วันศุกร์, เมษายน 20, 2561

นาทีนี้ พรรคทหาร หรือ พรรคพลังประชารัฐ/พรรคภูมิธรรม ล่อ ส.ส.เข้าคอก ชูกลยุทธ์แบ่งสันปันเค้ก ใช้อำนาจเงิน และข้อกฎหมาย บีบ-มัด เจ้าพ่อหัวเมืองให้มาสวามิภักดิ์ เพื่อ หนุน ‘ลุงตู่’ ให้อยู่ยาว-มั่นคง-ชอบธรรม (พ่อแม่พี่น้องเอ้ย เค้ามามุขนี้ สู้ไม่สู้ ?)





เปิดกลยุทธ์พรรคทหาร: บีบ-มัด-แบ่งสันปันเค้ก-ซื้อ ส.ส.รายจังหวัด


Apr 19, 2018
ที่มา Voice TV


นาทีนี้ พรรคทหาร หรือ พรรคพลังประชารัฐ/พรรคภูมิธรรม ชูกลยุทธ์แบ่งสันปันเค้ก ใช้อำนาจเงิน และข้อกฎหมาย บีบ-มัด เจ้าพ่อหัวเมืองให้มาสวามิภักดิ์ เพื่อ หนุน ‘ลุงตู่’ ให้อยู่ยาว-มั่นคง-ชอบธรรม


ชู กลยุทธ์ “บีบ-มัด-แบ่งสันปันเค้ก” สร้าง “กองหนุนลุงตู่”

ทันทีที่ ปรากฏข่าวว่า “สองพี่น้องตระกูลคุณปลื้ม” ได้รับการปูนบำเหน็จขึ้นเป็น “กุนซือลุงตู่” ก็สอดคล้องกับ “ดีลลับทางการเมือง” ที่ “วัชระ เพชรทอง” ได้เคยแถลงไว้ก่อนหน้านี้

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า “การแต่งตั้งตระกูลคุณปลื้มมีตำแหน่งในรัฐบาล ในที่สุดก็เป็นไปตามคำพูดที่ตนนำมาเปิดเผยไว้ก่อนแล้วทุกประการ เชื่อว่าพรรคพลังชลก็ต้องหนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยหน้าอย่างแน่นอน โดยจะมีอดีต ส.ส.จังหวัดต่างๆ ทยอยเข้าร่วมรัฐบาลในตำแหน่งเทกระโถนต่างๆ เป็นจำนวนมากก่อนการเลือกตั้ง เพื่อเป็นการผูกมัดนักการเมืองเหล่านี้ให้หนุนพรรคทหารก่อนการเลือกตั้ง ไม่แตกต่างอะไรกับการตกเขียวทางการเมือง”

"พลเอกประยุทธ์กำลังใช้ความได้เปรียบในฐานะหัวหน้า คสช.ที่มี ม.44 อยู่ในมือ และนายกรัฐมนตรีเฉพาะกิจเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นๆ อย่างไม่มีหิริโอตตัปปะ พรรคทหารที่เขากำลังตั้งกันในทำเนียบรัฐบาลนั้น เขาใช้พลังดูดทั้งอำนาจสารพัดนึก เงินไม่อั้น และข้อต่อรองทางด้านกฎหมายต่างๆ นานา ก็สุดแท้แต่จะจูบปากกันในลักษณะไหนอย่างไร เขาไม่สนใจเรื่องมารยาท ความเหมาะสม ความดีงาม หรือธรรมาภิบาลกันแล้ว หากจะว่าระบอบทักษิณไม่ดี แล้วระบอบประยุทธ์ที่กระทำกับประเทศชาติอยู่ทุกวันนี้ แตกต่างอะไรกับระบอบทักษิณบ้าง หลายเรื่องเลวร้ายกว่าด้วยซ้ำไป "

"พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ และ รมว.ยุติธรรม ได้เจรจาทางลับกับนักการเมืองกลุ่มชลบุรี เพื่อขอให้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ โดยแลกเปลี่ยนกับเงื่อนไขทางคดีที่บิดาที่เป็นนักโทษในกรมราชทัณฑ์ มีการแลกเปลี่ยนจนเป็นที่พอใจของทั้ง 2 ฝ่าย”

ข้อมูลจาก 'วัชระ' ทำให้เห็นภาพที่ชัดขึ้นของกลยุทธ์ที่พรรคทหารใช้สร้างกองหนุนในทางการเมือง กรณี ดึง “คุณปลื้ม” เป็นกองหนุน ทำได้โดยแลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัวคนสนิทออกจากเรือนจำ

สนธยา คุณปลื้ม ปฏิเสธโดยตรงว่า ที่มาทำงานกับ คสช. ไม่ใช่เพราะเงื่อนไขนี้ แต่เพราะ อำนาจที่มี “จะทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ” และอยากมาผลักดัน 'EEC' สอดคล้อง กับ อดีต ส.ส.บิ๊กตั้นที่ควงคู่กับ 'รองผู้ว่าฯ สกลธี' ไปพบ 'รองนายกสมคิด' วันก่อนที่ทำเนียบ ก็ให้เหตุผลว่า มาคุยเรื่อง 'EEC' เหมือนกัน





ถึงที่สุด นักการเมืองสามรายที่ประกาศกับสื่อว่ามาคุยกับผู้มีอำนาจเรื่อง นโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ก็เรียบร้อยโรงเรียน “หนุน-ลุงตู่-อยู่ยาว”

ถึงวันนี้ 'กองหนุนลุงตู่' มีตัวละครใหม่ๆ มากขึ้นทุกวัน สำหรับ 'นักการเมืองเก๋าเกมส์' เมื่อ 'ดีลลับ-ผลประโยชน์ลงตัว' ก็ยินดีเป็นกองหนุน หลายรายถูกมัดใจด้วยเงิน เก้าอี้สำคัญ บางรายถูกบีบด้วยข้อกฎหมาย และหลายรายได้รับ 'เค้ก' เป็นก้อน ที่พอดีคำ

นักการเมือง อดอยากปากแห้งมาหลายปี เมื่อมีข้อเสนอดีดีที่แสนล่ำซำ ไปจนถึง ข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้ พวกเขาก็เลือกเดินหน้ากับ 'ทหาร' ต่อไป ด้วยตระหนักอีกว่า 'เมื่ออยู่ยาว' ก็จะทำให้ 'ผลประโยชน์' ที่ได้รับ มีความ 'สม่ำเสมอ'

เงื่อนไขทั้งหมดนี้ ทั้ง 'ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย' ให้ไม่ได้ โดยเฉพาะการรับรอง 'เสถียรภาพในการแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง'

เกมส์ที่ 'กุนซือ' คสช. กำลังเดินอยู่ตอนนี้ มองไปไกลกว่าประยุทธ์จะได้เป็นนายกคนนอก แล้ว นั่นก็คือ มองไปไกลถึงเสถียรภาพในการครองอำนาจ เห็นได้จาก การดูด ส.ส. แบบรายจังหวัด เข้ามาอยู่ใต้ร่ม God Father ตู่ บนฐานการประเมินว่า ส.ส.กลุ่มเล็กกลุ่มน้อย เมื่อรวมกันจะมี น้ำหนักพอ จะเป็นการ บีบ-มัด 'พรรคประชาธิปัตย์' 'พรรคอนุทิน' 'พรรคลูกบรรหาร' ให้กลับมาเป็น 'กองหนุนลุงตู่' ในที่สุด ทั้งนี้ก็จะโดดเดี่ยว 'พรรคเพื่อไทย-อนาคตใหม่'

ต่อจิ๊กซอว์พรรคทหาร: สมคิด-อัศวิน-สกลธี-คุณปลื้ม-ฉัตรชัย'

'เฮียกวง สมคิด' – รับหน้าที่เป็นศูนย์กลางของกองหนุนลุงตู่ สองสัปดาห์ที่ผ่านมา เปิดหน้าหนุนลุงตู่ชัดเจน โดยเฉพาะประโยคหวาน ๆ "หากท่านประสงค์อยู่ต่อไป เพื่อทำงานสานต่อสิ่งที่รัฐบาลนี้ทำไว้ ก็อยากให้ท่านอยู่นำพาประเทศต่อไป"





ชื่อชั้นของสมคิด คือชื่อชั้นของ 'กระเป๋าสตางค์รัฐบาล' ที่มี 'กลุ่มทุน' พร้อมจะลงขัน 'หนุนพรรคทหาร' และชื่อชั้นของ 'ผู้ใหญ่ที่มีลูกน้องมาก'

ความสามารถในการเชื่อมต่อกับกลุ่มทุนนี่เอง ที่ทำให้ พรรคทหารจะความสามารถในการ 'หว่านเงิน' โดยเฉพาะหว่านเงินจูงใจ ส.ส.รายจังหวัดมาเป็นพวก ทั้งยังเป็นการบีบ “พรรคประชาธิปัตย์” กลายกลาย ทำนองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเดอะมาร์คเดอะชวนจะไม่มั่งคั่งอย่างเก่าก่อน

ชื่อของสมคิด จึงแตกเป็นชื่อลูกน้องได้อีกสามชื่อคือ 'สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ – รมว.พาณิชย์' 'อุตตม สาวนายน – รมว.อุตสาหกรรม' และ 'สุวิทย์ เมษินทรีย์ – รมว.คุม 4.0' ชื่อของทีมสมคิด ยังมีเทคโนแครตชั้นนำพร้อมมาช่วยงานอีกหลายชื่อ





'อัศวิน ขวัญเมือง' ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร คนปัจจุบัน กลายเป็นอีกหนึ่งกองหนุนที่สำคัญของพรรคทหาร แหล่งข่าวรายหนึ่งยืนยันว่า “กระแสข่าวว่าจะบีบ อัศวิน ออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ อัศวิน จำเป็นต้องหนุนพลเอกประยุทธ์ต่อไป” จึงมีชื่อของ อัศวิน ในฐานะแกนนำคนสำคัญของพรรคทหาร สอดรับกับกระแสข่าวที่ว่า อัศวิน อาจไม่ลงมาเล่นในสนาม กทม.แล้ว แต่จะเล่นการเมืองระดับชาติแทน

'สกลธี ภัททิยกุล' รองผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร คืออีกหนึ่งคีย์แมน ที่จะเป็น 'นิวบลัด' ของพรรคทหารในอนาคต พ่อของสกลธีคือพลเอกวินัย ภัททิยกุล (เตรียมทหารรุ่น 6) ฉายา ขงเบ้ง คมช. พ่อตา-คือพลเอก จงศักดิ์ พานิชกุล (เตรียมทหารรุ่น 9) จากสองชื่อนี้ สกลธีจึงเชื่อมต่อกับ คสช. ได้แบบ 'ไร้รอยต่อ' เหมือนที่ตัวเขาเดินไปบอกหัวหน้ามาร์ค ก่อนซบทหารว่า “ผู้ใหญ่ในรัฐบาลเป็นผู้ติดต่อมา เพราะมองหาคนรุ่นใหม่มาทำงาน”





ก่อนจะขึ้นเป็นรองผู้ว่าฯ 'สกลธี' ไปหา 'สมคิด' ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งปฏิเสธได้ยากเมื่อมองจากปัจจุบัน ว่า “ไม่ใช่ดีลทางการเมือง” วันนั้นเขาเดินทางไป พร้อมกับ 'ตั้น - ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ' อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแกนนำ กปปส. และ'ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์' อดีตส.ส.สิงห์บุรี พรรคชาติไทย โดยคุยดีลปริศนานี้ร่วม 2 ชั่วโมง

ถ้าพรรคทหาร ได้ 'ตั้น' เป็นกองหนุน ก็เท่ากับได้ 'เงินหนุน และสายสัมพันธ์กับชนชั้นนำอันแข็งแรง' จาก ตระกูล ศรีวิกรม์ มาด้วย เพราะภรรยาของเขาคือ ทยา ทีปสุวรรณ ลูกสาวของคุณหญิงศศิมา ศรีวิกรณ์ หลังการรัฐประหาร ทั้ง ตั้นและทยา ในฐานะแกนนำ กปปส.ถูกควบคุมตัวไปไว้ที่บ้านพักต่างจังหวัด “อัญชลี ไพรีรักษ์” เล่าว่า คุณหญิงศศิมา แอบส่ง ข้าวเหนียวมะม่วง ให้กับลูกสาว ใต้ข้าวเหนียวนั้น คือยานอนหลับ พร้อมจดหมายจากคุณหญิง เขียนทำนองว่า “สิ่งที่พวกลูกทำ ถือว่าถูกต้องแล้ว กินยาและนอนหลับพักผ่อนซะ”

การขยับขึ้น 'รองผู้ว่าฯ' ของ สกลธี อดีต ส.ส.เขตหลักสี่ ยังเป็นการขยับที่ดีลได้ลงตัว เพราะสอดรับกับกระแสข่าวว่า 'อัศวิน' มีแผนจะดันลูกชาย-ร.ต.ท.พงศกร ขวัญเมือง หรือ หมวดเอิร์ธ ทายาททางการเมืองของอัศวิน ลงสมัคร ส.ส.เขตหลักสี่ ในนามพรรคประชาธิปัตย์

ถ้าเป็นจริงตามนี้ หมวดเอิร์ทคงต้องทำงานหนักหน่อย เพราะสุรชาติ เทียนทอง ส.ส.หลักสี่ จากพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ได้ดี ไม่มีขาดหายเป็นห้วงๆ เหมือน ส.ส.รายอื่น แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะทั้งงบ กทม. งบ คสช. และบารมีพ่อเมือง กรุงเทพฯ อาจเสกสรร-แจ้งเกิด หมวดเอิร์ธ ในฐานะ ส.ส.หลักสี่ ก็ได้

ยังมีอีกหลายตัวละคร 'กองหนุนลุงตู่' ให้ต้องเอ่ยถึง แต่ชื่อหนึ่งที่ได้รับการเอ่ยถึงเป็นพิเศษ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ 'บิ๊กฉัตร-พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ' ไม่ใช่การถูกเอ่ยถึงในฐานะ 'ถุงเงิน คสช.' หรือ 'เพื่อนรักบิ๊กตู่' เหมือนที่ผ่านมา แต่ถูกเอ่ยถึงว่า เมื่อถูกโยกจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาเป็น “รองนายกฯ นั่งทำเนียบ”

บิ๊กฉัตรได้เปลี่ยนทีมประชาสัมพันธ์ใหม่ ตั้งใจให้เป็น 'การพีอาร์เชิงรุก-มีข่าว-เป็นข่าว' มากขึ้น บิ๊กฉัตรได้มือดี เป็นทีมงานที่ 'ใกล้ชิดกับสื่อมวลชนมาก' ในแง่นี้จึงรู้ใจสื่อด้วยกันว่าต้องการอะไร นัยยะของการเปลี่ยนนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความพยายามในการแสวงหาความนิยมจากประชาชน ซึ่งหมายถึงความพยายามในการ 'อยู่ยาว-ตั้งพรรคในอนาคต'

'คุณปลื้ม Effect' ส่งสัญญาณการเมือง “ให้รีบมา-ระวังตกขบวน”

นายหัวชวน หลีกภัย ออกมา 'ปลุกผีทักษิณ' อีกครั้ง หลัง เดอะมาร์ค กระแทกไปยัง คสช. โดยตรง ความพยายามแบบนี้คือ สร้าง 'บาลานซ์' ให้พรรคประชาธิปัตย์ สื่อสารแบบนี้ เพื่อให้เหลือที่ 'ไว้กลับตัวได้ทัน' เมื่อ 'สถานการณ์เปลี่ยน' ในวันข้างหน้า

วันนี้ สถานการณ์ได้เริ่มเปลี่ยนไปมากกว่าที่คิด มาถึงจุดที่ พรรคทหาร สามารถใช้ทั้งอำนาจโดยตรง และโดยอ้อม บีบ ส.ส. รายจังหวัด เจ้าพ่อหัวเมือง ให้เข้ามาเป็น 'กองหนุนลุงตู่'

'คุณปลื้ม Effect' จะมีผลกระทบอีกยาวไกล เพราะเป็นการสื่อสารไปยัง ส.ส.รายจังหวัดอื่นๆ ที่ยัง 'ไม่ตัดสินใจ' ให้ 'ตัดสินใจใหม่' ในจำนวนนี้คือ 'กลุ่มเทพสุทิน' 'กลุ่มสะสมทรัพย์' 'กลุ่มพ่อมดดำ-สุชาติ ตันเจริญ' 'พรรคพลังท้องถิ่นไท ของ ชัช เตาปูน' เมื่อรวมกับ 'พรรคทหาร' 'พรรคประชาชนปฏิรูป-ไพบูลย์ นิติตะวัน' 'พรรค กปปส.' ก็จะเป็นกองหนุนลุงตู่ที่เป็นปึกแผ่น

ความเป็นปึกแผ่นนี้ จะบีบ 'พรรคประชาธิปัตย์-พรรคอนุทิน-พรรคลูกบรรหาร' ให้ 'ตัดสินใจให้ชัดเจน' ในที่สุดหรือไม่ อันนี้ยังเป็นคำถามอันน่าตื่นตาตื่นใจ

การเดินหน้ายุทธศาสตร์ 'บีบ-มัด-แบ่งสันปันเค้ก-ซื้อ ส.ส.รายจังหวัด' ของทหารในช่วงนี้คือ เหตุผลที่ พรรคเพื่อไทยต้องเร่งปฏิรูปพรรคโดยด่วน และ ต้องช่วยกัน ลุ้น-ปกป้องให้พรรคอนาคตใหม่-พรรคเกรียน ได้จัดตั้ง-อยู่รอดจนถึงวันเลือกตั้ง