บรรจุบุคลากรสาธารณสุข ต้องประหยัด ทัพบกได้ ๖ พันล้านสร้างพิพิธภัณฑ์สบายๆ ซ้ำมูลค่านำเข้าอาวุธเพิ่ม ๑๘๙ เปอร์เซ็นต์

นี่อีกหนึ่งในรายการทัพบกผลาญรายวัน ไม่มากไม่มาย เบาะๆ ๖,๒๘๔ ล้านบาทไทย สร้างพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า ใช้วิธีก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ไปถึงปี ๒๕๖๖

โครงการนี้เดิม ครม. อนุมัติให้เพิ่มงบประมาณแล้วครั้งแรกเมื่อ ๖ ต.ค. ๒๕๕๘ เป็น ๔,๗๔๖ ล้าน โดยเป็นหนี้ผูกพันงบประมาณปี ๒๕๕๗-๒๕๖๓ พอถึงเวลาลงมือก่อสร้างระยะที่ ๑ เมื่อ ๒๐ ก.ย. ๒๕๕๙ กำหนดวงเงินค่าก่อสร้างไว้ที่ ๙๙๙ ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ใช้เงินจากงบฯ ปี ๕๙ จำนวน ๑๘๐ ล้านบาท เหลืออีก ๘๑๙ ล้านบาทผลักไปเป็นหนี้ผูกพันถึงปี ๒๕๖๓

ครั้นเมื่อ ๓๐ ก.ย. ๒๕๖๐ มีการย้ายสถานที่ก่อสร้างโครงการไปยังที่ดินพระราชทานในท้องที่วังทองหลาง เนื้อที่กว่า ๗๙ ไร่ เลยต้องการงบประมาณเพิ่มเติม จนมาเมื่อ ๑๔ ส.ค. หลังประชุม ครม. มีคำสั่งออกมาว่าให้ปรับเปลี่ยนกรอบวงเงินใหม่อีกครั้งเป็น ๖,๒๘๔ ล้าน

เท่ากับกองทัพบกได้เพิ่มอีก ๑,๕๓๗ ล้าน และยืดระยะผูกพันงบประมาณออกไปเป็นถึงปี ๒๕๖๖ ทำให้โครงการก่อสร้างหอประชุมกองทัพบกและอาคารสวัสดิการทหาร ได้อานิสงค์เพิ่มงบประมาณเป็น ๓,๘๔๔ ล้านบาทด้วย

พิพิธภัณฑ์นี้ นอกจากสร้างอย่างหรูหรามโหฬาร “ลักษณะ ๓ มุขจั่ว คือมีมุขตรงกลาง มุขด้านซ้าย และด้านขวา ภายนอกอาคารผนังบุด้วยหินอ่อน และมีจั่วรวยระกา ลวดลายปูนปั้น ทาสี พระปรมาภิไธย โลหะหล่อปิดทอง เป็นองค์ประกอบ” แล้ว

“ภายในตกแต่งเล่าเรื่องราววรรณคดีเชิงประวัติศาสตร์ โดยใช้พระราชวังแวร์ซายส์ ประเทศฝรั่งเศส เป็นต้นแบบ จัดวางองค์ประกอบแบบตะวันตก แต่ใช้ลวดลายแบบไทย การประดับตกแต่งแต่ละห้องแตกต่างกัน ใช้เรื่องราวของวรรณคดี คติความเชื่อความรู้ในอดีต”

นัยว่าการเก็บรักษาไม้มีค่าของกลางที่คดีสิ้นสุดจำนวนมากเหล่านี้ “เป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นอาคารสําหรับจัดแสดงงานศิลปะ ทั้งประติมากรรม จิตรกรรม ตลอดจน งานฝีมือต่างๆ ของช่างไทย”

(https://mgronline.com/politics/detail/9610000083415)

ขณะที่มีผู้ทวนความหลังคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อเร็วๆ นี้เอง “ตู่วอนแพทย์เข้าใจ บรรจุบุคลากรสาธารณสุข ต้องประหยัดงบฯ ไว้ทำอย่างอื่น” มันช่างย้อนแย้งเสียนี่กระไร

 

เมื่อปีกว่าๆ ผ่านมานี่เอง มีวิกฤติขาดแคลนพยาบาลฝีมือในโรงพยาบาลรัฐ เพราะพากันลาออกไปอยู่กับเอกชน ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ นักวิชาการนิด้าคนหนึ่งเขียนบทวิเคราะห์เตือนไว้

“วิกฤติพยาบาลนี้จะยังดำเนินต่อไปและรอวันปะทุแตกหักอีกรอบ ความเป็นจริงก็คือสังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัว (Aged Society) มากมายไปด้วยคนแก่” ทำให้ความต้องการพยาบาลฝีมือจะยิ่งหนักไปใหญ่

(http://www.news1live.com/detail.aspx?NewsID=9600000050503)

แต่แล้ว ‘อย่างอื่น’ ที่อ้างนั่นคือพิพิธภัณฑ์ไม้ราคากว่า ๖ พันล้านของทัพบกละหรือ และ “เมื่อวันที่ ๒๑ ส.ค.ที่บริเวณสะพานลอยประตูงามวงศ์วาน ๑ พบป้ายผ้าที่มีข้อความว่า ไม่ต้อนรับเผด็จการคสช.” ผืนใหญ่แขวนอยู่ก่อนจะมีคนไปเก็บออก

มันคล้องจองกับวาระที่ประยุทธ์จะไปเป็นประธานเปิดการประชุมป่าไม้ประจำปี ๒๕๖๑ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่ง ‘กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์’ ออกตัวอย่างโจ่งแจ้งทางเว็บเพจของพวกเขา

 

“พวกเราในฐานะส่วนหนึ่งของประชาคมเกษตรศาสตร์ เห็นว่าการแสดงออกซึ่งการไม่ต้อนรับเผด็จการ ถือเป็นหน้าที่พลเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่พึงกระทำ”

ข่าวว่าล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงประธานเปิดงานจากแต่เดิม พล.อ.ประยุทธ์ ไปเป็น พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแทน

(https://www.newsringside.com/4581/)

หนำซ้ำนักวิชาการอีกคน Wiroj Lakkhanaadisorn, Ph.D. โพสต์หลักฐานมูลค่าการนำเข้าอาวุธและยุทธปัจจัยในปี ๒๕๖๐ ถึงกรกฎาคม ๒๕๖๑ เอาไว้น่าตกใจ ว่ากองทัพและหน่วยงานความมั่นคงต้องรบทัพจับศึกกับอริราชศัตรูที่ไหนมากมายนักหรือ

พบว่าในระยะ ๖ เดือนของปีนี้มีอัตราการเติบโตถึง ๑๕๗ เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ในเดือนกรกฎาคม ๖๑ เดือนเดียวโต ๑๘๙.๑ เปอร์เซ็นต์