วันเสาร์, ธันวาคม 07, 2562

ตู่ถาม “ยังไม่พอกันอีกหรือ” เข้าจังหวะปรับขึ้นค่าแรง ๕ บาท

โบราณว่าถ้า ‘cats fight’ แมวกัดกันอย่าดันสอดเท้าเข้าไปแหย่ แค่เขียนยกยอว่า เชียร์ช่อ ถ้าไม่ถูกลูกหลงก็คงโดนแว้งเอาได้ แต่กรณีน้อง เดียร์ฟ้องอาญาเฮีย หนูอาจมีอะไรลึกกว่านั้น จะเป็นการระหองระแหงของคนการเมืองมุ้งเดียวกัน

หรือมากไปกว่านั้นแย่งเป็นคนโปรดลุงตูบหรือเปล่าก็ช่าง แก่นกลางประเด็นอยู่ที่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเอาคำที่โฆษกพรรคอนาคตใหม่กล่าวหา น.ส.วทันยา วงศ์โอภาสี มีหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชน ไปแชร์บนเฟชบุ๊ค

จึงต้องมอบหมายทนายไปยื่นฟ้อง อนุทิน ชาญวีรกูล ข้อหาหมิ่นประมาทและโฆษณาโดยหมิ่นประมาท ดังว่าจะแตกโพละกลางคัน ทั้งที่รอบด้านกำลังร้อนๆ หนาวๆ โอบเอาพวกปัดเศษกลับเข้าคอกได้แค่สิบ แต่เสี่ยงกับการเสียเมียกิ๊ก ๕๓ เสียง

ขนาดว่าประธานฯ พยายาม อวย ให้ตั้งเยอะแล้ว ก็ยังไม่วายสะกิดสะเกาเข้าให้บ้าง ดังที่ทั่น ชวน เชื่องช้า เพิ่งจะประสาทสัมผัสทำงาน “สั่งสอบ” สภาฯ ปล่อย ไวพจน์ (อาภรณ์รัตน์, พ.ต.ท.) เข้าไปโหวตได้ไง “ข้องใจมีหมายศาล แต่ ตร.ไม่จับกุม”

เสียงนินทาออนไลน์ว่า “ชั้นเชิงเยอะ ตนเองเป็นประธานฯ ย่อมทราบดี แต่ปล่อยให้ประธานคนอื่นทำหน้าที่แทน หลีกเลี่ยงทั้งการโหวตและกรณีผู้ร้ายหนีการฟังคำพิพากษาฎีกา แล้วเอามาตีกินดีใส่ตัวชั่วให้คนอื่น เจ้าเล่ห์เพทุบายแท้ๆ”
 
แม้นว่า Panat Tasneeyanond จะท้วง Jerasakdi Ayuwattana เรื่องนั้นว่า “ไวพจน์ยังไม่ได้ฟังคำพิพากษา มิใช่หรือ” เนื่องเพราะศาลฎีกาจังหวัดพัทยา “ได้ออกหมายเรียกให้มาฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ ๑๕ มกราคม ปีหน้า”

(ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตัดสินคดี ๑๒ ผู้ต้องหา ล้มประชุมสุดยอดอาเซียน ที่พัทยาเมื่อปี ๒๕๕๒ ได้จาก https://www.tnews.co.th/politic/520300/8C กับกรณี มาดามเดียร์ ฟ้อง อนุทิน ที่ https://www.thairath.co.th/news/politic/1720428)

อาการเบาะแว้งกันในรัฐบาลประยุทธ์ ๒ นี่มีซุบซิบเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นไปได้หรือไม่แค่ไหน ม่ายรุ เอาแค่อารมณ์ร่วมกับโพสต์ของ ไทกร พลสุวรรณ ที่ว่า “ยุบพรรคอนาคตใหม่ ปรับประชาธิปัตย์ออกไป เป็นเรื่องเดียวกัน”

นักเคลื่อนไหวการเมือง อดีตแนวร่วม กปปส. รายนี้ร่ายเป็นคุ้งเป็นแควว่า ประยุทธ์จะปรับ ครม.ครั้งใหญ่หลังจากยุบพรรคอนาคตใหม่ได้เรียบร้อย ในราวมีนาถึงเมษาหน้า เอา ปชป.ออกจากรัฐบาล “เหลือไว้เฉพาะสายลุงกำนัน ประมาณ ๒๐ กว่าเสียง”

คาดหวังว่าจะกวาดบรรดา ส.ส.ที่เคว้งคว้างได้สัก ๖๐ คน โดยต้อนไปเข้าพรรครัฐบาล (พปชร., ภท.) และพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่ “มีสวนกล้วยทั้งสวนไว้เป็นรางวัลตอบแทน”

ประยุทธ์เลยต้องไปยืนเกาะโพเดี้ยมออกโรงแก้ข่าวอีกว่า เสถียรภาพรัฐบาล โอเค “ย้ำชัดไม่ปรับ ครม.แบะท่าพร้อมรับพรรคเศรษฐกิจใหม่” บอก “ถ้าจะมาก็มา” ต่อด้วย “ผมคงไม่โง่พอที่จะไปพูดเรื่องยุบสภา” ผ่านสื่อ

Deep Blue Sea @WassanaNanuam เติมด้วยว่าตู่ถาม “วันนี้ ผมเชื่อมั่นในประชาชน เชื่อมั่นในระบบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา ยังไม่พอกันอีกหรือ” คงจะมุ่งหมายสวนกระแส วิ่ง-ไล่-ลุงละสิ ถึงได้พ่นใหญ่ขณะที่กระบวนการรัฐสภาชักจะเข้าไคล้

เมื่อวาน (๖ ธันวา) อนุกรรมการครุภัณฑ์ฯ ในคณะกรรมาธิการงบประมาณฯ พิจารณาปรับลดงบประมาณหลายรายการ รวมทั้ง “กองทัพเรือ ที่มีโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำใหม่สองลำ ลำละ ๑๑,๒๕๐ ล้านบาท” ซึ่งตั้งงบประมาณผูกพันไว้ถึง ๗ ปี

อนุกรรมการฯ ที่มีทั้ง ส.ส.จากฝ่ายค้านและรัฐบาล ตั้งข้อสงสัยว่าการตั้งงบฯ โครงการซื้อยุทธภัณฑ์ เฮลิค้อปเตอร์ รถดับเพลิง และรถถ่ายทอดสด ของทัพบก กรมการปกครอง และกรมประชาสัมพันธ์ “ปัจจุบันไม่มีความจำเป็น”

 
ที่จำเป็นและบัดนี้ เคาะแล้วเป็นคณะกรรมการค่าจ้าง กระทรวงแรงงานอนุมัติขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นรายจังหวัด มากบ้างน้อยบ้างไม่เท่ากัน กำลังยื่นเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ประกาศใช้มีผลได้ตั้งแต่วันที่ ๑ มกรา ๖๓ เป็นของขวัญปีใหม่

ชาวบ้านตั้งท่าจะเฮกันเชียวละ ต่างหวนนึกถึงนโยบายหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐที่ว่า ถ้าเลือกเรา เอาตู่มาเป็นนายกฯ ละก็ จะขึ้นค่าแรงต่อวันเป็น ๔๐๐-๔๒๕ บาท ครั้นไปดูรายการขึ้นค่าแรงของประยุทธ์ ๒ พากันร้องอั้ยหยา

พบว่าค่าแรงสำหรับ ๙ จังหวัดขนาดใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต นครปฐม สมุทปราการ เป็นอาทิ ได้อย่างดีที่สุด ๓๓๖ บาทต่อวัน (ปรับขึ้น ๖ บาท) จังหวัดอื่นๆ นอกนั้นได้ขึ้นวันละ ๕ บาท อัตราต่ำสุดคือวันละ ๓๑๓ บาท จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา รับไป


นี่ไง ตู่ ถึงได้ถาม “ยังไม่พอกันอีกหรือ”