ประชาชนต้องเลือก พรรคขั้วประชาธิปไตย ให้เกิน250เสียงเท่านั้น
จึงจะ ปิดประตูการยึดอำนาจรัฐประหารได้สิ้นเชิง
แม้จะยังไม่มีการยื่นเพื่อจดจัดตั้งพรรค คสช.
แต่ขณะนี้ก็ชัดเจนแล้วว่ามี “พรรค คสช.”
จะชื่อเสียงรียงใดไม่สำคัญ
จะยื่นจดจัดตั้งเมื่อไรไม่สำคัญ
นรม.บอกชัดว่า “เขากำลังปรึกษาหารือกันอยู่”
“แต่เขายังไม่มาเชิญผม” เชิญเมื่อไรไม่ใช่เรื่องสำคัญ
แม้นรม.บอกว่า”ผมต้องพิจารณาดูก่อนว่าจะเข้าร่วมหรือไม่”
แต่เป็นคนกันเองทั้งนั้น “ที่กำลังปรึกษาหารือกันอยู่” เช่น สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อุตตม สาวนายน สนธิลักษณ์ สนธิจิรวงศ์ ล้วนยืนยันว่า “กำลังปรึกษากันอยู่”
พร้อมๆไปกับการ “ดูด” สกลธี ภัทธิยกุลเป็นรองผู้ว่ากทม.
สนธยา คุณปลื้มเป็นที่ปรึกษานรม.ฝ่ายการเมือง
อิทธิพล คุณปลื้มเป็นผู้ช่วยรมต.การท่องเที่ยว
อีกทั้งคสช.ได้เดินสายตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว
ไปพบ พรรคบรรหาร ไปพบ พรรคสมศักดิ์สุโขทัย ไปพบพรรคอนุทิน ไปพบพรรคสุวัจน์โคราช แตะมือกับกลุ่มสุชาติตันเจริญ ยังมี “พรรคกปปส.ของสุเทพ เทือกสุบรรณ”อีกที่ยังมีฤทธิ์เดชอยู่
การทุ่มงบประมาณหลายแสนล้านลงสู่มวลชนภายใต้ธง “ไทยนิยมยั่งยืน”ครอบคลุม 85,000 ชุมชนทั่วประเทศรวมกทม.
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นการ “เคลื่อนพลขนาดใหญ่”กรีฑาทัพไปในทุกปริมณฑล ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศเพื่อสร้างปัจจัยให้บรรลุชัยชนะในการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลคสช.ภายหลังการเลือกตั้งให้ได้อย่างมั่นคง
ไม่ต้องไปถามพรรคปชป.เลยว่าจะเข้าร่วม พรรค คสช.หรือไม่
“เมื่อถึงวันนั้น” พล.อ.ประยุทธ์ ได้บอกไว้ชัดแล้วว่า “คอยดูว่าเขาจะพูดอย่างไร”
พรรคปชป.มีหรือจะไม่เข้าร่วมรัฐบาล(ขั้ว)คสช.?
โดยอ้างเหตุว่าประชาชนเรียกร้องและเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ตามวิสัยที่เขาถนัดในการใช้วาทะเลิศหรูเพื่อกลบเกลื่อน
“การฉวยโอกาสทางการเมือง”ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคนี้ถนัด
แลทำมาตลอดระยะเวลา72ของการตั้งพรรค
ดังนั้น การสัปประยุทธ์ในการเลือกตั้งครั้งนี้
จึงเป็นการสัปประยุทธ์ครั้งสำคัญที่สุดอีกครั้งหนึ่ง
ระหว่างสองขั้วการเมืองเท่านั้นคือ
ขั้วที่สนับสนุนคสช.สนับสนุนรัฐประหาร กับ
ขั้วต่อต้านคสช.ต่อต้านรัฐประหารต้องการประชาธิปไตย
ไม่มี “สามก๊ก”ทางการเมืองแต่อย่างไร
เมื่อสภาพการณ์ชัดเจนเช่นนี้แล้ว
เบื้องหน้าทุกพรรคการเมือง ย่อมมีพียงสองทางเลือกเท่านั้นคือ
ท่านจะเลือกขั้วคสช.ขั้วรัฐประหาร หรือ
ท่านจะเลือกขั้วต่อต้านคสช. ขั้วต่อต้านรัฐประหารต้องการประชาธิปไตย
ไม่ต้องมัว เชิดปี่ตีกลอง รำหน้าพาทย์อยู่เลยครับ
ไม่ต้องมัวอิดๆออดๆม้วนไปม้วนมาอยู่เลยครับ
ประกาศให้ชัดไปเลย
“สนับสนุนคสช.สนับสนุนรัฐประหาร”หรือ
“ต่อต้านรัฐประหารไม่เอาคสช.ต้องการประชาธิปไตย”
ไม่เพียงแต่พรรคการเมืองเท่านั้นที่ต้องแจ่มชัดตั้งแต่วินาทีนี้
ประชาชนทุกคนที่มีสิทธิเลือกตั้งก็ต้องตัดสินใจแล้วครับว่า
“ท่านจะสนับสนุนคสช.สนับสนุนรัฐประหาร”หรือ
“ท่านจะต่อต้านรัฐประหารสร้างประชาธิปไตยเพื่อปิดตายการรัฐประหารของประเทศ”
เพราะหากครั้งนี้
ประชาชนเลือกพรรคขั้วประชาธิปไตยต่อต้านคสช.เกินกว่า250เสียงขึ้นไป
พรรค คสช.ก็ยากที่จะเดินหน้าทางการเมือง
แม้จะมีพรรคสว.250เสียงหนุนอยู่ก็ตาม
อาวุธไม่ไว้วางใจทรงอานุภาพยิ่ง
ในการหยุดยั้งรัฐบาลต่อท่ออำนาจคสช.
และเปิดทางใหญ่ให้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงปัจจัยเผด็จการต่างๆให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงแข็งแรงสมบูรณ์ขึ้นได้
เป็นโอกาสอันงดงามที่ใช้เส้นทางสันติวิธีในการ
“ปิดประตูตายสำหรับการรัฐประหารต่อไปในอนาคต”
แต่หากผลออกมาตรงข้าม
พรรคขั้วคสช.ได้มากกว่า250เสียง
ประเทศไทยก็จะตกอยู่ภายใต้อำนาจของ
เผด็จการรัฐประหารไปอีกยาวนานอย่างน้อยก็20ปี
ท่านต้องเลือกแล้วครับ.
Weng Tojirakarn