กกต.ชงส่ง 'ยุบพรรค' อนาคตใหม่ กระบวนสกัดอัดกลับฟากประชาธิปไตย

เอาจนได้ กกต.นี่ก็ตอหลดตอแหลได้ไม่มีที่ติ เพิ่งปฏิเสธหลัดๆ ว่าไม่มี ‘ธง’ สั่งมาให้ฟัดธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ วันนี้ซัดเอง ข่าวด่วนแทบทุกสื่อแฉมติ กกต.ออกมาแล้ว ชงส่งศาลรัฐธรรมนูญ ‘ยุบ’ พรรคอนาคตใหม่

“ปมนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้พรรคอนาคตใหม่กู้เงิน ๑๙๑ ล้านบาท ชี้มีเหตุอันเชื่อได้ว่า เป็นการรับบริจาคเงินโดยแหล่งที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา ๗๒ ของกฎหมายพรรคการเมือง” จึงเสนอศาลรัฐธรรมนูญ (ผู้มีอำนาจ) วินิจฉัยยุบพรรค ตามมาตรา ๙๒(๓)

(https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_3166759)

นอกจากเล่นงานด้วยการตีความและบังคับใช้กฎหมายแบบผู้วิเศษ เหมือนดังเช่นที่นายวิษณุ เครืองาม ออกมาตัดสินความยัดปากศาล ว่า ‘ปารีณา’ ครอบครองทำประโยชน์เหนือที่ดิน สปก. ๖๘๒ ไร่ โดยไม่เคยลงทะเบียนขออนุญาต และถึงขอก็ไม่ได้เพราะคุณสมบัติไม่เข้าข่าย

นั้นไม่เป็นความผิด อ้างเหตุผลชนิดกูจะเอาอย่างนี้ใครจะทำไม “ได้คืนไปแล้วก็จบ” แบบเขายายเที่ยง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ยึดครองปลูกบ้านหลังโตบนเขากลางอุทยาน พอมีเสียงโวยอื้อฉาวมากนักก็ริ้อบ้านทิ้งคืนที่ให้ป่าไม้แล้วลอยนวล

วิษณุอ้างง่ายๆ “พื้นที่บางอย่างตอนไปเอามานั้นผิด ดังนั้นเมื่อคืนไปความผิดก็สำเร็จ กฎหมายแต่ละเรื่องไม่ได้ยึดหลักเดียวกันไปเสียหมด”

(ดูรายละเอียดนายวิษณุแจงข้อแก้ตัวแทน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ไว้อย่างวิลิสมาหลาเสียจน ‘อี๊เอ๋’ บริสุทธ์ผุดผ่องยังกะหญิงพรหมจรรย์ ได้ที่ https://www.dailynews.co.th/politics/746139)

แล้วบรรดาลิ่วล้อ คสช.ตามองค์กรของรัฐต่างๆ ยังระดมสกัดกั้นกระบวนการส่งเสียงไล่ คสช.อย่างไม่ยั้ง ดังเช่นเริ่ม “กลับมาสู่ยุคขนม็อบมาชนละสินะ” (@moui) โดยจัดนักต่อต้านประมาณ ๒๐ คน ไปไล่ธนาธรขณะร่วมงาน ‘วิ่งไล่ลุง’ ที่ร้อยเอ็ด

 

นั่นเป็นเพียงส่วนปฏิบัติการ ‘นอกระบบ’ บนท้องถนน นอกเหนือจากการใช้หน่วยงานรัฐไม่ว่าจะแทรกแซง หรือฟัดเหวี่ยง ดังที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ‘FCCT’ แถลงว่าถูกกดดันจากตำรวจ สน.ลุมพิณี ไม่ให้รับงานเปิดแถลงข่าว ‘วิ่งไล่ลุง’ ในกรุงเทพฯ ๑๒ มกรา ๖๓

มิใยที่ พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผู้กำกับการสถานีตำรวจลุมพิณีจะออกมาปฏิเสธว่า “ไม่มีการไปกดดัน” แต่อย่างใด แถลงการณ์ของ ‘เอฟซีซีที’ บอกชัดเจนว่า “pressure from Thai police to cancel a planned press conference.”

และสุดยอดของการตอแหลได้โล่ห์ เห็นจะมาจากโฆษกกลาโหมที่ว่า “ต้องดูวัตถุประสงค์ของการจัดวิ่งเพื่ออะไร หรือมีการเมืองแอบแฝงหรือไม่...การเคลื่อนไหวหรือการกระทำที่ไม่สร้างสรรค์ โดยเฉพาะหากมีการเมืองสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม

การทำงานของนักประชาธิปไตยคือการทำงานในสภาฯ ก็ควรใช้กลไกสภาฯ ในการพูดคุยกัน” พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ ถือโอกาสประชาสัมพันธ์รายการ ‘ม็อบประชันม็อบ’ โดยกระทรวงกลาโหมเองก็ได้จัดกิจกรรมวิ่ง Siam Trail 2019 ในวันที่ ๑๕ ธ.ค. ที่ จ.กาญจนบุรี

อ้างว่า ‘สร้างสรรค์’ เป็นกิจกรรมที่ “สามารถพาครอบครัวไปวิ่งหรือทำกิจกรรมได้ และไม่จำเป็นต้องไปวิ่งไล่หรือวิ่งตามใคร”

(https://www.thairath.co.th/news/politic/1723660 และ https://prachatai.com/journal/2019/12/85469)

หวังแต่ว่าเมื่อพรรคการเมืองของ กปปส. ‘รวมพลังประชาชาติไทย’ จัดวิ่งตามลุง จะมีเสียงกระซิบจากโฆษกทหารด้วยว่า “หากมีการเมืองสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม”