวัลนักประชาสัมพันธ์กิติคุณสังข์เงิน ได้รางวัลเมขลา ได้รางวัลสื่อดีเด่นของสมาคมคาทอลิก ได้รางวัลหน้ากากทองคำละครเวทียอดนิยม 2 ปีซ้อน ได้รางวัลหน้ากากทองคำนักแสดงสมทบยอดเนี่ยม ได้รางวัลวิก 07 ทองนำนักแสดงอาวุโสยอดเยี่ยม ด้านวิชาการได้เป็นรองศาสตราจารย์ ได้ทุนทำวิจัย ได้รับเลือกเป็นนักวิชาการดีเด่นของสมาคมมหาวิทยาลัยเอกชน เราเป็นนักบรรยายขายดีที่ค่าตัวสูง ได้รับเชิญให้บรรยายทั้งบริษัทเอกชน รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานราชการ กองทัพ สถาบันพระปกเกล้า วปอ. โรงเรียนเสนาธิการ วัดต่างๆ สถานศึษาต่างๆ ในทางธุรกิจเราอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของสินค้าหลายยี่ห้อในฐานะที่ปรึกษา
เราทำโครงการรณรงค์ให้รัฐบาลหลายเรื่อง ไม่ว่าเราทำอะไร เราทำด้วยจิตสาธารณะ ด้วยสำนึกความรับผิดชอบต้อสังคม ต่อแผ่นดิน เราไม่เคยคิดร้ายใคร เราไม่เคยมีเจตนาทำลายชาติ เราทำในสิ่งที่เราคิดว่าจำเป็นในการแน่วแน่แก้ไข
แต่บัดนี้เรามีรอยด่างในชีวิตเสียแล้ว มันเป็นรอยด่างที่เป็นประวัติศาสตร์ที่ลบไม่ได้ เป็นรอยด่างที่แสดงว่าเราเป็นคนไม่ดี เป็นคนสร้างปัญหา การแสดงว่าเราไม่ดีนั้นเขาแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน เป็นการกระทำที่ทำให้เราเสียใจมาจนทุกวันนี้ ไม่เคยนึกว่าคนที่มีจิตสาธารณะและมีเจตนาดีต่อบ้านเมืองจะได้เจอ
มันเป็นความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่แทบจะทำให้เราเป็นคนซึมเศร้า มันลบออกจากใจยากจริงๆ เพราะบัดนี้เราไม่อาจจะตายไปอย่างคนไร้ความด่างพร้อย บัดนี้มีรอยด่างที่ทำให้คนมองว่าเป็นคนไม่ดี เป็นคนสร้างปัญหาให้กับบ้านเมืองไปเสียแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะตายอย่างมีความสุขได้อย่างไร เขาจะรู้บ้างไหนะว่าเขาทำลายความภูมิใจในตัวเราไปหมดสิ้นแล้ว เรารู้สึกรันทดเต็มประดา
ใครจะช่วยชี้ทางสว่างให้ใจเราสงบกับรอยด่างพร้อยในชีวิตครั้งนี้ได้บ้าง ทำไมคนที่พยายามทำดีเพื่อสังคมตลอดมาจึงต้องเจอกับเรื่องทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ บอกจริงๆว่าเวลานี้ถ้าไม่มีนักศึกษาที่เป็นศิษย์ ลูกค้าที่ยังช่นชมความสามารถของเรา ป่านนี้เราคงต้องพึ่งจิตแพทย์แล้ว
ooo
ไทยอีนิวส์ฝากคลิปเก่าให้ท่านด็อกเตอร์ เป็นการรำลึกถึงความหลังครั้งยังชื่นมื่น หวังว่าคงจะดีขึ้นนะครับ...
https://www.youtube.com/watch?v=3wd2928Z4fg
ooo
คลิปเด็ด! ดร.เสรี ตอบคำถามสื่อนอก ถึงเหตุล้มรัฐ-เลือกตั้ง ก่อนจะยอมรับมีคอรัปชั่นทั้ง 2ฝ่าย แต่ทักษิณเอาทรัพย์สินราชการเป็นไปเป็นของตนเอง
รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ (14 ม.ค. 57) ได้เกิดเหตุฮือฮาขึ้นที่เวทีราชประสงค์ เมื่อ ดร.เสรี วงศ์มณฑา 1ในแกนนำกลุ่ม กปปส. ได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวต่างประเทศอย่างเผ็ดร้อน ถึงสาเหตุการชุมนุมขับไล่รัฐบาล และไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้ง
ก่อนที่จะมีคนนำคลิปดังกล่าว พร้อมคำแปลไปเผยแพร่ในโซเซียลมีเดีย พร้อมตั้งชื่อว่า มวยคู่เอก ดวลสดๆ ระหว่าง อ.เสรี VS นักข่าวต่างประเทศ กับทุกคำถามที่ ฝรั่งอยากรู้!! หรือ Thailand protests: an on-stage ‘duel’ โดยระบุว่า
We clambered up a wobbly ladder and onto the “main stage” at the Rajprasong intersection and looked out onto a crowd of many thousands assembled below.
It was an extraordinary scene and my cameraman Matt Jasper was soon capturing it – one of Bangkok’s great commercial thoroughfares, flanked by shopping malls and luxury goods retailers, filled with a sea of whistle-blowing demonstrators, dressed in reds, blues and whites.
The Rajprasong site is one of seven city crossroads that has been taken over anti-government protestors in Thailand. They are calling it the “Bangkok Shutdown” – the latest in a series of protests designed to topple Prime Minister Yingluck Shinawatra. Both she and her billionaire brother Thaksin are accused of running the nation for their own personal benefit.
Protest leaders want to “purge” Thailand of the Shinawatra family’s influence and the best way to do this, they claim, is through a non-elected “council of experts”. There are few details of how this would work in practice but the basic idea is that the country would be ‘reformed’ before new elections could be held.
Of course, this might sound a little bit “previous century” to some – when one-party states, with their own non-elected councils, looked after themselves in the name of the own people.
It is even more controversial when you consider the fact that Yingluck Shinawatra was elected in a democratic election in 2011 and is thought to enjoy the support of the majority of Thais, largely based in the rural north and north-east.
Still, that’s not something many of these protesters, made up largely of middle and upper-class Thais, seem willing to address.
Which brings us back to the “Rajprasong main stage”. While we were filming, a flamboyant speaker called Dr Seri Wongmontha was busy whipping up the crowd – the sleeves of his flowing silk jacket of turquoise and pink, flying in the wind.
“We cannot stand what Yingluck Shinawatra has done to our country,” he said before glancing over to me in the corner.
“You want an interview,” he asked with microphone in hand. I responded in the affirmative, thinking that we would catch him off-stage after his performance. But I was mistaken.
Dr Seri, a Thai television celebrity, political columnist and judge of this country’s annual transvestite beauty contest, had other plans.
What followed was a live, on-stage dual in front of thousands of protestors – and you can watch the entire unedited exchange above.
As a foreign journalist, I can tell that it was a hostile place to do an interview – Thai speakers may be able to hear the crowd shouting “Get out! Get out!” -But I think that was probably the idea.
Dr Seri’s intention? To give me a double-barreled blast of anti-government passion while dismissing concerns about undemocratic behaviour and the prevalence of corruption on both sides of the political spectrum. See what you think…
ฝรั่ง: คิดว่าจะอยู่กันนานเท่าไหร่
อ.เสรี: จนกว่าจะชนะ หวังว่าคงอีกไม่กี่วัน
ฝรั่ง: ยิ่งลักษณ์มาจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบนะ
อ.เสรี: เราก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ ก็ถูกที่นางได้รับเลือกตั้งมา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าการทุจริตคอร์รัปชั่นจะถูกทำให้ถูกกฎหมายไปด้วย ถึงจะเลือกตั้งมา แต่ถ้าทำผิดกฎหมายทำผิดรัฐธรรมนูญ เราก็มีสิทธิ์จะล้มคุณได้
ฝรั่ง: ทำไมไม่ให้ประชาชนเรียนรู้เองตัดสินใจเองในการเลือกตั้งเอาล่ะ
อ.เสรี: จะไปทำงั้นได้ไง ตอนนี้เราไม่มีประชาธิปไตย แต่เรามีเผด็จการรัฐสภา คิดดูว่าทักษิณมีเงินมากแค่ไหน ซื้อไปหมดแล้วทั้งผู้ว่าทั้งตำรวจทั้งกกต.แถมยังนโยบายประชานิยมอีก
คนที่เลือกทักษิณชอบเพราะว่าตัวเองได้ประโยชน์ เข้ามาไม่ได้รู้เรื่องหรอกว่าทักษิณมันขโมยเงินคนไทยไปมากแค่ไหน เราไม่ต้องการให้คนดีต้องมาตกอยู่ภายใต้อำนาจของคนเลวที่ไม่เคยสนใจใส่ใจในคุณธรรม ศีลธรรม ความดีงาม แล้วก็หลักธรรมาภิบาลด้วย!
อ.เสรี: มีคำถามอีกไหม?
ฝรั่ง: แต่คอร์รัปชั่นมันก็มีทั้งสองฝ่ายนี่ สังคมไทยก็คอร์รัปหมด
อ.เสรี: แต่มันมีระดับที่คนทนได้ครับ ทักษิณทำเกินไป แล้วเราก็จะไม่ทนอีก เพราะมันไม่ใช่แค่คอร์รัปชั่น แต่มันเอาทรัพย์สินราชการ รัฐวิสาหกิจไปเป็นของตัวเองด้วย ไม่มีรัฐบาลไหนเคยทำแบบนั้นมาก่อน
คอร์รัปชั่นแบ่งเปอร์เซ็นต์อาจจะมีบ้าง แต่ไม่เคยมีการแปรรูปรัฐวิสหากิจหรือกิจการของรัฐไปเป็นของตัวเองแบบนี้ คราวหน้าคราวหลัง ก่อนจะพูดอะไร ก็กรุณาหัดศึกษาหาความรู้แล้วก็ทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศไทยเสียก่อนด้วย!
ข้อมูลข่าวจาก : V For Thailand
ที่มา http://news.mthai.com/hot-news/302163.html
