วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 16, 2561

ป.ป็อก อวดศักดาบ้าง 'ไทยนิยมยั่งยืน' โลด แต่ลูกชายส่งกลิ่นขยะ 'เละ'


ขยันจริง หัวหน้าใหญ่ คสช. ขยับเข้าไปดูแลเรื่องการขนส่งมวลชนและการจราจร ยกขบวนลงพื้นที่ กทม. ตรวจงานขนานใหญ่ ครบถ้วนทั้งรถไฟ เรือเมล์ ลิเก ตำรวจ

บอกว่า “รัฐบาลให้ความสำคัญกรณีดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นการบูรณการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามยุทธศาสตร์ของชาติในการพัฒนาเมืองด้วย ขอให้เห็นความเปลี่ยนแปลงภายใน เดือน


ฟังแล้วคลับคล้ายคลับคลา ว่ามีนักการเมืองคนหนึ่งเคยพูดเรื่องนี้ไว้นานนมกาเลแล้ว ที่ว่าจะแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ ให้ได้ภายในสามเดือนแล้วก็เหลว เขามาประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นในเรื่องอื่นภายหลัง โดยเฉพาะกับเรื่องประกันสุขภาพถ้วนหน้า

อวดศักดา อ้างผลงานกันใหญ่ ๑ ใน ๓ ป. คนที่ไม่ค่อยจ้อคุยบ้าง ว่าโครงการ ไทยนิยมยั่งยืน ที่ตนควบคุม “ประสบความสำเร็จไปแล้วหลายเรื่อง” คาดว่าเม็ดเงินที่ลงไปในโครงการจะกระจายสู่ระบบเศรษฐกิจทั้งมวล มียอดสูงเกือบถึง ๑ แสนล้านบาท

พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าโครงการไทยนิยมยั่งยืนเข้าโค้งสุดท้ายแล้ว และจะส่งคณะทำงานลงไปในพื้นที่กว่า ๘ หมื่นแห่ง “รับฟังความเห็นจากชาวบ้าน เพื่อจัดสรรงบประมาณอย่างเท่าเทียมกัน

โดยยกตัวอย่างอุตสาหกรรมสมุนไพร ใช้วิธีการผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล สามารถส่งออกไปต่างประเทศ สร้างรายได้ปีละกว่า ,๐๐๐ ล้านบาท" กับส่งเสริมการปลูกไม้ยืนต้น โดยเฉพาะไม้มีค่า “เพราะปัจจุบันมีกฎหมายให้ใช้ไม้ค้ำประกันแทนเงินได้

คาดว่าเม็ดเงินที่จะกระจายสู่ระบบเศรษฐกิจทั้งหมด จากการดำเนินโครงการไทยนิยมยั่งยืนจะสูงถึง .๙๕หมื่นล้านบาท จากการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ๓.๕ หมื่นล้าน ด้านชุมชนท่องเที่ยวและกองทุนหมู่บ้าน ๓.๔๕ หมื่นล้าน และจากกองทุนหมู่บ้าน ๓ หมื่นล้าน


คงไม่ต้องไปตามจี้ว่าเม็ดเงินเหล่านี้เกิดดอกออกผลแค่ไหน อย่างไร ในเมื่อเสียงสะท้อนตีกลับทันควันทางโซเชียลมีเดียด้วยภาพ ว่าเดี๋ยวนี้ร้านทองหันไปขายก๋วยเตี๋ยวแทนกันแล้ว
 
ไม่เพียง มัวแต่คุยคำโต ไม่ได้ดูตัวของตัวเองว่า ขยะส่งกลิ่นเมื่อบิ๊กป็อกเจอกระแสข่าวที่ว่า ลูกชาย “เข้าไปมี ผลประโยชน์ ในโครงการโรงกำจัดขยะ-โรงไฟฟ้าขยะ ของกระทรวงมหาดไทย

นสพ.ผู้จัดการรายงานเรื่องกลิ่นไม่ดีในโรงกำจัดขยะและโรงไฟฟ้าที่ภูเก็ต หลังจากที่ พล.อ.อนุพงษ์ เพิ่งออกปาก “ลูกชายบอกว่าไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวหรือร่วมทุนกับใคร ด้วยอาการฉุนเฉียว”

ดันมี “คนตาดีไปเห็นชื่อคุ้นๆ ยุทธพงษ์ เผ่าจินดา ไปปรากฏอยู่ในวาระงานของทางราชการ แถมเกี่ยวกับ ขยะซะด้วย คือในตารางงานตีพิมพ์ไว้บนเว็บไซ้ท์ของจังหวัดภูเก็ต “ประจำวันพฤหัสบดีที่ พฤษภาคม ๒๕๖๑ในส่วนของ นรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
 
...มีนัดหมายใน เวลา ๑๑.๓๐ น. ที่ระบุว่า “คุณยุทธพงษ์ เผ่าจินดา ขอเข้าพบเรื่องการบริหารจัดการขยะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ณ ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต” คอลัมน์ ข่าวปนคน คนปนข่าว ของผู้จัดการว่า

เสี่ยร้านสปาลูกรัฐมนตรีกำลังสนใจธุรกิจ ขยะขึ้นมากระทันหัน หากเข้าล็อกนี้ก็คงพอเป็น ใบเสร็จที่ บิ๊กป๊อก ถามถึงอยู่ จะให้เคลียร์ชัดเจนก็คงต้องวาน เผ่าจินดาผู้พ่อให้ความกระจ่างกับสังคมซักหน่อย


รวมความแล้ว กระทั่งทุกวันนี้ พวก คสช. ตัวหัวๆ นี่ยังไม่พ้นวังวน “ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง” บางครั้ง “ปากว่าตาขยิบ” บางทีมีรายการ “เอาหูไปนาเอาตาไปไร่” ไม่ยอม “ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงา” ของตน เลยขึ้นบทพระเอกร่ำไป