วันอาทิตย์, มิถุนายน 02, 2562

เพราะอะไร เสียงสาปแช่งอำมาตย์เปรมจึงดังกลบเสียงสดุดี ?




เพราะอะไร เสียงสาปแช่งอำมาตย์เปรมจึงดังกลบเสียงสดุดี

อำมาตย์เปรม มีประสบการณ์การก่อการรัฐประหารมากที่สุดในโลก ฉีกรัฐธรรมนูญ ทำลายประชาธิปไตย หลายครั้ง ที่โด่งดังก็คือ เป็นหนึ่งในคณะรัฐประหารนองเลือด 6 ตุลาคม 2519 ที่ฆ่าพวกนักศึกษาตายอย่างโหดเหี้ยม เป็นผู้มีบทบาทสำคัญรัฐประหาร 20 ตุลาคม 2520 จนได้ปูนบำเหน็จรมช.มหาดไทย ควบตำแหน่งผบทบ. ถัดมาก็ไปหนุนกลุ่มทหารหนุ่มยังเตริก คือมนุญ รูปขจร ควงปืนเข้าสภาไปจี้เอวพลเอกเกรียงศักด์ ชมะนันท์ให้ลาออกกลางสภา ปูทางให้อำมาตย์เปรมนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี แล้วยังสืบทอดอำนาจตนเองอยู่ถึง 8ปีเต็ม หลังจากเกิดขบวนการนักศึกษา-กรรมกรที่มีอาการ “เบื่อป๋าเซ็งเปรม”ขึ้นมา ถัดจากนี้ก็มาเป็นประธานองคมนตรี ที่มีบทบาทสูงเด่น รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ก็ฝืมือแกล้วนๆ จนเมืองไทยบ้านแตกสาแหรกขาด แล้วสุดท้ายรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 โดยลูกป๋าประยุทธ์ จันทร์โอชาที่อำมาตย์เปรมออกมาการันตีไม่โกงกิน แล้วให้มีชัย ฤชุพันธ์ยกร่างรัฐธรรมนูญ60 ทำให้การเมืองไทยปั่นป่วนในทุกวันนี้ ระหว่างแกเป็นนายกรัฐมนตรี ยัง ชื่นชอบนายชวน หลีกภัยเพราะชอบหลีกภัยการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาด้วยการสั่งยุบสภาถึงสามครั้ง

วันนี้ อำมาตย์เปรม สิ้นลมหายใจตามสังขารไปแล้วแต่อำมาตย์ใหม่ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ตามรอยเท้าอำมาตย์เปรม ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกสมัยหนึ่ง

ไม่แปลกใจที่วิษณุ เครืองาม ที่ออกมาบอกว่า ถ้าไม่มีพลเอกเปรม ประเทศไทยคงอยู่ไม่ได้ถึงวันนี้ แน่ซิ คำว่าประเทศไทยของพวกแกหมายถึงว่า พวกแก ทำรัฐประหารอยู่มาได้ถึงวันนี้นั่นเอง

การมีอำนาจยาวนานด้วยอายุขัยและใช้ตำแหน่งใกล้ชิดเบื้องสูงแทรกแซงการเมือง กลายเป็นจุดตาย เพราะบาปกรรมของการใช้อำนาจไม่ชอบด้วยศีลธรรม ได้เพาะเชื้อศัตรูและความเกลียดชัง เต็มแผ่นดินไปหมด เสียงสาปแช่งจึงดังกลบเสียงสรรเสริญสดุดีด้วยประการฉะนี้แล



Somyot Pruksakasemsuk