วันจันทร์, กันยายน 15, 2557

มาช่วยกันตรวจสอบการจัดซื้อของรัฐบาลทหารกันไหมคะ?.

จาก Status ส่วนตัวใน Facebook:  มาช่วยกันตรวจสอบการจัดซื้อของรัฐบาลทหารกันไหมคะ?


เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดิฉันเขียน Status และให้คอมเม้นท์ตอนท้าย เกี่ยวกับเรื่องการจับตาดูการสั่งซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ฝ่าย "ข้าราชการประจำ" เสนอขึ้นมา

ดิฉันคิดว่า มันสามารถทำได้จากการจับตาดูทั้งภายในและภายนอกองค์กรเอง

************************************************

การจับตาดูภายนอกนั้น สามารถทำได้เป็นต้นว่า สร้าง Facebook เพจ เป็นเพจแบบ Watchdog คือเฝ้าดูการกระทำทุกอย่าง ตั้งแต่ราคาที่เสนอขึ้นมา จนกระทั่งได้รับการอนุมัติจาก "ข้าราชการประจำ" ขั้นสูงสุด ก่อนที่จะส่งต่อให้กับ "ข้าราชการการเมือง" ทำการอนุมัติ เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินได้ตามระบบ

เรื่องของ Watchdog นี้ เป็นเรื่องที่ละเอียด แต่มันจะได้ผล ถ้ามีการติดตามกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่ สักแต่ว่า แชร์รูปออกไป จากนั้นก็หวังว่า จะมีการดำเนินการต่างๆ เกิดขึ้น ถ้าเราหวังกันแบบนี้ ก็เหมือนกับคลื่นกระทบฝั่ง คือ มีพลังในตอนแรกๆ ก่อนที่มันจะค่อยๆ จางหายไป รอคลื่นลูกใหม่โถมเข้ามา

กลุ่ม Watchdog ที่เคยเห็นมานั้น เขาจะติดตามเรื่องราวอยู่อย่างเหนียวแน่น มีอาสาสมัครค้นหาข้อมูล รวมทั้งสืบค้นข้อเท็จจริงทุกเรื่อง อาศัยเวปไซค์ บวกกับเวลาที่มีอยู่ จากนั้นก็โพสต์ข้อมูลตามที่ค้นหามาได้ รวมทั้งลิ้งค์เพื่อการอ้างอิง

ตัวอย่างเช่น เรื่องของ การจัดซื้ออุปกรณ์และปรับปรุงทำเนียบรัฐบาล ที่มีงบประมาณ 68 ล้านบาทนี้ เราได้ข้อมูลมา 15 หน้ากระดาษ (อ้างอิง: เอกสารการปรับปรุงห้องประชุมทำเนียบรัฐบาล งบ 68 ล้านบาท) แต่เราให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่อง ไมค์โครโฟนมากเป็นพิเศษ แต่ไม่ได้เน้นกันถึงเรื่องโคมไฟ, จอทีวี, อุปกรณ์ติดตั้งต่างๆ ที่ระบุไว้เลย อย่างเช่นเครื่องเสียง ลำโพง ฯลฯ

************************************************

ถ้าเราจำทำ Watchdog อย่างมีคุณภาพ ก็อาจจะมีอาสาสมัครสัก 5 คน ช่วยกันโพสต์ราคาที่สืบหามาได้ตามท้องตลาด พยายามให้อยู่ในเพจเดียวกัน เพื่อสามารถโพสต์ข้อมูลที่หามาได้ในที่เดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ง่ายต่อการอ้างอิงและค้นหา

แบ่งกันหาข้อมูลคนละ 3 หน้ากระดาษ เพียงแต่ Search ด้วย Brand name กับ Model กฺ็น่าจะได้ราคาขายปลีก หรือ Retail Price กันเรียบร้อย (และจะเห็นกันว่า ต่ำกว่า ราคาที่ทาง "ข้าราชการประจำ" เสนอขึ้นไปอย่างน้อย หนึ่งเท่าตัวเกือบทุกรายการ)

ถ้าสามารถช่วยกันทำแบบนี้ได้ เราจะเห็นราคาขายปลีกของอุปกรณ์เหล่านั้น เสร็จเรียบร้อยกันในเวลาไม่เกินหนึ่งวันเต็ม ท่านก็หาคำตอบกันได้ว่า มันคุ้มกับ 68 ล้านบาทหรือไม่ เพราะต้นทุนจริงๆ นั้น อาจจะเหลือไม่ถึง 30 ล้านบาทเสียด้วยซ้ำไป แต่ภาษีของประชาชนต้องถูกนำมาจ่ายมากกว่าหนึ่งเท่าตัว และใครที่เป็นผู้ได้รับ "ส่วนเกิน" เหล่านี้?

ระบบการจัดซื้อแบบ "พิเศษ" นั้น ไม่มีการประกวดราคาแข่งขันกัน เป็นดุลพินิจของผู้มีอำนาจอนุมัติเอง ระบบแบบนี้ ก็ควรจะมีการปฎิรูปด้วย เพราะมันเป็นเครือข่ายของการทุจริตอย่างง่ายดาย เพียงแต่ทำเรื่องขึ้นไปเป็นขั้นตอน ด้วยราคาอุปกรณ์ที่บวกทุกอย่างมาเรียบร้อยแล้ว

************************************************

และดิฉันเชื่อว่า "ข้าราชการการเมือง" ไม่มีเวลาอะไรไปตรวจสอบความถูกต้องหรอก เพราะมันถูกเสนอขึ้นมาเป็นขั้นๆ เรียบร้อยแล้ว (มีตัวบุคคลรับผิดชอบอีกหลายคนในเรื่องเหล่านี้)

และ "ข้าราชการการเมือง" หรือ "นักการเมือง" ก็เป็น "แพะ" ตัวประจำอยู่แล้ว จาก โปรปรากานด้าที่สร้างขึ้นมาว่า พวกนี้ เป็นพวกเลวทราม โกงกินบ้านเมือง ทั้งๆ ที่อาจจะมีส่วนร่วม หรือ ไม่รู้เห็นเป็นใจด้วย แต่ก็ถูกลากเข้าไปอยู่ในกลุ่มโกงกินบ้านเมือง เพราะจะทำให้เกิดความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่าง "คนดี" กับ "คนเลว" นั่นเอง

ดังนั้น การมีกลุ่ม Watchdog เกิดขึ้นต่อการตรวจสอบการสั่งซื้อหรือซ่อมแซมสถานที่ต่างๆ จะเป็นเรื่องที่ดีต่อการใช้ภาษีของประชาชนอย่างถูกต้อง ตรวจสอบได้ และมีการทุจริตน้อยที่สุด

อยากให้ผู้รักความยุติธรรม ริเริ่มในเรื่องนี้กัน มีการหาบุคลากรอาสาสมัตร ทำงานร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง

************************************************

เรื่องที่สองคือ การจับตาภายใน ซึ่งเป็นการปกป้องการกระทำทุจริตเช่นเดียวกัน ถ้าบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดภายในองค์กร ทราบถึงการทุจริตแล้ว เขาหรือเธอจะทำอย่างไรต่อไป?

ใน USA เรามีกฎหมาย Whistleblower Protection หรือปกป้องผู้นำเรื่องการทุจริตมาแจ้งให้ทราบ เรื่องนี้เทียบเท่ากับพระราชบัญญัติ การช่วยเหลือบุคคลที่ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ และ Whistleblower นี่ เขาเข้าไปถึงสื่อได้ทันที เพื่อการตรวจสอบเรื่องการทุจริตภายในองค์กร

สมมติว่าท่านจับได้ว่า มีบุคคลกำลังทำการทุจริตอยู่ ท่านบันทึกวิดิโอไว้ แล้วส่งให้สื่อทำการเผยแพร่ ท่านจะได้รับการปกป้องโดยทันทีกับกฎหมาย Whistleblower Protection ด้วยการร่วมมือกับ Witness Protection Program เพื่อนำตัวท่านและครอบครัวออกไปจากสถานที่เหล่านั้นอย่างเร็วที่สุด เพราะท่านคือพยานคนสำคัญในระบบยุติธรรมทั้งหมด

Whistleblower Protection Act ใน USA นั้น จะคุ้มครองแค่พนักงานของรัฐหรือ Government Officials เท่านั้น ถ้าเป็น Contractors หรือ Temporary Workers ก็ไม่สามารถที่จะอยู่ในการปกป้องได้

ถ้าในประเทศไทยจะออก พรบ เหมือนกับ Whistleblower Protection Act ก็ควรจะให้ความคุ้มครองกับข้าราชการประจำ ลูกจ้างประจำ และ ชั่วคราวทุกๆ คน เพราะต่างคนอาจจะได้เห็นขั้นตอนต่างๆ ในการทุจริตที่กำลังเกิดขึ้น

และถ้าเป็นไปได้ เมือมีการพิสูจน์จากกระบวนการยุติธรรมแล้วว่า ผู้ร่วมมือนั้น กระทำความผิดจริง ควรจะมีการให้รางวัลกันกับตัว Whistleblower ด้วย เพื่อเป็นกำลังใจในการประกอบอาชีพอย่างสุจริต และเป็นตัวอย่างที่ดีของบุคลากรที่ทำงานอยู่ในองค์กรอื่นๆ ต่อไป

************************************************

ถ้าถามว่า เราได้อะไรในเรื่องนี้กันบ้าง? คำตอบก็คือ ท่านต้องถามตนเองว่า ภาษีอากรที่ท่านจ่ายให้กับรัฐบาลไทยในแต่ละปีนั้น จะยอมให้กลุ่มบุคลากรที่เกี่ยวข้องแบบนี้ ทำการทุจริตกันต่อไปเท่านั้นเองหรือ? ท่านอาจจะได้ถนนหนทางเลวมากๆ ทั้งๆ ที่ การเสนอจัดขึ้นไปนั้น ประกอบด้วยวัสดุที่เยี่ยมที่สุด แต่การส่งของต่างๆ มาให้ กลับมีคุณภาพต่ำมาก เป็นต้น มันมีคนรู้เห็นกันด้วย

ถ้ามีการตรวจสอบกันได้ทั้งภายในและภายนอก บวกกับ มีการปฎิรูปในเรื่องวิธีการจัดซื้ออุปกรณ์ และ คุรุภัณฑ์ต่างๆ แล้ว ภาษีที่ท่านต้องจ่ายไปแต่ละปี จะกลับมาเป็นบริการให้กับท่านอย่างคุ้มค่า เมื่อมีการตรวจสอบได้ด้วยความโปร่งใส ทั้งภายนอกและภายในองค์กรแต่ละแห่งเอง

หรือว่า จะปล่อยให้เป็นอยู่อย่างนี้ต่อไป นั่นก็หมายความว่า โครงการอีกนับเป็นพันๆ หรือ หมื่นๆ ล้านบาท ก็จะกลายเป็นวิธีเดียวกัน นั่นก็คือ เสนอขึ้นมาแบบแพงแสนแพง ตรวจสอบก็ไม่ได้ เพราะไม่มี Watchdog เกิดขึ้นอย่างจริงจัง

************************************************
ลองมาช่วยกันเรื่อง อาสาสมัคร Watchdog เกี่ยวกับ เอกสารการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลกันดีไหม? ลองเริ่มด้วยการสืบหาราคาของวัสดุแต่ละชิ้นกัน จากนั้น ก็นำไปเปรียบเทียบว่า ภายในหนึ่งหน้ากระดาษนั้น ท่านสามารถช่วยประเทศชาติ ประหยัดเงินตราไปได้กี่หมื่น หรือ กี่แสนบาท? (หรือจะให้เด็กๆ ช่วยกันทำเป็นกิจกรรมก็ได้ เพราะเด็กสมัยนี้ เก่งๆ กันเรื่องการสืบหามากมาย...)

ไม่ลองก็ไม่รู้ จริงไหม?