โฆษกห่านอูแถลงแจง นายกฯ ไม่ได้สั่งให้
สนช. คว่ำแคนดิเดต กสทช. ชุดใหม่ทั้งแผง หลังจากที่ซุบซิบกันลั่น พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา “ไม่ปลื้ม” กับคนที่เข้ารับการสรรหา
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อ้างถึง “กรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงและมีผู้กล่าวถึงนายกรัฐมนตรี”
ว่า “เสียงใครก็ไม่รู้” นั้นได้สอบถามไปยังบรรดาสมาชิก สนช. แล้ว ส่ายหน้ากันเป็นแถว
“หนูไม่รู้ อย่าหูเบา” กันทั้งนั้น
วานนี้ (๒๐ เมษา) มีการประชุมลับของสภานิติบัญญัติเพื่อลงมติเลือกกรรมการกิจการกระจายเสียง-โทรทัศน์และโทรคมนาคม
หรือ กสทช. ที่ลือกันมาก่อนว่าอาจจะมีการหักด้ามพล้าตัดสินเลือกไว้เลย ๗ คน
จากจำนวนผู้ผ่านการคัดเลือกรอบแรก ๘๖ คนเหลือ ๑๔ คน
แม้จะมีเสียงด่าขรมว่าในสิบสี่คนนั้นเป็นผู้ที่คุณสมบัติขัดต่อระเบียบจริยธรรม
คุณธรรมและความโปร่งใส เสียเกือบ ๑๐ คน เพราะคนเหล่านั้นถือหุ้นกิจการสื่อกันอยู่
ข่าวเม้าท์ทางไลน์บอกว่าเถียงกันในหมู่กรรมการคัดเลือกจะเอาไงดี
โละทิ้งทั้งหมดแล้วเริ่มกระบวนสรรหาใหม่ หรือหยวนๆ ไป
เลือกเอาที่ขี้เหร่น้อยที่สุดให้ครบเจ็ดคนไปเลยแล้วกัน ก็เกิดมีคลิป “เสียงใครก็ไม่รู้”จากการประชุมหลุดออกมานั่นละ
การนี้หลังจากที่ได้ประชุมลับกันครึ่งวันแล้ว
สนช.ก็เปิดอภิปรายเป็นทางการ โดยสมชาย แสวงการเสนอให้ลงมติไม่รับทั้งชุด ๑๔ คน
แต่ครูหยุย วัลลภ ตังคณานุรักษ์ เสียดาย แย้งว่าทำอย่างนั้นไม่ได้ มันขัดมาตรา ๑๗
ของ พรบ. กสทช. เพราะกำหนดให้ต้องเลือกจากรายชื่อที่ผ่านสรรหามาเท่านั้น
ท้ายที่สุดจึงมีการโหวตคว่ำทั้งกลุ่ม
ซึ่งก็ต้องเริ่มสรรหากันใหม่ เนื่องจากตำแหน่งกรรมการ กสทช. นี้สำมะคัญมากๆ “เงินเดือนสูงกว่านายกรัฐมนตรีประเทศไทย
ซะอีก” จึงต้องพิถีพิถันกันหน่อย
droidsans.com เขาทำรายละเอียดไว้
(ที่มา : Thaipbs, BBC)
ตัวประธานกินเดือนละ ๓๓๕,๕๒๐ บาท กรรมการธรรมดาฟาด ๒๖๙,๐๐๐ บาท
(เขาชี้ด้วยว่าเงินเดือนลุงตูบแค่ ๑๒๕,๕๙๐ บาท น่าสงสาร
ซ้ำไม่มีกินเล็กกินน้อยด้วยนะ)
ขณะที่พวก กสทช. ได้งบฯ ไปพักผ่อนสมองในต่างประเทศโดยนั่งเครื่องบินชั้นหนึ่งจะได้ไม่อึดอัด
กับงบฯ รับรองแขก ผู้เสียภาษีจำต้องจ่ายให้คนละ ๒ แสนบาทต่อเดือน
ถ้าน้อยไปก็รับภาระ ‘จ่ายก่อน’ ส่วนเกิน แล้วค่อยไปเบิกคืนทีหลังได้ ซ้ำยังมีเบี้ยประชุมติดปลายนวมอีก ๑
หมื่นบาทต่อครั้งให้กับแต่ละทั่น สุขสันต์หรรษากันเลย
(https://droidsans.com/national-broadcasting-and-telecommunication-commission-salary-and-privilege/ และ
https://www.ilaw.or.th/node/4786)
จึงมีเสียงว่า หูย สนช. ทำเจ๋ง “ล้มกระดานทั้ง
กกต. และ กสทช. เหมือนพยายามสร้างภาพตัวเองว่าไม่ใช่ตรายาง” (@unclevid1 Apr 19) เขาตบท้ายว่าจริงๆ
เป็นทาสรับใช้เผด็จการทหารตั้งแต่วันแรกที่รับการแต่งตั้งแล้ว
คงใช่
เพราะอาการกระมิดกระเมี้ยนอย่างไรพิกล ไหนจะประชุมลับ ไหนจะคลิปหลุด
ช่วงท้ายปลายสมัยก่อนที่บางคนจะได้ผันตัวไปเป็น
สว. บ้างก็ไปลงสมัคร ส.ส. พรรคนายกฯ คนนอก นี่พวกนักออกแบบกฎหมายลิ่วล้อ คสช.
เล่นแร่แปรธาติกันสนุก ลุยออกกฎหมายกันมันมือ หลายฉบับประกาศใช้แล้วชาวบ้านถึงได้รู้เรื่อง
อย่างกฎหมายว่าด้วยระเบียบวินัยการเงินการคลัง
ที่เพิ่งประกาศในราชกิจจาฯ เมื่อสองวันก่อน มีการห้ามรัฐบาลทำ ‘ประชานิยม’ ด้วยละ ดังที่เนื้อถ้อยบอกว่า “คณะรัฐมนตรีต้องไม่บริหารราชการแผ่นดินโดยมุ่งสร้างความนิยมทางการเมืองที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนในระยะยาว”
อะพิโถ ไอ้การใช้งบประมาณสร้างความนิยมทางการเมืองนี่
อย่างที่อนุมัติ ๗ ล้านทำสติ๊กเกอร์ไลน์ ใช่หรือเปล่า
แล้วก็ที่ไทยโพสต์เอามาอวดเรื่องมาตรา ๒๐
เรื่องการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ด้านลงทุนต้องไม่น้อยกว่าปริมาณที่ขาดดุลเอย
ด้านบุคคลากรต้องตั้งอย่าง ‘พอเพียง’ เอย งบฯ ใช้หนี้ก็ต้อง ‘พอเพียง’ เหมือนกัน
ดูเหมือนนักเขียนกฎหมายรายนี้จะเล่นภาษาสำบัดสำนวนจนนึกไม่ถึงว่า
‘พอเพียง’ กับ ‘เพียงพอ’
น่ะบางทีมันห่างกันแค่เส้นยาแดงผ่าแปดเท่านั้น
แล้วยังกฎหมายเกี่ยวกับการชำระเงิน ที่ผู้ช่วยผู้ว่าการ
ธปท. อุตส่าห์ออกมาเล่าแจ้งว่าประกาศใช้ไปแล้วนะ “ซึ่งรายละเอียดมีการคุ้มครองผู้บริโภค
โดยเฉพาะเรื่องของการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า
โดยมีการกำหนดมาตรฐานอย่างเข้มงวด”
ผู้ช่วยฯ สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา
แจงรายละเอียดว่ากฎหมายกำหนด “ว่าบุคคลใดที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าได้
และกำหนดขอบเขตของการนำข้อมูลไปใช้
หากผู้ประกอบการรายใดทำข้อมูลลูกค้ารั่วจะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน ๒ ล้านบาท”
แต่อย่าหวังนะว่ากรณีอื้อฉาวที่บริษัททรูมู้ฟ
เอช เอาข้อมูลลูกค้าไปปะไว้บนคลาวด์ของแอมาซอน เอส ๓ นั้นจะเข้าข่ายได้พอดี ทั่นผู้ช่วยฯ
ปฏิเสธทันใดว่า “กรณีดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับ ธปท.”
แต่ ธปท. ก็ยังดี๊ดี ติดตามไปดู “ระบบการป้องกันการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัททรูมันนี่
(TrueMoney) หลังจากที่เกิดปัญหา” ได้ความว่า “จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่มีข้อกังวลใจแต่อย่างใด”