วันศุกร์, สิงหาคม 24, 2561

อาการ ‘ไบโพเดี้ยม’ กำเริบอีก 'ไอทู้บ' ไล่นักข่าว "ออกไปข้างนอกโน่น"

ประยุทธ์ไปบ้วนวาทะไว้ในงาน Prime Minister’s Award 2018 วันนี้ ๒๔ ส.ค. จวกสื่อว่ากล่าวหา “นายกฯ เป็นคนใจร้อน พูดจาไม่เข้าหูใคร หาที่ระบายลงไม่ได้ก็มาระบายกับสื่อ...

ตอนนี้ผมก็จึงคัดออก ฉบับที่ผมไม่อ่าน จริงๆ นะ มันไม่เคยสร้างประโยชน์ให้แก่เรา ให้กับประเทศ น้อยมาก...ถ้าผมใช้อำนาจจริงๆ ไม่มีหรอกเรื่องพวกนี้...พูดแล้วก็เลอะ เสียอารมณ์...

เดี๋ยวเสียมาดนายกรัฐมนตรีต้องเรียบร้อย สุภาพ ครับ คะ ค่ะ ไม่ตอบอะไรยิ้มลูกเดียว ผมไม่ใช่คนแบบนั้น...”

ครั้นถึงตอนแถลงข่าวหน้าทำเนียบเสร็จสรรพ ยังเอ็นจอยปากเปราะ เห็น น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ ที่ยืนอยู่ข้างหลัง เลยหันไปบอกนักข่าวว่า “การค้าพาณิชย์ ถามบ้างสิ การเมืองมันไม่ได้ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นหรอก”

มีเสียงตอบว่า มีนักข่าวเศรษฐกิจเป็นคนตามอยู่แล้ว เท่านั้นละ ไอทู้บเริ่ม วีนปริ “เธออย่ามาต่อปากต่อคำกับฉัน” นักข่าวคนนั้นจึงหันไปบอกกับเพื่อนว่า “ต่อปากต่อคำก็ไม่ได้”

ตานี้เลย ปรี๊ดแตก หันขวับมาตะคอกด้วยเสียงดังลั่น “ก็ไม่ได้ไง นินทาอะไรวะ...ถ้าต่อปากต่อคำก็ออกไปข้างนอกโน่น”



นักรบไซเบอร์คนหนึ่ง Koson Cricoon สันนิษฐานว่าเป็นอาการของโรค ไบโพเดี้ยมน่าจะเป็นเพราะสองสามวันที่ผ่านมาต่อล้อต่อเถียงกับอิปูว์ไม่ชนะ โดนพวกติ่งยิ่งลักษณ์ออกมาช่วยกันอัดกลับระบม

แล้วเจ้าตัว อาปู หันไปเล่นกับกระเป๋าทอมบราวของแท้ ให้หลานโอ๊คแซวสนุกสนาน คงสบายใจลอยตัวกับคดีจำนำข้าว ที่ข้อแท้จริงเริ่มประจักษ์ว่านโยบายไม่ผิด “ที่ ปปช.ชี้มูลมาศาลยกหมด แต่ไปผิดฐานปล่อยปละละเลยจีทูจี”
 
ผู้คนชวนกันย้อนไปดูคำวิจารณ์ของ ปิยบุตร แสงกนกกุล (๒๗ ก.ย.๖๐) และ ใบตองแห้งอธึกกิต แสวงสุข (๒๘ ก.ย.๖๐) ที่ว่าอัยการเอาสำนวนจากคดีการขายข้าวแบบจีทูจีในคดีของ บุญทรง เตริยาภิรมย์ (ซึ่งติดคุกไปกันคนละ ๔๒ ปี ๓๖ ปี) จำนวน ๖ หมื่นกว่าแผ่นเพิ่มเข้ามาในภายหลัง

ครั้นคู่ความฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร้องให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ เพราะเป็นการเอาสำนวนจากคดีระบายข้าวที่ ปปช.ชี้มูลภายหลังย้อนมาสั่งฟ้องกับคดีจำนำข้าวที่มีการวินิจฉัยไปแล้ว แต่ศาลกลับไม่ยอมส่งเสียงั้น ปิดโอกาสจำเลยได้ต่อสู้

เช่นนี้ ดร.ปิยบุตรระบุว่า “ส่งผลให้เกิดความไม่เสมอภาคระหว่างคู่ความได้ กล่าวคือ ฝ่ายโจทก์ทำสำนวนที่ไม่รัดกุมครบถ้วน แต่สั่งฟ้องไปก่อน จากนั้นค่อยๆ มาเติมทีหลัง”


เหมือนตั้งธงเอาผิดไว้ก่อนแล้วจึงหาหลักกฎหมายมาสนับสนุนภายหลัง เช่นเดียวกับที่มีการสั่งฟ้อง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับว่าที่กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่อีกสองคน ในข้อหาความผิดต่อ พรบ.คอมพิวเตอร์ มาตรา ๑๔ (๒)

จากการที่บุคคลทั้งสามจัดทำรายการเฟชบุ๊คไล้ฟ์ประชันกับรายการของหัวหน้า คสช. เมื่อคืนวันศุกรที่ ๒๙ มิ.ย. กล่าวถึงประเด็นการ ดูด อดีต ส.ส. เข้าไปร่วมพรรคการเมืองที่กำลังจัดตั้งขึ้นสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ได้เป็นนายกฯ ต่อไปอีก

 
เป็นเจตนากลั่นแกล้งและเตะสกัดด้วยอำนาจแห่งการบังคับใช้และตีความกฎหมาย ชนิดที่ นสพ.แนวหน้าขึ้นพาดหัวว่า “เชือด ไพร่หมื่นล้าน” และ V Nus @meVnus ตั้งข้อสังเกตุไว้บนหน้าทวิตเตอร์ว่า

เมื่อวาน รสนา (โตสิตระกูล) ก็ให้ข่าวเกี่ยวกับ คสช. เงินกองทุนพลังงาน ดูดๆ อะไรพวกนี้ มีใครไปนั่งจับ (เอา) ผิดบ้างไหม? หรือโฟกัสเฉพาะคนในฟาก #ประชาธิปไตย