“อัสลามูอาลัยกุม จากมะ(แม่)ฝากมาถึงลูก” คลิป แม่ของ "มีนา" ฝากอาหารถึงลูกสาวที่ถูกจับมาไว้ใน มทบ.11
16 ส.ค.59 เวลา 10.00 น. นางฉวีวรรณ แสงศรี มารดาของ “มีนา แสงศรี” แม่ค้าพริกแกงวัย 40 ปี มาขอเยี่ยมลูกสาวที่ มทบ.11 แต่ทหารไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม และเพียงแต่รับของฝากที่ครอบครัวนำมาเยี่ยมโดยรับปากว่าจะนำข้าวซอยกล่องดังกล่าวไปให้ น.ส.มีนา ซึ่งอยู่ระหว่างถูกควบคุมตัว
นางฉวีวรรณ กล่าวว่า “มีนา” เป็นกำลังหลักในการหารายได้ให้ครอบครัวเพราะเป็นทั้งคนทำและคนขายน้ำพริก รวมถึงดูแลพ่อแม่ซึ่งป่วยจากการประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้ครอบครัวกำลังมีปัญหาทางการเงินเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ยึดสมุดบัญชีธนาคารทั้ง 3 เล่มในระหว่างควบคุมตัว “มีนา” ทำให้ไม่สามารถเบิกเงินมาใช้ได้
สำหรับ “มีนา” มีลูกสาววัย 10 ขวบกับอดีตสามีชาวจังหวัดยะลา ซึ่งหย่าร้างกันตั้งแต่ลูกสาวคลอดได้ 8 เดือน
นางฉวีวรรณ กล่าวว่าเชื่อว่าลูกไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนการถูกจับอาจเป็นไปได้ 2 เรื่องคือ เคยไปขายอาหารในที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงและการที่อดีตสามีของนางสาวมีนาเป็นชาวยะลา
ชมคลิปเต็ม คลิ๊ก
https://www.facebook.com/FahroongSk/videos/633687983462952/
---
จากนี้เป็นคำบอกเล่าของนางฉวีวรรณ แสงศรี มารดาของ “มีนา แสงศรี”
แม่ป่วย หลังขับรถชนต้นไม้ประมาณ 1 ปีที่แล้ว “มีนา” เป็นคนดูแลพ่อแม่ เขามีอาชีพเป็นคนขายน้ำพริก ตอนนี้แม่ทำงานไม่ได้ มีนาต้องทำน้ำพริก ทำเองขายเอง
มีนา จะต้องไปเปิดร้านตอนตี 5 ทุกวัน แต่วันนั้น(13 ส.ค.) ยังไม่ทันเปิดร้านก็โดนจับที่ตลาด แล้วเอาตัวไปที่บ้าน ไปค้นบ้านค้นเยอะ ทั้งห้องพ่อห้องแม่ห้องใครต่อใคร แล้วไม่เจออะไร แล้วก็ให้เจ้าบ้านเซ็นว่าค้นแล้วไม่เจออะไร
แม่ถามว่าค้นไม่เจอแล้วจะเอาลูกสาวไปทำไม เขาบอกไม่มีอะไร มาคุยกันหน่อย เดี๋ยวจะให้กลับ แม่ก็บอกว่าลูกสาวฉันคนทำมาหากิน มีลูก ไม่มีผัว ทำงานเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ป่วย ยังไงขอนั่งรถทหารไปด้วย ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้กลับมาทำน้ำพริกมาขายน้ำพริก
ทหารไม่ให้ขึ้นรถไปด้วย เขาอนุญาตแค่ให้ขับรถตามมาแล้วก็มานี่(มทบ.11) ทั้งที่ได้เซ็นกันไปแล้วว่าไม่เจอสิ่งผิดกฎหมาย
เจ้าหน้าที่บอกว่า มาหาอาวุธปืน แต่ไม่บอกว่าคดีอะไร เขาบอกว่ามาหาสิ่งผิดกฎหมาย
“มีนา” มีลูกสาวอายุ 10 ขวบ ส่วนสามีของ มีนา เลิกกันตั้งแต่ลูกอายุ 8 เดือน ไม่ได้มีทะเบียนสมรสเพราะตามหลักอิสลามทะเบียนไม่สำคัญเท่าไหร่ แล้วตามหลักอิสลามเขาก็หย่ากันแล้ว อดีตสามีของมีนาก็กลับไปอยู่ภาคใต้ตั้งแต่ตอนนั้นถึงบัดนี้น่าจะ 10 ปี
อดีตสามีของมีนา เป็นคนใต้ จ.ยะลา อยู่ตาเซะ เขาพูดภาษายาวี เขาโทรมาหาลูกเขาก็พูดไทยไม่ค่อยได้ พูดกันไม่กี่คำ กินข้าวหรือยัง เขาพูดไทยไม่ค่อยได้ เขาไม่ได้ยุ่งการเมืองไม่ได้ชอบการเมือง อาชีพรับเหมาก่อสร้าง
เมื่อถามว่า มีนาได้ร่วมกิจกรรมกับกลุ่มการเมืองหรือไม่ แม่ของมีนาบอกว่า ฉันก็ไปด้วย เวลาเขาชุมนุม เขาสั่งของจากร้านน้ำพริกก็ไปส่ง สั่งที่ไหนก็ไปส่งที่นั่น ตอนน้ำท่วมก็สั่งเยอะ คนเสื้อแดงสั่งของเยอะ
ถามว่าร่วมชุมนุมกับ นปช. หรือไม่ แม่ของมีนาบอกว่า เราก็ไปทุกที่ เราขายของเราด้วย ชุมนุมกับสีเหลืองก็ไปขายของแต่เขาไม่ได้สั่ง บางทีก็ไม่ได้ลง แต่เสื้อแดงสั่งของเราเยอะ เราก็ไปส่ง วันนี้ก็เอาข้าวซอยมาฝากลูก ใครสั่งก็ทำก็ขาย อาชีพครอบครัวคือขายพริกแกง ทำขายตั้งแต่มีนา ยังเล็ก มีนาจบเศรษฐศาสตร์ ม.รามคำแหง น้องสาวมีนา ก็จบนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง แต่ก็ทำอุตสาหกรรมในครัวเรือน
ส่วนสาเหตุที่มีนาถูกควบคุมตัว แม่ของมีนาบอกว่า สงสัย 2 เรื่อง คือ เราไปขายของในเสื้อแดง กับเรื่องภาคใต้ เพราะทางโน้นทำอะไรบ้างเราไม่รู้ ส่วนสาเหตุอย่างอื่นไม่มี
ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่ติดต่อสอบถาม กระทั่งวันที่มีการตรวจค้น(13 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ถามว่าพ่อแม่ไปชุมนุมเสื้อแดงไหม ก็บอกว่าไป เขาสั่งของก็ไป
เจ้าหน้าที่เอาบัญชีธนาคารมาด้วยทั้ง 3 ฉบับ ประกอบด้วยของมีนา ของลูกสาวมีนา และการเงินในบ้าน เจ้าหน้าที่เอามาหมด เราไม่มีตังค์หมุนเวียน เจ้าหน้าที่ยึดบัญชี เราก็ดูไม่ได้
มีนาไม่มีโรคประจำตัวแต่ก็เป็นห่วงมีนา เขาเป็นคนกินยาก
ระหว่างพูดคุยกับคุณแม่ของมีนา ทหารหน้า มทบ.11 ได้แจ้งว่า ข้างในยังไม่ให้เยี่ยม ขอให้ครอบครัวมีนากลับไปก่อน ตอนนี้อยู่ในกระบวนการสอบสวน ถ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเดี๋ยวก็ได้กลับ เจ้าหน้าที่บอกกับแม่มีนาว่า มีนาสบายดี เมื่อควบคุมตัวครบ 7 วันน่าจะได้ปล่อยตัว
จากนั้น แม่มีนาฝากข้าวซอยให้ทหารไปให้มีนา พร้อมกล่าวคำ “อัสลามูอาลัยกุม จากมะ(แม่)ฝากมาถึงลูก”
แม่ของมีนา เล่าต่อว่า ตั้งแต่มีนาถูกจับ ก็นอนไม่หลับแทบไม่ได้นอน เป็นห่วงลูก ลูกหาเลี้ยงเรา แล้วถูกจับมาที่นี่ จะเอาน้ำพริกที่ไหนขาย เป็นทั้งคนทำคนขาย ถ้าทหารไม่ให้กลับก็อยากอยู่ยันมืด เผื่อเจอ รับลูกกลับเลย คอยรับลูกกลับ เพราะรู้ว่าลูกเราไม่มีอะไร
มีแค่ขายของให้เสื้อแดง กับอดีตสามีเป็นคนใต้ พูดไทยไม่ได้ จะโทรไปถามก็พูดกันไม่รู้เรื่องเขาพูดไทยไม่ได้
หวังว่าจะได้รับการปล่อยตัวก่อนครบ 7 วัน มาทุกวันก็หวังว่าจะมารับลูกกลับทุกวัน
หลานก็เรียกหาแม่ เราก็ต้องบอกว่าพรุ่งนี้ ตอบว่าพรุ่งนี้ทุกวัน ไม่อยากพูดให้หลานตกใจ
มีนาทำน้ำพริกไม่เหมือนใคร ทำ 3 อย่าง น้ำพริกเผาหวาน พริกเผาต้มยำ พริกเผาแห้ง ส่วนน้องสาวมีนาทำน้ำพริกนรก และลูกสะใภ้ทำพริกแกง ใครสั่งข้าวอะไรทำหมด พอมีนาถูกจับมาที่นี่ก็ขาดคน ตอนนี้ลูกสะใภ้อยู่ร้าน
แม่ของมีนา เล่าว่า ลูกสาวของมีนาบอกตา(พ่อของมีนา)ว่า อายมาก ให้ตาซื้อหน้ากากให้ เพราะอายที่ทหารตำรวจไปค้นบ้าน น่ากลัวมาก เรื่องดังไปหลายซอย ถูกค้นบ้าน ส่วนที่บ้านมีหอมกระเทียมน้ำมันเสื้อผ้า และปัญหาคือเขาเอาสมุดบัญชีทั้ง 3 เล่มมา เอาอัลบั้มรูปมาหมด
วันที่มีนาโดนเอาตัวมา(13 ส.ค.) เป็นวันที่มีนาจะพาลูกไปบางแสนไปว่ายน้ำช่วงวันแม่ ลูกยังบอกว่าน่าจะให้พ้นวันนั้นสักหน่อย อดไปเลย เราไม่อยากพูดให้หลานตกใจ พ่อก็ไม่มี ลูกแต่งตัวคอยที่บ้าน ถ้าวันนั้นมีนาไม่ถูกจับ มีนาต้องกลับมารับลูก 10 โมง พาไปเที่ยววันแม่
.....
คลิปเต็ม
นางฉวีวรรณ แสงศรี มารดาของ "มีนา แสงศรี" แม่ค้าพริกแกง มาขอเยี่ยมลูกสาวที่ มทบ.11 โดยทหารไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม แต่รับของฝากที่ครอบครัวนำมาเยี่ยมโดยรับปากว่าจะนำอาหารกล่องดังกล่าวไปให้ "มีนา"
"มีนา แสงศรี" แม่ค้าขายพริกแกงในตลาดย่านศรีนครินทร์ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
ถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบคุมตัวมาที่ มทบ.11 ตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.59
ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวคนเสื้อแดงและนักเคลื่อนไหวหลายจังหวัด หลังเกิดเหตุวางระเบิดและเพลิงไหม้ใน 7 จังหวัดภาคใต้ระหว่างวันที่ 11-12 ส.ค.59โดยยังไม่ทราบว่าเป็นฝีมือใคร แต่มีแนวการวิเคราะห์จากหลายฝ่ายถึงสาเหตุความเป็นไปได้หลายทาง รวมถึงแนววิเคราะห์โดยเฉพาะฝ่ายรัฐที่ระบุว่าเหตุความรุนแรงอาจเกิดจากผู้เสียผลประโยชน์หลังมีผลการลงประชามติ ซึ่งเป็นการเมืองภายในประเทศไม่ใช่ขบวนการระหว่างประเทศ
/////////////////////////
16 ส.ค.59 เวลา 10.00 น. นางฉวีวรรณ แสงศรี มารดาของ “มีนา แสงศรี” แม่ค้าพริกแกงวัย 40 ปี มาขอเยี่ยมลูกสาวที่ มทบ.11 แต่ทหารไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม และเพียงแต่รับของฝากที่ครอบครัวนำมาเยี่ยมโดยรับปากว่าจะนำข้าวซอยกล่องดังกล่าวไปให้ น.ส.มีนา ซึ่งอยู่ระหว่างถูกควบคุมตัว
นางฉวีวรรณ กล่าวว่า “มีนา” เป็นกำลังหลักในการหารายได้ให้ครอบครัวเพราะเป็นทั้งคนทำและคนขายน้ำพริก รวมถึงดูแลพ่อแม่ซึ่งป่วยจากการประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้ครอบครัวกำลังมีปัญหาทางการเงินเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ยึดสมุดบัญชีธนาคารทั้ง 3 เล่มในระหว่างควบคุมตัว “มีนา” ทำให้ไม่สามารถเบิกเงินมาใช้ได้
สำหรับ “มีนา” มีลูกสาววัย 10 ขวบกับอดีตสามีชาวจังหวัดยะลา ซึ่งหย่าร้างกันตั้งแต่ลูกสาวคลอดได้ 8 เดือน
นางฉวีวรรณ กล่าวว่าเชื่อว่าลูกไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนการถูกจับอาจเป็นไปได้ 2 เรื่องคือ เคยไปขายอาหารในที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงและการที่อดีตสามีของนางสาวมีนาเป็นชาวยะลา
//////
ขอบคุณคลิปจาก คุณฟ้ารุ่ง ศรีขาว
ooo
ญาติแม่ค้าพริกแกงขอความเป็นธรรม UN
by Anuthee Djthevaporn16 สิงหาคม 2559
Voice TV
ญาตินางสาวมีนา แม่ค้าขายพริกแกงที่ถูกควบคุมตัวในมณฑลทหารบกที่ 11เพราะถูกเชื่อมโยงเหตุระเบิดใต้ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยม มารดาของเธอ ยืนยันไม่เคยเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการเมือง นอกจากเข้าไปขายอาหารในที่ชุมนุมตามออเดอร์เท่านั้น
ญาติของนางสาวมีนา แสงศรี แม่ค้าพริกแกงวัย 40 ปี ที่ถูกควบคุมตัวไปสอบสวนในมณฑลทหารบกที่ 11 โดยไม่ทราบสาเหตุตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 13 สิงหาคม โดยไม่ได้รับสิทธิในการพบญาติและทนายความ ยังคงเดินทางไปขอเข้าเยี่ยมนางสาวมีนา และไม่ได้รับอนุญาตเหมือนทุกวันที่ผ่านมา
มารดาของเธอ ระบุว่านางสาวมีนา เป็นกำลังหลักในการหารายได้ให้ครอบครัวและดูแลพ่อแม่ ที่มีอาการป่วยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และขณะนี้ครอบครัวยังประสบปัญหาทางการเงิน เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ยึดสมุดบัญชีธนาคารทั้ง 3 เล่มไปพร้อมกับนางสาวมีนา นอกจากนี้ นางสาวมีนายังมีลูกสาวอายุ 10 ปีต้องดูแลด้วย
นางฉวีวรรณ ยืนยันลูกสาวไม่เคยทำความผิด และไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองใดๆ และเคยนำอาหารไปขายในที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ตามออเดอร์ที่ได้รับมาเท่านั้น
วันนี้ครอบครัวพร้อมทนายความ จึงยื่นหนังสือกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือ OHCHR ช่วยเจรจากับ คสช.และรัฐบาล ให้ความเป็นธรรมกับนางสาวมีนาตามกฎหมายปกติ
นอกจากนี้ นางสาวชัณญานุช สุขยินดี ภรรยาของนายสรศักดิ์ ดิษปรีชา ที่ถูกควบคุมตัวเช่นเดียวกับนางสาวมีนา ก็ร้องทุกข์กับแกนนำ นปช. โดยให้รายละเอียดว่า ทหารเข้าควบคุมตัวนายสรศักดิ์ ตั้งแต่เช้ามืดของวันที่ 13 สิงหาคม พร้อมรื้อค้นบ้าน และยึดสิ่งของไปจำนวนหนึ่ง โดยเขามีอาชีพรีไซเคิลของเก่าย่านสะพานสูง เคยร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดง และรู้จักกับนางสาวมีนา แสงศรี จากการพูดคุยกัน
— VoiceTV21 (@Voice_TV) August 16, 2016
ชมคลิปข่าวเต็มได้ที่
http://news.voicetv.co.th/thailand/401187.html