วันจันทร์, พฤศจิกายน 06, 2566

ข่าวความคืบหน้า คดีนักกิจกรรมไทย เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท NSO Group ของประเทศอิสราเอล ข้อหาใช้สปายแวร์ #เพกาซัส ล้วงข้อมูลละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ช่วงปี 2563-2564 บัดนี้ คดีได้เดินมาถึงการต่อสู้แล้ว


Yingcheep Atchanont
19h
·
แจ้งข่าวอัพเดทให้ทุกท่านทราบว่า

คดีที่นักกิจกรรมไทย คือ ไผ่ จตุภัทร์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท NSO Group ของประเทศอิสราเอล ข้อหาใช้สปายแวร์ #เพกาซัส ล้วงข้อมูลละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ช่วงปี 2563-2564 บัดนี้ คดีได้เดินมาถึงการต่อสู้แล้ว หลังเรายื่นฟ้องไปในช่วงกลางปีที่แล้ว เรียกค่าเสียหาย 2,500,000 บาท

บริษัท NSO ได้ว่าจ้าง Law Firm ในไทย คือ ทนายจากบริษัทติลิกี เข้ามาต่อสู้คดี โดยฝั่งจำเลยได้ยื่นคำให้การเข้ามาในคดีแล้ว ข้อต่อสู้หลักของจำเลย คือ บริษัท NSO ขายสปายแวร์อย่างเดียวแต่ไม่ได้ใช้ เมื่อขายไปแล้วรัฐบาลก็จะเป็นคนเอาไปใช้เอง เขาไม่เคยรู้ว่ารัฐบาลใช้กับใครบ้าง ในคดีนี้บริษัท NSO ไม่ได้ยอมรับและไม่ได้ปฏิเสธว่ามีการขายให้กับรัฐบาลไทยหรือไม่ นอกจากนี้ก็ยังต่อสู้เรื่อง "หยุมหยิม" เช่น คดีขาดอายุความ ค่าเสียหายพิสูจน์ไม่ได้ ฯลฯ ซึ่งไม่ใช่สาระสำคัญอะไร

คดีนี้ถือว่า ประเทศเรามีความก้าวหน้ามาก เพราะผู้เสียหายจากการถูกเจาะข้อมูลทั่วโลกต่างยื่นฟ้องบริษัท NSO กันมากมาย ไม่น้อยกว่า 20-30 คดีทั่วโลก คดีที่สหรัฐสิ่งที่เกิดขึ้น คือ NSO ต่อสู้เพียงประเด็นเดียวว่า บริษัทอิสราเอลได้รับความคุ้มกันฟ้องในสหรัฐไม่ได้ ทำให้คดียืดเยื้อมาหลายชั้นศาล เหมือนเป็นแทคติกถ่วงเวลา แต่ Surprise และตื่นเต้นมากๆ ที่คดีในประเทศไทยเขายื่นคำให้การเข้าประเด็นเนื้อหา และพร้อมเข้ามาต่อสู้คดี
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ที่ศาลแพ่ง เวลา 13.00 จะเป็น "นัดชี้สองสถาน" ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะได้เจอหน้ากันครั้งแรก และนำเสนอว่า จะต่อสู้คดีอย่างไร จะมีพยานกี่ปาก เบิกความเรื่องอะไรบ้าง หลังจากนั้นก็จะนัดสืบพยานกันต่อไป ซึ่งคาดว่ากว่าจะหาวันนัดสืบพยานได้คงอีกประมาณปีนึง

สาเหตุที่คดีนี้ไผ่เรียกค่าเสียหาย 2,500,000 บาท บอกตรงๆ ว่า เพราะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมศาล แค่นี้ก็โดนไปหลายหมื่นแล้ว และตอนฟ้องก็ไม่รู้ว่า NSO จะเข้ามาต่อสู้คดีไหมอาจเสียค่าธรรมเนียมฟรี แต่ความเสียหายจากการถูกสปายแวร์มาเอาข้อมูล "ทั้งหมด" ในมือถือ ทั้งที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งที่เป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องการเงิน เรื่องต่างๆ มันประเมินค่าไม่ได้ คดีในประเทศอื่นๆ เรียกค่าเสียหายสูงกว่านี้มาก แต่เรามีต้นทุนน้อยก็เรียกได้เท่านี้
 
และเนื่องจากคดีนี้เรียกได้ว่า "ยากมาก" และ "ระดับโลก" เอกสารเป็นภาษาอังกฤษและภาษาคอมพิวเตอร์ทั้งหมด สงสัยอย่างเดียวว่า NSO อาจจะเสียค่าทนายความในไทยแพงกว่าค่าเสียหายที่เราเรียกไปมั้ง ??

ส่วนทางฝ่ายโจทก์ผู้เสียหาย ที่ต้องการจะพิสูจน์ความจริงในคดีนี้ ก็เหลือประเด็นหลักๆ ที่ต้องทำการบ้านและนำเสนอต่อศาลให้ได้ คือ พิสูจน์ว่า NSO เกี่ยวข้องและรู้เห็นการใช้เพกาซัสทั้งหมด ทหารไทยไม่สามารถใช้งานเองได้ และไม่สามารถทำเองโดยปราศจากความรับรู้รับผิดชอบของ NSO ได้ ซึ่งก็พอจะพิสูจน์ได้แต่ต้องทำการบ้านค้นคว้าสูงมาก โดยมีทีมทนายความจากบริษัท Rising Sun Law ที่จะทำงานหนักตลอดช่วงปีหน้า และทนายทิวที่อาสามาช่วย ก็หวังว่าจะพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดออกมาได้ดีที่สุด ส่วนจะชนะ และจะได้ค่าเสียหายเท่าไร เป็นเรื่องรอง

จากที่ประเทศไทยรู้เรื่องเพกาซัสตามหลังชาวโลกอยู่หลายปี แต่คดีของเรานำหน้ามีความคืบหน้ากว่าใคร ถ้าได้ผลคำพิพากษาออกมาอย่างไรอาจเรียกได้ว่า เป็นหลักและบรรทัดฐานให้กับการต่อสู้ในโลกนี้ได้อีกมาก

ฝากติดตามกันด้วยครับ