วันอังคาร, กันยายน 23, 2557

เอ็มม่า วัตสัน : ความเสมอภาคระหว่างเพศ และทำไม UN Women จึงต้องทำงานกับผู้ชายเพื่อความก้าวหน้าของผู้หญิง (ชมคลิป)




ที่มา FB Montira Narkvichien

บทพูดของ ‪#‎Emma‬ Watson ทูตสันทวไมตรีของ UN Women ในวันเปิดตัวแคมเปญ‪#‎HeforShe‬ เสียงเธอสั่นเครือ แต่เปี่ยมด้วยพลัง อยากเห็นนักแสดงเมืองไทย ได้เช่นนี้บ้าง

"ดิฉันยังสงสัยว่าทำไมต้องเป็นแม่มดน้อยแฮรี่พอตเตอร์อย่างดิฉัน ยืนตรงนี้ทำไม พูดเรื่องความเสมอภาคระหว่างเพศในวันนี้เพื่ออะไร ... ดิฉันถามตัวเองเสมอ ... ดิฉันได้คำตอบว่า เพราะดิฉันรู้สึกถึงความรับผิดชอบต่อสังคม รู้ว่าเป็นหน้าที่ต่อสังคม ถามตัวเองว่า ถ้าไม่ใช่ดิฉัน แล้วจะเป็นใคร ถ้าไม่ใช่วันนี้ และจะเมื่อไหร่"

"ไม่มีประเทศใดในโลกที่บรรลุความเสมอภาคระหว่างเพศ สิทธิ (ความเสมอภาค) นี้ สำหรับดิฉันคือสิทธิมนุษยชน ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่นับได้ว่าโชคดี พ่อแม่ไม่ได้รักดิฉันน้อยลงเพราะเกิดมาเป็นเด็กหญิง โรงเรียนไม่ได้กีดกัน เลือกปฏิบัติเพราะดิฉันเป็นเพียงนักเรียนหญิง เพื่อนๆ หรือคนที่ดิฉันเคารพนับถือก็เชื่อว่าการที่ดิฉันจะมีลูกในวันหน้าก็ไม่ได้ทำให้ดิฉันหยุดความเจริญก้าวหน้าในชีวิต หรือการงานแต่อย่างใด บุคคลเหล่านี้ คือ ทูตสันทวไมตรีเรื่องความเสมอภาคที่แท้จริงในชีวิตของดิฉัน ที่ทำให้ดิฉันเชื่อ ดิฉันเป็น ดิฉันเห็น อย่างเช่นทุกวันนี้" - เอมม่า วัตสัน
...

เราเลือกที่จะทำงานกับผู้ชายเพื่อยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และทัศนคติ ส่งเสริมผู้ชายที่มีบทบาทในสังคมในการลดความเหลื่อมล้ำ บทพูดของ Emma Watson ทูตสันทวไมตรีของเรา จับใจ หลักแหลม เหลือเกิน ในหลายประเด็น ขอหยิบยกมาอีกสามวรรค เพื่อให้เห็นว่า ทำไม UN Women จึงต้องทำงานกับผู้ชายเพื่อความก้าวหน้าของผู้หญิง

"วันนี้สังคมให้ความสำคัญกับบทบาทของพ่อน้อยลง ทั้งที่ดิฉันมีความต้องการพ่อพอๆ กับที่ดิฉันต้องการแม่ในวัยเด็ก" (ละไว้ในฐานที่เข้าใจว่า เราต้องร่วมกับให้พ่อมีความรับผิดชอบในการกล่อมเกลาบุตร และหล่อหลอมความเข้าใจในบทบาทของพ่อที่ดีด้วย)

"ดิฉันเห็นผู้หนุ่มวัยฉกรรจ์หลายคนไม่กล้าที่จะขอความช่วยเหลือเมื่อรู่ว่าตัวเองป่วยทางจิต หรืออายเมื่อรู้ตัวว่าต้องการได้รับการเยียวยา เพราะพวกเขาเชื่อว่าการร้องขอความช่วยเหลือจะทำให้เขาเป็น "แมน" ลดลง ทราบหรือไม่ว่าอัตราการทำอัตวินิบาตกรรม (ฆ่าตัวตาย) นั้นเป็นเหตุของการคร่าชีวิตผู้ชายวัยฉกรรจ์อายุ 20-49 ปี มากที่สุดสาเหตุหนึ่ง มากกว่าอุบัติเหตุ มะเร็งหรือโรคหัวใจพิการเสียด้วยซ้ำ ดิฉันเห็นผู้ชายต้องดำรงชีวิตในสภาวะที่เปราะบาง ไม่ปลอดภัย ขาดความทะเยอทะยานเชื่อมั่นที่จะดำรงชีวิตรอด สำเร็จ ที่พูดเช่นนี้ ดิฉันหมายถึงว่า ผู้ชายก็ไม่ได้ประโยชน์จากความเหลื่อมล้ำ ไม่เท่าเทียมทางเพศพอๆ กับผู้หญิงเช่นกัน"

"การที่ผู้ชายชอบเอ่ยอ้างดูถูกสตรีเพศด้วยภาพเหมารวมนั้นไม่ทำให้เค้าต้องติดคุก ทัศนคตินั้นไม่ทำให้ใครๆ ติดคุกทางร่างกายหรอกค่ะ แต่พวกเค้าติดคุกทางจิตใจ ลองจินตนาการว่า "หากความคิดเยี่ยงนั้น "ออกจากคุก" ไปได้ หลายสิ่งหลายอย่างจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง"

"ผู้ชายไม่จำเป็นต้องรุนแรง แสดงอากับกิริยาฮึกเหิม ดุดันเพื่อให้ผู้หญิง "ยอบรับ ศิโรราบ" และไม่จำเป็นที่ต้องแสดงอำนาจบาดใหญ่ เพราะตัวคุณเองก็ไม่ชอบที่ต้องถูกจำนน ดังนั้นผู้หญิงก็ไม่ประสงค์เช่นนั้นเช่นกัน" - เอ็มม่า วัตสัน

Emma Watson Calls for Men as Advocates for Gender Equality | HeForShe
https://www.youtube.com/watch?v=pTG1zcEJmxY