วันอังคาร, กันยายน 05, 2566

‘เพื่อไทยกับก้าวไกล’ แย่งตำแหน่งประธานกรรมาธิการ ปปช. ซึ่งตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล

เป็นเรื่องอีกแระ แย่งตำแหน่ง กันระหว่างเพื่อไทยกับก้าวไกล คราวนี้ตำแหน่งประธานกรรมาธิการในสภา เมื่อ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาของพรรคเพื่อไทย ออกมาบอกว่า การประชุมแบ่งเค้ก กมธ. ๓๕ คณะ ติดกึกไม่คืบหน้า

“เพราะบางพรรคไม่ยอมถอย ไม่เจรจา และไม่เปลี่ยนความตั้งใจ ทำให้ตกลงกันไม่ได้” บางพรรคที่ว่า เขาหมายถึงพรรคก้าวไกล ซึ่งตั้งจุดยืนว่าต้องการประธาน กมธ.คณะไหน จากที่จัดแบ่งจำนวนกันไว้แล้วกับเพื่อไทย คนละ ๑๐ คณะ

๖ ใน ๑๐ คณะที่ก้าวไกลต้องการประกอบด้วย ๔ คณะเดิมที่เคยทำงานมาแล้วในสภาชุดก่อน คือ ๑. กฎหมาย ยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ๒.ที่ดิน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม ๓.พัฒนาการเมือง ๔.พัฒนาเศรษฐกิจ

อีกสองคณะที่ก้าวไกลบอกว่าควรเป็นของฝ่ายค้าน เพื่อการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล คือกรรมาธิการปราบปรามการทุจริตมิชอบ กับกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ ล่าสุดจากการเปิดเผยของ ชัยธวัช ตุลาธนระบุตำแหน่งที่เป็นปัญหา

คือ ประธานกรรมาธิการตรวจสอบเรื่องคอรัปชั่น หรือ ปปช.ที่พรรคเพื่อไทยอยากได้ ขณะที่เหตุผลของก้าวไกล “ควรอยู่ในฝ่ายค้าน หากไม่อยู่ในฝ่ายค้าน ใครจะทำหน้าที่ตรวจสอบ” แต่เหตุผลของเพื่อไทยที่ออกมาทางปากนางแบกนายแบก

มีแต่เพียงว่า ก้าวไกลเอาแต่ใจตัว ทำนองเดียวกับที่ ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม รองโฆษกเพื่อไทยเคยว่าสาดเสียมาแล้ว จึงปรากฏว่ามีพรรคร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย ต้องการตำแหน่งประธานกรรมาธิการที่ก้าวไกลแสดงเจตจำนงไว้แล้วทั้ง ๖ ด้วย

นอกจาก ๓ กรรมาธิการที่เพื่อไทยต้องการเหมือนกัน คือสิทธิมนุษยชน ปปช. และงบประมาณ แล้ว พรรคประชาชาติอยากได้คมนาคม พรรคพลังประชารัฐจะเอาเกษตรและสหกรณ์ กับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ใจคอจะกีดกันก้าวไกลถึงขนาดนี้เชียว

หลายเสียงเห็นพ้องว่า ก้าวไกลควรได้ทำงานกรรมาธิการเกี่ยวกับการปราบปรามทุจริต ดังผลงานที่พวกเขาทำไว้โดดเด่น ช่วง ๔ ปีที่ผ่านมา แม้แต่ขณะนี้ที่รัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน เพิ่งเข้าถวายสัตย์ฯ ก้าวไกลได้เริ่มงานของพวกเขาไปแล้ว

ภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กก. เริ่มเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลใน กสทช.แล้ว จากข้อมูลที่ได้รับว่า บริษัท ท.ซึ่ง “ประกอบกิจการซื้อขาย ติดตั้ง บริการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ บริการออกแบบและพัฒนาอีคอมเมิร์ซโซลูชัน”

มีทุนจดทะเบียนเพียง ๕ ล้านบาท แต่รับงานจาก กสทช.ไปแล้วมูลค่าถึง ๑๔๑.๘ ล้านบาท “เมื่อเปรียบเทียบรายได้บริษัทกับวงเงินจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ทั้งหมดแทบจะเท่ากันพอดี”

ส.ส.หญิงระบุงบประมาณของรัฐแค่ปีละ ๒๐-๓๐ ล้าน “จัดซื้อจัดจ้างโครงการแบบนี้ได้อย่างไร และข้อกล่าวหาว่ามี กสทช.ท่านหนึ่งเกี่ยวข้องนั้น ข้อเท็จจริงแล้วเป็นอย่างไร”

(https://www.facebook.com/lisapukkamon/posts/29tFNNtmvbNvQ และ https://twitter.com/KhaosodOnline/status/1698936053221167404)