ม้าร์คพูดงี้ได้ไง ทำให้
กปปส.ภายในพรรคไปกันไม่เป็น หรือว่าแค่เต้นสลับขา หาคะแนนกับคนรุ่นใหม่เอาไว้ก่อน
เลือกตั้งคราวนี้ได้ที่นั่งในสภาสักอันดับสอง
ขัดข้องอย่างไรเปลี่ยนใจตอนจะตั้งรัฐบาลได้
จะให้ร่วมกับพวกพรรคข้ารองบู๊ตหรืองูเห่า หรือไปตั้งรัฐบาลกันในค่ายทหารก็ย่อมได้
พวกวิชามารเหล่านี้เคยมาแล้วทั้งนั้น
ลองฟังเขาดู
รู้สึกไม่คุ้นนะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงการบริหารงานบ้านเมืองโดย คสช.ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา
แม้จะยกยอปอปั้นเมื่อเริ่มแรก แต่แล้วสับแหลกมาเป็นชุด นี่ถ้าไม่ดูหน้าว่าใครพูด
ต้องนึกว่าเป็นวัฒนา เมืองสุข แน่เลย
หัวหน้าพรรคการเมืองที่เคยร่วมมือแข็งขันกับทหารตอนปราบปรามประชาชนที่ออกมาเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่
วันนี้บอก คสช.เวลาเหลือน้อย
ถึงตนจะเอาใจช่วยให้วางนโยบายกติกาเพื่อการพัฒนาประเทศ แต่ “เห็นว่านโยบายหลายเรื่องเป็นการทำเฉพาะหน้า”
น้องม้าร์คแกใช้เวลาเกือบสี่ปีเพิ่งเห็น
โดยเฉพาะจากกการใช้รัฐธรรมนูญใหม่ที่จะทำให้
คสช. มั่นคง มั่งคั่งน่ะ “หลักการหลายอย่างมีแต่ความสับสน” อย่างเรื่ององค์กรอิสระ
คสช. ปลด กตต. ปากดีไปคนหนึ่งดื้อๆ กกต.คนนี้บังเอิญเคยเห็นดีเห็นชอบกับพรรคแมลงสาบบอยคอตเลือกตั้งเสียด้วย
เกี่ยวกับ สนช. พวกลิ่วล้อที่
คสช.ตั้งเข้าไปคอยผ่านกฎหมายตามที่คณะรัฐประหารต้องการ
นายอภิสิทธิ์ก็เพิ่งเห็นเหมือนกันว่า คอย “ตอบสนองสิ่งที่คสช.ต้องการ”
และว่าการออกกฎหมายของ สนช. ไม่รอบคอบหลายเรื่อง
“คุณภาพของกฎหมายที่ออกมามีปัญหา
สะท้อนให้เห็นว่าผู้เขียนกฎหมายไม่เข้าใจเงื่อนไขความเป็นจริงในสังคม”
นี่ถ้าจะให้ตีความตามทฤษฎีความเคยชิน (บ้านนอกเรียก
‘สันดาน’) กันละก็
ฟันธงปิ๊สิดเล่นลูกหลอกล่อแน่ๆ อดีตที่ผ่านมาจนกระทั่งเดือนนี้ (ขึ้นปีใหม่ไทย) ทั้งท่วงทำนองและท่าทีของน้องแม่ไอติมไม่ใช่อย่างนี้มาก่อนแต่ไหนแต่ไร
น่าจะเป็นยุทธวิธีช่วงชิงผู้ออกเสียงรุ่นที่เพิ่งจะได้เลือกตั้งเป็นครั้งแรกเสียละมาก
จากกระแสธนาธรร้อนแรง แถมพวก ‘เกรียน’
เนียนจริงผสมโรง มีทางแตะมือร่วมกับแช้มป์เก่าปรับยุทธศาสตร์มาเป็นฝ่ายค้านขนาดยักษ์
ปักหลักงัดกับ คสช. จะทำให้ ปชป. ไม่มีที่ยืนอันโดดเด่น ต้องไปเป็นน้ำใต้ศอกของนายกฯ
คนนอก
จึงได้เห็นเสาหลักของพรรคแมลงสาบออกมาปลุกผีชินวัตรอีกครั้ง
เพื่อลดแรงเสียดทานในการเลือกตั้ง เมื่อ ชวน หลีกภัย คนที่เคยขุน ‘เด็กสร้าง’ อภิสิทธิ์จนโด่งดังทางการเมือง กลายเป็นนักตอแหลสัญญลักษณ์แท้ของแม่ธรณีบีบมวยผม
การกล่าวหาว่าทั้งรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร
และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลั่นแกล้งตัดงบประมาณพัฒนาภาคใต้
กลายเป็นการโกหกครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของนักกรีดตัวเอ้ทางการเมืองไทย
น่าอนาถที่นายหัวต้องมาใช้ ‘faked
news-ข่าวเท็จ’ กรีดพรรคคู่แข่งเก่า
เพียงเพื่อเอาตัวรอดจากอิทธิพลของการเชื่อมทำเนียบรัฐบาล คสช. เข้ากับเกาะสมุย
(จากคอลัมน์อินเด็กซ์ของ ‘มติชนออนไลน์’ https://www.matichon.co.th/news/917096)
น่าสมเพชที่ปูชนียะของพรรคประชาธิปัตย์ต้องมาทำตัวเลียนแบบคู่แข่งใหม่แห่งมูลนิธิมวลมหาประชาชน
ในการให้ร้ายป้ายสีกลุ่มการเมืองฝั่งตรงข้าม เพื่อยกระดับตนเองให้พ้นจากน้ำครำ
โดยมิพักจะตรวจสอบข้อเท็จจริงใดๆ แม้แต่นิด
เพราะคำพูดของนายชวนแท้ๆ ทำให้ได้เห็น
ข่าวเก่าจากเมื่อปลายตุลา ๒๕๕๕ ของ ‘ประชาชาติธุรกิจ’ ออกมาเกลื่อนเน็ต เนื้อเรื่องเปิดฉากด้วยย่อหน้าแรกว่า
“นับเป็นครั้งที่ ๗ ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ที่ได้ยกพลออกต่างจังหวัดเพื่อประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ หรือ
ครม.สัญจร ล่าสุดตัดสินใจเลือก เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ ตุลาคมนี้”
เนื้อข่าวต่อไประบุว่ามีการเตรียมอนุมัติงบประมาณ
๑ หมื่น ๙ พัน ๒ ร้อยล้านบาท เพื่อพัฒนาพื้นที่ ๔ จังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย
อันมีสุราษฎร์ ชุมพร นครฯ และพัทลุง
นายหัวชวนคงจำไม่ได้เพราะไม่มีจังหวัดตรังละมัง
นั่นไม่ใช่ครั้งเดียวที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์อนุมัติเม็ดเงินลงพื้นที่ภาคใต้
ข่าวดังกล่าวระบุด้วยว่าในการทำนโยบาย ครม.สัญจรของยิ่งลักษณ์ที่ถูกโจมตีว่าหาเสียง
(แต่รัฐบาลทหารของประยุทธ์ก็เอาอย่าง แล้วยังปากแข็งแก้ตัวว่าไม่ใช่หาเสียง)
ครั้งที่สามก็ลงไปภูเก็ตและโซนอันดามัน
คราวนั้น “มีการทุ่มงบประมาณกว่า ๕๙,๓๕๘ ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ทั้งการขนส่งทางบก
พัฒนาเครือข่ายถนนทางเชื่อม ยกระดับท่าอากาศยานภูเก็ตให้เป็นสนามบินนานาชาติ
และสร้างสะพานท่าเทียบเรือจังหวัดพังงา-ระนอง”
และนั่นจากงบประมาณที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์จัดสรรให้ในส่วนนี้
๘ หมื่น ๔ พันล้านบาท ไม่รู้นายหัวไปงมอะไรอยู่ถึงได้ไม่เห็น
อันนี้ที่จริงก็ไม่อยากจะเชียร์อิปูว์ล่ะนะ
(กลัวจะเหลิง) แต่ไอ้พวกนักการเมืองอาชีพที่ไม่เคยทำมาหากินไรอื่นเป็นชิ้นอัน
ที่ก้าวไม่พ้นทักษิณและชินวัตรเสียที ทำให้ต้องได้มาเห็นความเก่งของพวกนั้นชักบ่อย
กูละเบื่อ