วันอาทิตย์, สิงหาคม 19, 2561

เห็นท่าน่าจะได้เลือกตั้งปี ๖๒ ครึ่งแรกแน่ แต่ตอนนี้ทนปัญหาเศรษฐกิจไปก่อน ดูจากโพสต์ของไพศาล พืชมงคล เป็นตัวอย่าง


อดีต กกต.เพิ่งยันอยู่หลัดๆ ว่าการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ๒๕๖๒ เป็นได้แค่ ๓๐ เปอร์เซ็นต์ หรือ ๒ ใน ๖ ของแนวทางทีจะเป็นไปได้ แต่ กกต. ชุดใหม่ สดๆ ซิงๆ บอกเลือกตั้งได้แน่ปลายๆ กุมภาฯ ๖๒

๑๘ สิงหา รองเลขาธิการคณะกรรมการเลือกตั้ง แถลงที่หาดจอมเทียน คาดว่าจะประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ส.ส. ได้ในวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๒ แล้วมีการเลือกตั้งได้ในวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

ตอนนี้สิ่งที่ กกต.ต้องทำให้เสร็จตามคำขอของ คสช. ก็คือจัดการแบ่งเขตเลือกตั้งให้ได้ภายในเวลา ๖๐ วัน และจัดทำไพรมารี่โหวต ให้เสร็จภายใน ๓๐ วัน และการแบ่งเขตก็เร่งรัดให้ทางจังหวัดปรับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ให้สอดคล้องกับประกาศของกรมการปกครองปี ๒๕๖๐

ส่วนการเลือกสรร สว. ที่จะต้องเสร็จก่อนเลือกตั้ง ส.ส.นั้น จะมีการประกาศ พรป. การได้มาซึ่ง สว. ในราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๑๓ กันยานี้ แล้วมีผลทันทีวันที่ ๑๔ ก.ย. ทำให้ประมาณว่าสามารถทราบผล สว.ได้ในวันที่ ๒๒ มกรา ๖๒


การเลือกตั้งปลายกุมภา ๖๒ เป็นไปได้อย่างไร มาดูประเด็น ไทม์ไลน์หรือเงื่อนเวลาซึ่งสามารถทำได้ ที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร แนะไว้ตั้งแต่ ๓๐ พฤษภาคม ราวสองเดือนครึ่งที่ผ่านมา ว่ามีแนวทางไปสู่การเลือกตั้งได้ ๖ กรณี

โดย “เวลาน้อยที่สุดที่เป็นไปได้ คือ ๑๕+๓๐+๙๐+๙๐ วัน เท่ากับ ๗ เดือนครึ่งนับแต่ต้นมิถุนายน ๒๕๖๑ การเลือกตั้งจะมีได้ประมาณกลางกุมภาพันธ์ ๒๕๖๒” และกรณีที่สอง

หากขั้นตอนนับแต่ศาลรัฐธรรมนูญส่งคำวินิจฉัยร่าง พรป.เลือก ส.ส. กลับไปให้ สนช. ๆ ส่งต่อให้นายกรัฐมนตรี แล้วนายกฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ยืดไปเต็มเหยียด ๓๐ วัน (แทนที่จะเป็น ๑๕ วันเช่นกรณีแรก) ละก็ จะมีการเลือกตั้งได้ตอนปลายกุมภาพันธ์ ๖๒

ตอนที่นายกฯ นำ พรป.เลือกตั้ง ส.ส. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้วนี้ ต้องใช้เวลาอีกภายใน ๙๐ วันให้ทรงลงพระปรมาภิไธย ตามด้วยรออีก ๙๐ วันตายตัว ตามนวรรตกรรมใหม่ที่ให้ “ชะลอการบังคับใช้ พรป.ส.ส. ๙๐ วันตามที่เขียนไว้ในบทเฉพาะกาลของ พรป.ส.ส.


ขั้นตอนข้างต้นนี่อาจล่นเวลาได้อีกนิดหน่อย ถ้าพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานร่าง กม. เลือกตั้งกลับมาและประกาศราชกิจจาฯ ในเวลาน้อยกว่า ๙๐ วัน และ กกต.ใช้เวลาเตรียมจัดเลือกตั้งได้ภายในเวลาไม่เต็มพิกัดกฎหมายกำหนด ถึง ๑๕๐ วัน อันจะทำให้การเลือกตั้งเลื่อนไปถึงเดือนมิถุนายน ๖๒

รวมความว่าน่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ภายในครึ่งแรกของปี ๒๕๖๒ จะยืดเยื้อไปถึงมิถุนาหรือเร่งรัดจนได้ปลายกุมภาก็สุดแล้วแต่ คงไม่มีเหตุปัจจัยใดอื่นให้ต้องเลื่อนออกไปช้ากว่านี้ หลังจากผ่านวันที่ ๑๒ สิงหามาอย่างชื่นมื่น

ประเด็นอยู่ที่เวลาราวหนึ่งปีนับแต่นี้ ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คสช. จะรักษาภาพโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อของตนให้สมจริงตามที่เสียงจากพวกชาวบ้านหน้าม้าตะโกนต้อนรับเวลาเดินสายลงพื้นที่ได้แค่ไหน

กำหนดไประนอง-ชุมพรของ บิ๊กตู่ช่วง ๒๐-๒๑ สิงหา ดูจะไม่ฟู่ฟ่าเท่าตอนไปอีสานใต้ ในเมื่ออดีต ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์คนเดียวที่นั่น แจ้งผ่านสื่อว่า “ตนติดนัดหมายเรื่องคดีความช่วยชาวบ้าน จึงไม่ได้อยู่ในพื้นที่ต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์

แต่ก็อยากฝากข้อคิดไว้ให้ว่า ถึงระนองเป็นจังหวัดเล็กแต่ก็มี ‘potentials’ หรือศักยภาพที่จะทำให้เป็นพลอยน้ำงามของฝั่งอันดามันในด้านการท่องเที่ยวได้ แถมมีท่าเรือน้ำลึกที่จะปรับปรุงให้รองรับเรือเดินสมุทรขนส่งสินค้า และเรือท่องเที่ยวสำราญแบบ ครู้ส ได้

นายวิรัช ร่มเย็น ยังทวงถามถึงแนวความคิดที่จะสร้างทางรถไฟเชื่อมโยงระหว่างระนองกับชุมพร ให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวต่อเนื่องสองทะเล อ่าวไทยกับอันดามันด้วย เขาอ้างว่าแนวคิดนี้ประยุทธ์เคยพูดไว้เองเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้ลืมหรือยัง


ปฏิกิริยาของอดีต ส.ส. ปชป. ผู้นี้ชี้ให้เห็นการเล่นบทของประยุทธ์ในห้วงของการเปลี่ยนฉากไปสู่รัฐบาลเลือกตั้ง สนองข้อเรียกร้องของประเทศมหาอำนาจตะวันตก พยายามจะย้อมแมวขายในเวลาสั้นๆ ปีกว่าๆ มากมายหลายอย่างจนล้นมือ

ไหนจะโครงการรถไฟฟ้าทำท่าจะมีแต่ราคาคุย เขตเศรษฐกิจพิเศษระเบียงตะวันออกยังไม่ไปโลดกระโดดเด้งเหมือนฝัน ข้อโจมตีรัฐบาลที่แล้วซึ่งใช้เป็นเกราะวาววับ ‘shining armor’ ให้ตนเองดูสง่า ชักจะกลับตาลปัตร
 
เมื่อโดน เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ แยงว่าโครงการจำนำข้าวเอาเข้าจริงแล้วไม่ได้ขาดทุนใช่ไหม เพราะไม่มีปรากฏในรายงานการเงินแผ่นดิน


ที่สำคัญเรื่องปากท้องของประชาชนทั้งหลาย ซึ่งปรากฏเสียงบ่นทางสื่อสังคมมาตลอดสองสามปี ว่าฝืดเคือง อดอยากปากแห้งกันไปตามๆ ขณะที่พวกบิ๊กๆ คสช. และลิ่วล้อสายเทคโนแครท คุยนักคุยหนาว่าจีดีพีดีขึ้นแล้วนั้น

จนวันนี้ความจริงยิ่งปรากฏมากขึ้น กระทั่งจากฟากฝั่งที่เคยเป็นนั่งร้านเสริมปราการอำนาจรัฐประหารของ คสช. ใครเล่าจะคิดว่าคนอย่าง ไพศาล พืชมงคล จะโพสต์ข้อความแบบนี้ออกมา
 
“ญาติพี่น้องขึ้นมาจากภาคใต้หลายคน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยประสบชะตากรรมลำบากอย่างวันนี้” เขาระบุรายการ เจ๊งเอาไว้ระนาว ประมง สวนยาง ท่องเที่ยว “วังเวงมาก...

เงินสดหายไปจากตลาด ถึงขั้นชาวบ้านไม่อยากออกจากบ้านไปจ่ายตลาดกันแล้ว ผมเองเป็นคนภาคใต้ อายุขนาดนี้ ยังไม่เคยได้ยินข่าวคราวพี่น้องที่บ้านเกิดและภาคใต้ตกระกำลำบากอย่างนี้เลย”