"..ผมเป็นคนอารมณ์ดีจะตาย ผมเป็นคนอารมณ์ดีนะจริงๆแล้ว ผมเป็นคนตลก ก็ไม่เห็นหรอเวลาผมตลกไปคุณก็ตลกผมตลอดล่ะ เวลาผมเสียงดังผมก็แกล้งก็ได้ ส่วนใหญ่ผมจะแกล้งนะเวลาหงุดหงิด แกล้งหงุดหงิด ไม่ได้หงุดหงิดจริง แต่อย่าทำบ่อยแล้วกัน อย่าแหย่บ่อย ขอบคุณทุกคนแล้วกัน ต้องการให้ทุกคนยิ้ม"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, 4 ก.พ.58
ที่มา http://news.voicetv.co.th/thailand/163116.html
...
Credit วิวาทะ V2
ooo
ดิเอนเตอร์เทนเนอร์ : ท่านผู้นำ “เป็นคนตลก”
Thu, 2015-02-05 17:12
ที่มา ประชาไท
รายงานย้อนรอยความเป็น “คนตลก” ของ พล.อ.ประยุทธ์ หลังออกมาเผยแกล้งหงุดหงิดเอนเตอร์เทนให้นักข่าวตลก นักข่าวอาวุโสชี้ถ้าเป็นในยุคก่อน จะถูกนักข่าวบอยคอตทันที เพราะสื่อตอนนั้นมีศักดิ์ศรี
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา Voice TV รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า แม่น้ำ 5 สาย (คสช.-ครม.-สนช.-สปช.-กมธ.ยกร่าง) ได้เป็นห่วงอารมณ์ของท่านนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า
"ผมเป็นคนอารมณ์ดีจะตาย ผมเป็นคนอารมณ์ดีนะจริงๆ แล้ว ผมเป็นคนตลก ก็ไม่เห็นเหรอเวลาผมตลกมา คุณก็ตลกผมตลอดอะ เวลาผมเสียงดังผมก็แกล้งก็ได้ ส่วนใหญ่ผมจะแกล้งนะเวลาหงุดหงิด แกล้งหงุดหงิด ไม่ได้หงุดหงิดจริง แต่อย่าทำบ่อยแล้วกัน อย่าแหย่บ่อย”
และตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า “ขอบคุณทุกคนแล้วกัน ต้องการให้ทุกคนยิ้ม"
ไอ้ห่า!
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีพฤติกรรมที่แสดงอารมณ์หงุดหงิดและเสียงดัง และหลอกล้อใส่ผู้สื่อข่าวอยู่เป็นประจำ เช่น การโยนเปลือกกล้วย การดึงหูและการขู่จะทุ่มด้วยเวที ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา มีการหลุดคำสบถว่า “ไอ้ห่า” พร้อมตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวต่อประเด็นการเชิญคนไปปรับทัศนคติเพิ่มด้วยอารมณ์และขู่ว่า
"คราวหลังพวกคุณก็ต้องโดนด้วย ถ้าถามมากๆ ล่ะก็ ถามไม่สร้างสรรค์ อยากถามว่ามันทำได้หรือไม่เล่าออกมาพูดขัดแย้งทัดทานอำนาจที่มีอยู่เต็มๆ ขนาดมีอำนาจอย่างนี้มันยังมาท้าทายแบบนี้ ถ้าไม่มีกฎอัยการศึกมันจะเกิดอะไรขึ้นทุกคนก็รู้ทั้งนั้นแหละ อยากให้เป็นเช่นนั้นหรือไม่ผมรู้ว่าพวกสื่ออยากให้เกิด ทุกๆ วันนี้จะได้ขายข่าวกันไง พวกท่านไม่เหนื่อยหรอก เขียนข่าวให้มันดีเขียนให้คนรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ไม่เช่นนั้นมันก็ตีกันอยู่อย่างนี้ ถามว่าสิ่งที่พวกเขาพูดวันนี้มันกดดันผมหรือไม่ ผมเป็นรัฐบาลผมมีอำนาจเต็มแล้วจะมาท้าทายอยู่แบบนี้ได้หรือไม่ ที่ปล่อยมาทุกวันนี้ก็เยอะไปแล้วนะแล้วยังจะทำต่อไปอีกหรือ” (อ่านรายละเอียด)
จะเลิกเป็นคนขี้โมโห 1วันผ่านไปโมโหสื่อ
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.57 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงสื่อบางฉบับด้วยว่า "ตอนนี้ไม่อ่านแล้วบางอันก็ขี้เกียจ อ่านแล้วโมโห ไม่อ่านดีกว่า" ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเพียง 1 วัน(2 ธ.ค.57) พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยืนยันว่าตัวเองต่อไปนี้จะเลิกเป็นคนขี้โมโห จะเป็นคนพูดจาเพราะๆ ไม่พูดจาเสียหาย กำลังคิดและกำลังทำอยู่
ผมค่อนข้างจะโมโหเร็ว
หรือเมื่อวันที่ 3 พ.ย.57 พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดถึงอารมณ์ของตัวเองที่โมโหเร็วด้วยว่า
"ผมพยายามคุยอย่างเต็มที่ พูดกับพวกเราอย่างใจเย็นที่สุดแล้วนะ เพราะว่าผมก็รู้อะนะว่าผมค่อนข้างจะโมโหเร็ว วันนี้ก็เย็นลงไปเยอะแล้ว เพราะผมมองประเทศชาติเป็นหลักนะ"
19 ก.ย.57 กล่าวถึงการควบคุมอารมณ์ของตัวเองและขอโทษผ่านรายการคืนความสุขฯ ด้วยว่า
“ผมต้องขอโทษบางครั้งพูดแรงไป ก็มีอารมณ์เหมือนกัน เพราะว่าท่านให้ร้ายกองทัพให้ร้ายอะไรต่าง ๆ มาโดยตลอด โดยที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ต้องขอโทษด้วย ผมเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องสุภาพเรียบร้อย”
เจอทหารพูดจาไม่เหมาะสมรายงานมาที่ผม
ทั้งนี้ในช่วงแรกๆ ที่ คสช. ยึดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวผ่านรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อวันที่ 8 ส.ค.57 ถึงพฤติกรรมการใช้อำนาจของทหารด้วยว่า
“บางคนบอกทหารพูดจาไม่เหมาะสม พูดจากระโชกโฮกฮาก กร่าง อะไร รายงานมาเลย ให้ถึงผมเลย จะลงโทษให้ทันที ผมย้ำไปหนักหนาแล้วว่าทำไม่ได้ ยิ่งมีอำนาจ ยิ่งต้องบังคับใช้กฎหมาย ยิ่งต้องอ่อนน้อมกับประชาชน"
โมโหปกครองกองทัพ
อย่างไรก็ตามเมื่อย้อนไปเมื่อครั้งเป็นผู้บัญชาการทหารบก เมื่อเดือน ส.ค.55 พล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงการใช้อารมณ์กับการปกครองกองทัพ ว่า
“ผมโมโหเป็นปกติผมอยู่แล้ว ไม่งั้นผมปกครองกองทัพผมไม่ได้หรอก ผมก็ต้องโมโหเป็นเหมือนกัน ไม่ใช่พระนี่หว่า”
นักข่าวอาวุโสเผยถ้าเป็นในยุคก่อน จะถูกนักข่าวบอยคอต
สำหรับพฤติกรรมของผู้นำประเทศต่างๆ กับสื่อนั้น เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา บีบีซีไทย - BBC Thai ได้สัมภาษณ์ สงวน คุ้มรุ่งโรจน์ นักข่าวอาวุโสที่เคยทำงานกับสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง และติดตามทำข่าวอดีตผู้นำของหลายประเทศในอาเซียน กล่าวถึงพฤติกรรม ของ พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าเป็นในยุคก่อน จะถูกนักข่าวบอยคอตทันที
“ไม่ทำข่าว ต่อให้กองโฆษกเชิญก็ไม่ไป เพราะสื่อตอนนั้นมีศักดิ์ศรี” สงวน กล่าว
สงวน ยังมองพฤติกรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ตนไม่เคยเจอผู้นำที่ไม่รู้จักมารยาทสากลมากเท่านี้ “ที่ผ่านมาในอาเซียนมีแต่ ลี กวนยู อดีตผู้นำสิงคโปร์ และ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส อดีตผู้นำฟิลิปปินส์ ที่เคยกริ้วใส่นักข่าว แต่ไม่ถึงขนาดนี้”