เรื่อง 'จับแพะและยัดข้อหา' นี้ว่าที่ท่าน ผบ. (ผูโบ้) ตำหวด บอกว่า
"ไม่เคยรู้จักกับพวกแพะ" และ "การจับกุมผู้ต้องหาทุกครั้งจะได้รับการอนุมัติจากศาลทั้งสิ้น...เพราะศาลเป็นผู้อยู่เหนือความขัดแย้ง และมีความยุติธรรม"
อันนี้ท่านคงแก่หลักการไปหน่อย เพราะในความเป็นจริงผู้ที่ตกเป็นจำเลยหลังรัฐประหารรู้ดีว่าศาลมักใช้วิจารณญานต่อคดีสีต่างกันเสมอ
ส่วนที่ว่า "ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพหรือพูดด้วยความสมัครใจต่อหน้าสื่อ" นี่ก็เหมือนกรณีกริชสุดาเด๊ะเลย เมื่อการจัดฉากเป็นไปได้ และเป็นมาแล้ว
ตานี้มาดูด้านพยานหลักฐานอันเป็นที่ประจักษ์ จากผู้สันทัดกรณี และ/หรือใกล้ชิดรูปคดีกันบ้าง
ทนาย อานนท์ นำภา ว่าไว้จะจะ หลายข้อ โดยเฉพาะประเด็น พ.อ.ร่มเกล้า นั้นตายด้วยแรงระเบิดมือแบบเขวี้ยง (เอ็ม ๖๗) แต่ผู้ต้องหาทั้งห้า (จับได้สี่) ถูกดำเนินคดีฐานใช้อาวุธปืนชนิดต่างๆ ไม่มีระเบิด
ส่วนการกล่าวหาจาก ผบ.ว่ามีการส้องสุมอาวุธพัวพันไปถึง น.ส.กริชสุดา คุณะแสน โดยอ้างว่าพบสลิปหางเช็คจ่ายเงินแก่ผู้ต้องหานั้น
ออกจะเป็นการตั้งข้อหาแบบ 'ยัดพวง-พันมั่ว' ไปหน่อยมั้ง
ทั้งที่ น.ส.กริชสุดา เพิ่งโดดเด่นในด้านกิจกรรมการเมืองเมื่อปี ๕๔ หลังจากเหตุการณ์ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๓ เป็นปี
ก่อนหน้า ๑๐ เมษา เธอยังเป็นนักศึกษาใหม่อยู่เลย ตามนี้https://www.facebook.com/allianceNSD?fref=photo
"ได้มีผู้หวังดีส่งรูป เปิ้ล กริชสุดา คุณะแสน เมือปี 2554 มาให้ทางแนวร่วมขบวนการเสรีไทยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นสช.)
ซึ่งรูปดังกล่าวเปิ้ล กริชสุดาได้ถ่ายในงาน 'อนาคตนักศึกษาไทย บนความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง' เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2554 ณ บริเวณลานคนเมืองหน้าศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้า กรุงเทพฯ
(ลิงค์ รายละเอียดของงาน http://www.prachatai.com/journal/2011/01/32856 ) ซึ่งจัดงานโดยกลุ่มเสรีปัญญาชน
ในการจัดงานดังกล่าวเป็นเวลากว่า 1 ปีให้หลังจากเหตุการณ์ 10 เมษา 2553 ณ วันเวลานั้น เปิ้ล กริชสุดายังคงเป็นนักศึกษาตัวเล็กๆ เท่านั้น และก่อนหน้า 1 ปี เธอคงเป็นนักศึกษาที่หน้าใหม่มากสำหรับวงการกิจกรรมต่างๆ"