วันอาทิตย์, สิงหาคม 19, 2561
กกต.เปิดโรดแม็ปเลือกตั้ง คาด 24 ก.พ.2562 คนไทยได้เข้าคูหากาบัตร ประธาน กกต. “อิทธิพร” ปลุก พนง. ยึด 4 ข้อ ทำงานเน้นความสามัคคี แนะ สร้างการยอมรับจากนานาประเทศ
กกต.เปิดโรดแม็ปเลือกตั้ง คาด 24 ก.พ.2562 คนไทยได้เข้าคูหากาบัตร
19 สิงหาคม พ.ศ. 2561
ไทยรัฐออนไลน์
กกต.เปิดโรดแม็ปเลือกตั้ง คาด 24 ก.พ.62 ได้เข้าคูหากาบัตร ส่วน ส.ว.ประกาศผล ได้มาซึ่งส.ว.วันที่ 22 ม.ค.2562 แย้ม คสช.ขอให้กกต.เร่งทำ เรื่องแบ่งเขต 60 วัน ทำไพรมารี 30 วันตามจำนวนประชากร ปี 2560
เมื่อเวลา 15.15 น. ที่โรงแรมพินนาเคิล จอมเทียน พัทยา นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต.นำเสนอร่างแผนปฏิบัติการตามภารกิจการให้ได้มาซึ่ง ส.ว.และภารกิจการเลือกตั้ง ส.ส.โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า หาก พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.มีผลบังคับใช้ ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 13 ก.ย. จะมีผลทันที ในวันที่ 14 ก.ย. จึงมีการเตรียมการเรื่องบัตร คูหาเลือกตั้ง โดยรูปแบบบัตรไม่เป็นปัญหามากเหมือน ส.ส.โดยจะหาผู้ดำเนินการจัดพิมพ์ระหว่างพ.ย.และจัดพิมพ์ ธ.ค.พร้อมกันนี้ จะมีการออกระเบียบต่างๆ เพื่อรับสมัครส.ว. จากนั้นเมื่อพ.ร.ฎ.การเลือก ส.ว. กกต.กับ ครม.จะประสานกันเรื่องวันเวลาในการเลือก ส.ว. จะไม่เหมือน ส.ส.เพราะจะต้องเลือก 3 วัน คือ ในระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ ต้องทำพร้อมกันทั่วประเทศ อาจจะมีการประกาศผลการได้มาซึ่ง ส.ว.ในวันที่ 22 ม.ค.62 ส่วนการเลือกตั้ง ส.ส.คาดว่า จะมีการประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 4 ม.ค.62 จะเลือกตั้ง 24 ก.พ.62 จะต้องจัดหาผู้ดำเนินการจัดพิมพ์ช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ส่งบัตรลอตแรกนอกราชอาณาจักร จากนั้นส่งไปยังกกต.เขตในเดือนก.พ.
นายณัฏฐ์ กล่าวอีกว่า จากการพูดคุยกับคสช.ครั้งที่ผ่านมา สิ่งที่เขาขอให้เราทำ คือ เรื่องการแบ่งเขต คือ แบ่งเขต 60 วัน ทำไพรมารี 30 วัน ซึ่งการแบ่งเขต ทุกจังหวัดได้เตรียมการเบื้องต้นแล้ว แต่เป็นการแบ่งตามจำนวนราษฎร เมื่อปี 2559 แต่ขณะนี้กรมการปกครอง ได้ประกาศจำนวนราษฎรปี 60 แล้ว จึงขอให้ทุกจังหวัดกลับไปพิจารณาเรื่องแบ่งเขตให้สอดคล้องกับจำนวนราษฎรที่มีการประกาศใหม่
...
ประธาน กกต. ปลุก พนง.กกต.เตรียมเลือกตั้ง ยึด 4 ข้อ ทำงาน เน้นสามัคคี
ไทยรัฐอนไลน์
นายอิทธิพร กล่าวมอบนโยบายเน้นย้ำว่า เน้นเรื่องความเข้มแข็งขององค์กร ยึด 4 เรื่อง 1. ต้องมีเอกภาพ 2. คุณภาพ บางสถานการณ์จำเป็นต้องมีวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์ เช่น ในการเลือกตั้ง 3. คุณธรรม พนักงานต้องยึดมั่นการทำงานอย่างเป็นธรรม ยุติธรรม เปิดใจกว้าง 4. คุณค่า การทำงานต้องยึดและปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต กล้าหาญ ไม่อยู่ภายใต้การครอบงำ ปราศจากอคติ องค์กรจะต้องกล้าหาญ ถ้าเรากล้าหาญและสุจริตก็จะเป็นเกราะคุ้มครองเรา ขอให้ถือเป็นคุณค่าและค่านิยมขององค์กร พร้อมขอให้องค์กรมีความสามัคคี ซึ่งตนอยากให้องค์กรได้รับรางวัลที่ 1 ด้านความสามัคคีเป็นทีมเวิร์ก ประสานงานกันอย่างเป็นระบบ
นายปกรณ์ มหรรณพ กกต.กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า ท่ามกลางข่าวในช่วงระยะนี้มีแต่ข่าวเช็กความพร้อมความคาดหวังสำหรับ กกต. ทุกฝ่ายต่างคาดหวังถึงความสุจริตและเที่ยงธรรม แต่อะไรคือความสุจริตและเที่ยงธรรม เพราะฝ่ายหนึ่งคาดหวังอย่างหนึ่งอีกฝ่ายก็หวังอย่างหนึ่ง การทำงานของ กกต.ชุดนี้ เราจะให้ความสุจริตเที่ยงธรรมตามกฎหมาย ดังนั้นไม่มีทางที่จะได้หากท่านไม่สุจริตมาก่อน ส่วนเรื่องภายในขององค์กรนั้น ตนสนใจระบบความก้าวในหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ กกต. เพราะตนเคยเป็นผู้พิพากษามาก่อน ตนมีข้อกำหนดในการทำหน้าที่ว่า หากตนจะต้องเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อตรวจงานนั้น จะต้องไม่มีการต้อนรับ ไม่มีรถนำ ไม่มีงานเลี้ยงทั้งสิ้น แต่อยากให้เน้นเรื่องความร่วมมือในการทำงานมากกว่า ทั้งนี้ ตนไม่แคร์ว่าจะอยู่ในตำแหน่งนี้ได้อีกกี่ปี แต่ก็จะลองดูจะทำให้ดีที่สุด แม้จะเป็นผู้พิพากษามา 36 ปี โดยการทำงานผู้พิพากษาเมื่อพิจารณาสำนวนที่หลักฐานไม่ชัด ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ จะต้องปล่อย แต่มาทำงานนี้ หากสงสัย จะไม่ปล่อยอย่างแน่นอน แม้ไม่มีอำนาจไม่มีสิทธิ ไม่มีอะไรเลยที่จะทำให้พวกท่านเข้าไปบริหารบ้านเมือง หรืออยู่ในสภา แต่จะทำให้คนที่ไม่สุจริตและคนที่โกงไม่ได้เข้าไป
นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กกต.กล่าวว่า การจัดเลือกตั้งโดยทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม และการพัฒนาพรรคการเมืองให้เป็นสถาบันทางการเมือง แต่อยากให้ยึดหลักความซื่อสัตย์สุจริต ยุติธรรม และโปร่งใส อยากให้มีความกล้าหาญ ส่วนจะทำอย่างไรให้เป็นที่ยอมรับโดยเฉพาะในต่างประเทศนั้น เพราะเราไม่มีการจัดเลือกตั้งมา 4 ปีกว่าแล้ว จึงเป็นการบ้านที่ทุกคนจะต้องคิด เพื่อให้การเลือกตั้งได้การยอมรับจากทั้งในและต่างประเทศ หากองค์กรเราได้รับการยอมรับก็จบ ดังนั้นเราจะต้องเป็นแม่แบบแม่พิมพ์ที่ดี มีความเป็นกลาง และอยากให้ละวางความสัมพันธ์ส่วนตัวเพื่อให้เกิดความเป็นกลาง
นายธวัชชัย เทิดเผ่าไทย กกต. กล่าวว่า เรามาวันนี้เพื่อการทำงานของเราให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และเรื่องที่สำคัญนั้นรอเราอยู่นั้นเป็นงานใหม่ที่ไม่เคยทำทั้งการเลือกตั้งส.ว. และส.ส. ถือเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่ที่จะต้องทำ กกต.ชุดนี้เรายืนยันว่าเรามีความเป็นกลาง ทำงานเพื่อประเทศชาติ จัดการเลือกตั้งทุกระดับ ทำงานอย่างกล้าหาญ และเชิงรุก ต้องมาหาทางให้เลิกจากวงจรอุบาทว์ เราจะไม่ได้ทำเฉพาะจัดการเลือกตั้ง เราต้องพยายามทำหน้าที่เราให้เล็กเพื่อให้ภารกิจสำเร็จ ส่วนงานด้านไต่สวนสอบสวนวินิจฉัย อยากให้เน้นการทำงานเชิงรุก ที่ผ่านมาเรามีแต่นั่งอยู่ที่โต๊ะ เมื่อมีร้องทุกข์มาเราค่อยลุก ต่อไปนี้อยากทำงานเรื่องการร้องเรียนด้วยตนเอง และนำเทคโนโลยีมีแผนการติดตามประเมินผลเป็นแผนการที่ปรับปรุงตลอด