วันเสาร์, สิงหาคม 18, 2561

เทือกเอาชีวิตเดิมพัน คดีโรงพัก ๓๙๖ แห่งไม่ได้สร้าง โบว์ ณัฏฐา บอกอ๊าย “#เพ้อเจ้อ ม.๑๕๗ โทษสูงสุดจำคุกแค่ ๑๐ ปี"

คนนี้เล่นได้หลายบท เหี้ยมก็เป็น (แบบ เหี้ยมสั่งฆ่ามห่ามสั่งยิง) ร่ำไห้ก็ได้ เรี่ยไรก็เก่ง พรางกายใต้ผ้ากาสาวพัตรยังเคย ตอหลดตอแหลเป็นปกติวิสัย ตระบัดสัตย์เพื่อมวลมหาประชาชนสบายมาก เจ้าเล่ห์เพทุบายใครจะเทียบ

เขาคือ สุเทือก เทพสุบรรณ วานซืน (๑๖ ส.ค.) เล่นบท ดราม่าสุดกู่ จะเอาชีวิตเข้าแลกกับข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในกรณีโครงการสร้างโรงพัก ๓๙๖ แห่ง กับแฟลตตำรวจ ๑๖๓ อาคาร เมื่อปี ๒๕๕๒ เกิดการเล่นแร่แปรธาตุสัญญาจ้างเอามาเหมารวมแล้วไม่ได้สร้าง เสียหายงบประมาณไปเกือบ ๙ พันล้านบาท

ผมตัดสินใจลุกขึ้นมาพูดเรื่องนี้ไม่ใช่ปกป้องเกียรติยศส่วนตัว แต่มีความรับผิดชอบต่อพี่น้องชาวไทย” ไม่เห็นเกี่ยวอะไรที่ชาวบ้านจะต้องมารับทราบข้อแก้ตัวของนายสุเทพ ในเมื่อ ปปช. มีมติแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ถ้าเชื่อมันในหลักฐานของตนเองก็เอาไปใช้สู้คดีในศาล แค่นั้นสิ้นเรื่อง

“เนื่องจากเรื่องนี้เดิมพันสูง ถ้าผิดเอาชีวิตตนไปเลย แต่ถ้าป.ป.ช. ไม่สามารถดำเนินคดีได้ลงโทษตนได้ คณะกรรมการป.ป.ช.ต้องพิจารณาตัวเอง” ชั้นเชิงเสแสร้ง บลั๊ฟของเขาขั้นเซียน ไม่ได้มีเดิมพันสูงส่งอันใด

ที่อ้าง “ข้อกล่าวหาร้ายแรงมาก” ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗ ที่ว่า “มีโทษถึงประหารชีวิต” นั่นอ้างผิดถนัด มั่วซั่ว น่าจะถามครูโบว์ ณัฏฐา มหัทธนา เสียก่อน
 
เธอว่า “#เพ้อเจ้อ ม.๑๕๗ โทษสูงสุดจำคุกแค่ ๑๐ ปี ใครจะมาเอาชีวิตคุณไปได้ เล่นนอกเกมจนเคยตัว” (Bow Nuttaa Mahattana @NuttaaBow)

แท้จริงการ เสียหน้า เสียเครดิต และ เสียหมานั่นละปัญหาใหญ่ทำให้สุเทือกต้องออกมาโวยวาย ความจริงเรื่องนี้ถูกดองมา ๘-๙ ปี ปปช.เพิ่งจะชี้ผิดเมื่อ ๑๕ ส.ค. ก็เพราะว่าคดีความอันผูกพัน

จากการที่สุเทือกเองดันยื่นฟ้องร้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ (อดีต) อธิบดี ดีเอสไอ กับหนังสือพิมพ์อีกสองฉบับไว้ ว่าหมิ่นประมาท ใส่ความเรื่องทุจริตสร้างโรงพักเกือบสี่ร้อยแห่ง “มีเสาโด่เด่และไม้เลื้อยพัน”
ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง “ด้วยเห็นว่าที่นายธาริตแถลงข่าวสรุปผลสอบสวน ๓๙๖ โรงพัก เป็นการแถลงตามอำนาจหน้าที่และเป็นคดีที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ส่วนหนังสือพิมพ์ข่าวสด-มติชน นำเสนอการแถลงตามข้อเท็จจริง โดยสุจริต จึงไม่เป็นการหมิ่นประมาท”

ทั้งนี้ในการนำสืบได้ความว่า “ครม.ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงบประมาณไปดำเนินการ เเต่ไม่ปรากฏว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการตามมติ ครม. เเละระเบียบสำนักนายกฯ”

โดยที่ “นายสุเทพยังเบิกความรับว่า ได้เห็นชอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรวมทำสัญญาเดียวกัน เเละให้ยกเลิกการประมูลราคาเเยกรายภาค”

มันเป็นความผิดกระทำสำเร็จแล้ว ไม่ต้องเอามาโวยในสื่อก่อกระแสกวนน้ำให้ขุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายสุเทพไม่ใช่นักการเมืองที่บริสุทธิ์ผุดผ่องนักหนา ดูจากที่ @brian_the_lover ขุดเอามาแฉ เช่น

บางคนอาจเกิดไม่ทันนายสุเทพ คนนี้นี่แหละที่เคยเอาที่ดิน สปก.๔-๐๑ ไปแจกจ่ายให้กับพวกพ้องตัวเอง ทั้งเศรษฐีและคนในพรรค สุดท้ายโดนนายเนวินแฉในรัฐสภา จนรัฐบาลของนายชวนต้องประกาศลาออกในวันรุ่งขึ้น” (7:22 PM - 15 Aug 2018)

มีอีก “วีรกรรมของนายสุเทพเรื่องถัดมาคือ กักตุนปาล์มน้ำมันทำให้น้ำมันพืชขาดตลาด ต้องเข้าคิวซื้อได้คนละขวดสองขวด จากขวดละ ๒๗ บาท ปาเข้าไปเกือขวดละ ๕๘ บาท ประชาชนเดือดร้อน แต่นายสุเทพกับ พวกรวยเละ”

มิหนำซ้ำตามรายงานของหนังสือพิมพ์มติชน โครงการก่อสร้างอาคารโรงพัก ๓๙๖ แห่ง กับแฟลตตำรวจอีก ๑๖๓ แห่งที่สมัยสุเทือกเป็นรองนายกฯ กำกับดูแลตำรวจนั้น สร้างได้แค่เสาให้วัชพืชอาศัย มาถึงสมัยอำนาจรัฐประหาร ได้ คสช.อุ้มสม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติของบประมาณเพิ่มเติมแล้วเพื่อก่อสร้างต่อในส่วนของโรงพักทดแทน ๓๙๖ แห่ง ใช้งบประมาณเพิ่มจาก ๕,๘๔๘ ล้านบาท เพิ่มอีกประมาณ ๑,๕๐๐ ล้านบาท ขณะที่ในส่วนของแฟลตพักอาศัยเพิ่มงบอีกประมาณ ๔๐๐-๕๐๐ ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งงบฯ ๓,๐๑๐ บาท

แต่การก่อสร้างยังสร้างก็ยังไม่แล้วเสร็จ...ที่เสร็จไปแล้วก็เพิ่งทยอยส่งมอบงาน” ในส่วนของโรงพักนั้นยังเหลืออีก ๕ แห่ง ผู้รับเหมาทิ้งงานบ้าง ยังหาผู้รับเหมาไม่ได้บ้าง ส่วนแฟลตตำรวจสร้างเสร็จไป ๘๘ แห่ง เหลืออีก ๗๕

ทั้งนี้โชคดี ได้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้ามากำกับดูแล จึงมีการย้ายงบประมาณสร้างที่ทำการตำรวจภูธรภาค ๑ และสโมสรตำรวจ จำนวน ๙ พันล้านบาทเอามาใช้กับโครงการโรงพักไม่ได้สร้างของสุเทือก


เชื่อขนมกินได้ว่างานนี้น่าจะเสร็จทันการก่อนมีเลือกตั้งรัฐบาลใหม่แน่ๆ เพราะบิ๊กป้อมนี่ดูเหมือนจะเป็นคนตรงเวลามากกว่าใครๆ ดูได้จากการที่เป็นนักสะสมนาฬิกา เพื่อนให้ยืม ตั้งยี่สิบกว่าเรือน