วันพุธ, สิงหาคม 08, 2561

'ปิ๊สิทธิ์' ไม่เอาพรรคทหาร ขอเป็นฝ่ายค้านฟัดกับ 'ระบอบทักษิณ' ต่อ

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เพิ่งประกาศยืนยัน ไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคทหาร แม้นว่าพรรค รปช. ของสุเทพ เทือกสุบรรณ จะได้ ม.ร.ว.จตุมงคล โสณกุล เป็นหัวหน้าพรรค “ก็ยังพูดไม่ชัดเจนว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ (จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เหมือนนายสุเทพ) หรือไม่”

ม้าร์คตั้งข้อแม้ไว้ว่าเพราะ “แนวทางของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับ ปชป.” และอ้างด้วยว่า “ปชป.จะเสนอแนวทางที่แตกต่างจากกลุ่ม คสช.และระบอบทักษิณ”

ที่ซึ่งเขาตีความแนวทางกลุ่ม คสช. ว่าเป็น รัฐราชการ และระบอบทักษิณเป็น ประชานิยมส่วนประชาธิปัตย์เป็น เสรีนิยมประชาธิปไตย


ซึ่งถ้าวัดจากความเป็นจริงแล้ว ผิดทั้งเพในเมื่อการเป็นรัฐราชการของ คสช. ได้เพิ่มเติม เวรวิธีเผด็จการกดขี่ด้วยกฎหมายที่เขียนเองเข้าไปด้วย ขณะที่ระบอบทักษิณในรอบสิบกว่าปีที่ไม่มี ทักษิณนั้นผันตัวไปเป็นเสรีนิยมประชาธิปไตยมากกว่า เนื่องจากกระจัดกระจายกันไปเป็น เสื้อแดง หลายเฉด (shades)

สำหรับประชาธิปัตย์เท่าที่เห็นก็ยังคงเส้นคงว่ากับการเป็นอนุรักษ์นิยมของเหล่าผู้ดีแปดสาแหรกอยู่ไม่คลาย เป็นนักการเมืองแบบ รอส้มหล่น และไม่สามารถสร้างค่าให้แก่ตนเองได้ ก็เลยใช้วิธีใส่ความโจมตีคนของพรรคตรงข้ามให้ดูร้าย ตามสไตล์ที่ ‘E-Thing’ ชอบ ทำ

จึงไม่มีอะไรที่จะทำให้โล่งใจได้เลยว่า ปชป. จะไม่กลับไปร่วม เวรวิธีกับเผด็จการทหารอีก เหมือนที่เคยร่วมกันทำให้ประชาธิปไตยบรรลัยมาแล้ว หรือเหมือนที่คนของ ปชป. สาย กปปส. ที่ได้รับมอบส้มจาก คสช. กำลังช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยมุ่งไปสู่ความบรรลัย จากการใช้แนวทาง รัฐราชการ

ดังที่นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. ที่ คสช.ตั้ง พูดถึงแนวทางจัดระเบียบผู้ค้าบนถนนข้าวสารว่าต้อง “ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะทุกวันนี้บริเวณที่ผู้ค้าขายของกันอยู่นั้น ไม่ใช่จุดผ่อนผัน เท่ากับว่าพวกเขาฝ่าฝืนขายกัน
หลังจากที่ กทม.ทำการจัดระเบียบอย่างเฉียบขาด ทำการรื้อถอนแผงค้าจนบนถนนข้าวสารวันนี้โปร่งโล่ง ไร้ทั้งแผงไร้ทั้งผู้คนนักท่องเที่ยว ในลักษณะที่เคยเป็นจุดดึงดูดชาวต่างชาติ กระทั่งมีการกล่าวขวัญในต่างประเทศว่า เป็นตลาดค้าบนถนนอันชุลมุนอย่างมีเสน่ห์ เช่นเดียวกับเมืองติฮัวน่าในเม็กซิโก ตรงข้ามด่านซานอิสริโดชายแดนใต้สุดของสหรัฐฝั่งตะวันตก

ไม่ว่าผลการตัดสินใจสุดท้ายของ กทม. จะเอาอย่างไรแน่ ยังคงยินยอมให้เปิดแผงค้าบนถนนเพียงด้านเดียว ระหว่างเวลา ๖ โมงเย็นถึงเที่ยงคืน โดยจัดระเบียบให้ทุกแผงขนาดเท่ากันหมด ๑.๕ เมตร ไม่เก็บค่าเช่าแผง แค่เก็บค่าขยะเล็กน้อย

หรือเปลี่ยนเป็นอื่นใด ข้าวสารก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว นักท่องเที่ยวฝรั่งบางคนที่ไทยรัฐลงไปสัมภาษณ์ “เมื่อถามว่าครั้งหน้าที่มาเที่ยวเมืองไทย ยังจะมาถนนข้าวสารอีกหรือไม่ ทุกคนต่างส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมกับบอกว่า พวกเขาคงจะไปเที่ยวที่อื่นที่ดีกว่านี้


ดูเหมือนว่ามันจะเข้าทางบรรลัยทำนองเดียวกับผลประกอบการด้าน ค้าปลีก โดยรวมในประเทศ ที่ผ่านมาครึ่งปีแรก ของปีนี้ ทรงตัวเกือบทุกหมวดสินค้า” ตามรายงานของประชาชาติธุรกิจ

“ขณะเดียวกันก็ยังเป็นลักษณะกระจุกตัวที่เฉพาะในกรุงเทพฯและหัวเมืองหลัก ๆ ของการท่องเที่ยว ส่วนสาขาที่อยู่ในต่างจังหวัดการเติบโตของกำลังซื้อค่อนข้างอ่อนตัว” ด้วย

รายงานแจ้งว่าการเติบโตทางการค้าอุปโภคบริโภคในปีที่รัฐบาล คสช. เตรียมผันตัวไปเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ในระบอบ ห่อเท้า คุมการเติบโตของพรรคการเมืองนั้นโตเพียง ๓.๒ เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้สัดส่วนกับราคาคุยของรัฐบาลว่า จีดีพี โตถึง ๔.๕ เปอร์เซ็นต์

แม้แต่ในครึ่งปีหลังซึ่งจัดเป็นช่วงขาขึ้น หรือ ไฮซีซั่นทางการค้าปลีก คาดว่าน่าจะโตได้แค่ ๓.๓-๓.๕ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น


ทั้งนี้ถ้านายอภิสิทธิ์และพรรค ปชป. ยุคถูกห่อเท้าจะไม่ร่วมสังฆกรรมการเมืองกับพรรคทหารได้จริง แล้วไปเป็นฝ่ายค้านก็อาจจะพ้นครหาว่าช่วยทำเศรษฐกิจพังได้มั้ง แต่ก็คงงานหนักหน่อยที่ต้องไปสู้กับระบอบทักษิณในฝ่ายค้านด้วยกัน

ถ้าหาก “จากคำพูดของหม่อมเต่า (หัวหน้าพรรคเทือก) ว่าพรรคเพื่อไทยจะอยู่ถึงเลือกตั้งหรือปล่าว นั่นคือเขารู้ว่ามีความพยายามหรือวางแผนยุบพรรคเพื่อไทย” (independence @redbamboo16 5:26 PM - 6 Aug 2018) เกิดเป็นจริงขึ้นมา
 
ตามข่าวที่ว่าระบอบทักษิณสาย เจ๊แดงกำลังเตรียมตั้งพรรค เพื่อธรรม ไว้สำรอง นอกเหนือจาก “ผลักดันให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นสามี กลับมาลงสู้ศึกอีกครั้ง โดยผนึกกำลังกับนายพายัพ ชินวัตร น้องชายในการล็อบบี้ให้ สส.ของพรรคเพื่อไทยในภาคเหนือและอีสานสนับสนุน


ถึงอย่างไรก็ไม่ลืมนะว่า ยังมีเฉดเสื้อแดงสาย อนาคตใหม่ไฟแรง รอเป็นสายใยฝ่ายค้าน แม้กระทั่งของเสียงข้างมากที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล คอยปฏิรูปรัฐธรรมนูญ ปลดแอก คสช. ล้มล้างผลพวงรัฐประหาร อีกราย