วันอังคาร, กันยายน 16, 2557

แม่ร้องสื่อ คดีเสื้อแดงตายในคุก ไม่คืบ-ข้องใจ ลูกชายไม่มีโรคประจำตัว ตายได้อย่างไร


ที่มา มติชนออนไลน์

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. นางอารีย์ ชัยมงคล อายุ 55 ปี ชาว อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ มารดาของนายสุรกริช ชัยมงคล อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาคดีก่อเหตุยิง นายสุทิน ธราทิน แกนนำกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) ขณะเดินขบวนคัดค้านการเลือกตั้งล่วงหน้า บริเวณหน่วยเลือกตั้งหน้าวัดศรีเอี่ยม ย่านบางนา เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา

ซึ่งต่อมานายสุรกริชถูกจับกุมและส่งตัวไป คุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มหานคร และเสียชีวิตในวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่าคดีที่ลูกชายเสียชีวิตในเรือนจำไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย

นางอารีย์เผยว่ามีลูกชาย 3 คน โดยนายสุรกริชเป็นคนโต และเป็นหัวเรือหลักของครอบครัว คอยดูแลหาเลี้ยงครอบครัว จนกระทั่งมาถูกข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงนายสุทิน ซึ่งลูกชายปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา กระทั่งเจ้าหน้าที่คุมตัวไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและเสียชีวิต

ซึ่งทุกคนในครอบครัวยังติดใจในกรณีที่ลูกชายเสียชีวิต เพราะปกติลูกชายไม่มีโรคประจำตัวใดๆ เพียงแต่เมื่อประมาณ 3 วันก่อนวันเสียชีวิตได้ไปเยี่ยมลูกชาย โดยลูกชายแจ้งว่าปวดหัว ขอให้ซื้อยาแก้ปวดให้ด้วย จึงซื้อยาพาราฯ ให้รับประทานบรรเทาปวด

นางอารีย์กล่าวว่า หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน ก็ได้ทราบข่าวลูกชายเสียชีวิตด้วยสาเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเสียเลือดจำนวนมาก ซึ่งวันนั้นรีบเดินทางไปที่เรือนจำ และเกิดข้อสงสัยว่าในช่วงที่ลูกชายป่วย ทำไมไม่มีเจ้าหน้าที่หรือใครแจ้งข่าวมาเลย ทำไมต้องรอให้เสียชีวิตก่อน และสาเหตุการตายยังคลุมเครือไม่ชัดเจน อยากขอดูกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุแต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้ดู ช่วงลูกชายเสียชีวิตใหม่ๆ มีทนายความอาสามาดูแลคดีให้ แต่ขณะนี้กลับไม่ได้รับการติดต่อจากใครอีกเลย

"ฉันไม่รู้จะไปขอความเป็นธรรมจากใครได้ เพราะสืบทราบเบื้องต้นต้องรอผลการชันสูตรจากนิติเวชอีกประมาณ 2 เดือน ถึงจะทราบสาเหตุที่แน่นอน จึงฝากวิงวอนขอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องถึงสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายในครั้งนี้ด้วย"นางอารีย์กล่าว

วันเดียวกัน พล.ต.ต.นายแพทย์พรชัย สุธีรคุณ ผบ.สถาบันนิติเวชวิทยา ร.พ.ตำรวจ เผยว่า เบื้องต้นต้องรอผลการตรวจศพนาย สุรกริชอีก 2 เดือน จึงจะรู้ผลแน่ชัดว่าเสียชีวิตจากสาเหตุใด รวมทั้งได้ตรวจค้นประวัติว่า ผู้ตายมีโรคประจำตัวใดหรือไม่ เพื่อนำมาประกอบผลชันสูตรอย่างละเอียดอีกที

ซึ่งการเสียชีวิตของนักโทษในเรือนจำนั้น อาจจะเกิดจากโรคประจำตัว ที่ไม่ได้รับการรักษาหรือดูแลอย่างใกล้ชิดเท่าที่ควร รวมถึงสภาพแวดล้อมที่แออัด จึงทำให้มีผู้เสียชีวิตและมีการส่งศพนักโทษมาตรวจพิสูจน์ ที่สถาบันนิติเวชวิทยาบ่อยครั้ง

ด้านนายวิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า ขอยืนยันอีกครั้งว่านายสุรกริชล้มป่วยจากโรคประจำตัวหอบหืด ซึ่งโรคประจำตัวเหล่านี้นักโทษบางรายที่เข้ามาอยู่ใหม่ มักจะไม่ยอมแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบล่วงหน้า เมื่อเข้ามาอยู่สักระยะอาการจึงกำเริบขึ้น

ที่มา
ข่าวสดออนไลน์
ooo

เรื่องเกี่ยวข้อง...

'ผู้ต้องหายิงสุทิน' ตายปริศนาในคุก แม่สงสัยอาจโดนซ้อมเพราะเป็นเสื้อแดง


ภาพจาก dangdd.com
เรื่องจาก ประชาไท

Fri, 2014-08-29 15:42
28 สิงหาคม 2557 นายสุรกริช ชัยมงคล ผู้ต้องหายิงแกนนำ กปท. เสียชีวิต ได้เสียชีวิตระหว่างถูกฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ในขณะที่กรมราชทัณฑ์เปิดเผยว่า สุรกริชเสียชีวิตเพราะโรคประจำตัว มารดาของนายสุรกริชยืนยันว่า ลูกชายของตนสุขภาพดี และเชื่อว่าน่าจะถูกซ้อมจนตายมากกว่า

นายสุรกริช ชัยมงคล อายุ 36 ปี เป็นผู้ต้องหาในกรณียิง นาย สุทิน ธราทิน แกนนำ กปท. เสียชีวิตที่วัดศรีเอี่ยม เมื่อวันที่ 26 ม.ค 57 (รายละเอียด) ถูกจับกุมจากเจ้าหน้าที่ทหารที่บ้านโดยอ้างกฎอัยการศึกในวันที่ 8 ก.ค 57 และวันที่ 29 ส.ค 57 มารดาผู้ต้องหาได้รับแจ้งการเสียชีวิต ซึ่งมูลเหตุของการเสียชีวิต ยังอยู่ในระหว่างการส่งชันสูตรศพ ซึ่งจะมีการชันสูตรศพที่โรงพยาบาลตำรวจในบ่ายวันนี้

นางอารีย์ ชัยมงคล มารดาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า วันที่ 8 ก.ค 57 ทหารหนึ่งกองร้อยได้บุกมาที่บ้าน และจับกุมลูกชายของตน โดยใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก หลังการจับกุม นายสุรกริชถูกนำไปควบคุมตัว สน.บางนา 1 คืน ต่อมาถูกย้ายควบคุมที่ศาลพระโขนง 1 คืน และถูกนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

นางอารีย์กล่าวว่า เมื่อแรกเข้าไปในเรือนจำ นายสุรกริชถูกจองจำอยู่ที่แดนหนึ่ง และได้รับการดูแลจากนักโทษการเมืองเสื้อแดงอื่นๆ เช่น ทอม ดันดี และ เจ๋ง ดอกจิก ในช่วงแรกของการเข้าเยี่ยม พบว่าลูกชายดูมีกำลังใจดี ร่างกายแข็งแรง ซึ่งตนนั้นได้เข้าไปเยี่ยมในช่วงแรกอาทิตย์ละ2ครั้ง

ต่อมาเมื่อ2อาทิตย์ทีผ่านมา เรือนจำได้ย้ายนายสุรกริช ไปอยู่แดนสี่ โดยไม่ให้เหตุผล โดยในการเข้าเยี่ยมครั้งสุดท้าย คือเมื่อวันที่ 21 ส.ค 57 นายสุรกริชบอกกับมารดาว่า อยู่ที่แดนสี่นั้น “คงไม่รอด ตายแน่” เพราะโดนซ้อมในมุมมืดของเรือนจำ จึงไม่สามารถระบุว่าใครเป็นผู้ซ้อม ได้ยินแต่เสียงว่า “ใครเป็นเสื้อแดงจะฆ่าให้หมด”

เขายังได้เล่าให้มารดาฟังอีกว่า เคยมีนักโทษการเมืองเสื้อแดงโดนซ้อมเสียชีวิต แต่ไม่ได้ระบุว่าแดนไหน
มารดาของเขาสังเกตว่า เมื่อย้ายมาอยู่แดนสี่ เขายังดูร่างกายแข็งแรงดี ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ยกเว้นแต่ร่องรอยการถูกซ้อมบ้าง และสภาพที่ดูผอมไปบ้างเล็กน้อย ซึ่งทุกครั้งที่ตนไปเยี่ยม จะฝากเงินและอาหาร ให้ตลอด

เมื่อเช้านี้ นางอารีย์ได้รับแจ้งจากพยาบาลโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ว่า ลูกชายเสียชีวิตแล้ว จากคำบอกเล่าของ นางพยาบาล บอกว่า นายสุรกริชเสียชีวิต หลังจากถูกพาตัวมาโรงพยาบาลเพียง 10นาทีพบแผลพกช้ำที่แขนซ้าย และมีเลือดตกในช่องท้อง

“เราได้ยินแล้วก็ไม่อยากเชื่อว่าจะถูกซ้อมเพียงแค่วันเดียว” นางอารีย์กล่าว และว่า นายสุรกริชคงถูกซ้อมสะสมมาหลายวัน
นาง อารีย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนที่จะถูกกล่าวหาในคดียิงนาย สุทิน ธราทิน เขาได้ถูกจับข้อหาพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ ซึ่งศาลจังหวัดสมุทรปราการ ตัดสินเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ว่ามีความผิด และให้เสียค่าปรับ 3,500 บาท ก็มีการจ่ายค่าปรับ แต่ต่อมา ตำรวจกลับกล่าวหาว่า ปืนกระบอกนั้นเป็นกระบอกเดียวกันที่ใช้ยิง นาย สุทิน ธรทิน แกนนำ กปท.เสียชีวิตที่วันศรีเอี่ยม
“ลูกเราไม่ได้ทำ รับสารภาพไม่ได้หรอก ต้องให้ความจริงปรากฎ” มารดาผู้เสียชีวิตกล่าว

ทั้งนี้ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้ให้ข่าวกับสำนักข่าวไทยว่า ผู้ต้องหามีอาการป่วยโรคหอบหืด หายใจไม่ออก เรือนจำจึงนำตัวไปส่งที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่นายสุกริชเสียชีวิตในช่วงเย็นวันเดียวกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ต้องหามีโรคประจำตัว คือ เบาหวานและหอบหืดอยู่แล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกาย