...ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ไม่มีทางปรองดองเรื่องอดีต แต่กลไกต่างๆ ที่ คสช.ตั้งหรือ คสช.ปล่อยให้มีอำนาจ ทั้งสนช. สปช. กมธ. ป.ป.ช.กกต. ฯลฯ ยิ่งตอกลิ่มความขัดแย้ง...คสช.ทำตาปริบๆ อ้างว่าไม่เกี่ยวไม่ข้อง แต่ผลก็ย้อนไปสู่ท่านอยู่ดี

ไม่ปรองดองยังตอกลิ่ม

โพลชาวบ้านยังรู้ว่าไม่มีทางปรองดองได้มีแต่อรหันต์เพ้อเจ้อร่างรัฐธรรมนูญตั้งคนกลาง ประเทศนี้ยังมีคนกลางเหลืออยู่เรอะ แล้วถ้าอยากปรองดองจริงทำไมต้องรอรัฐธรรมนูญ ทำไมไม่ทำตั้งแต่วันนี้ ขณะที่รัฐธรรมนูญยิ่งจะสร้างความแตกแยก

9 เดือนผ่านไป คสช.ต่างหากที่กลายเป็นคู่ขัดแย้งชาวบ้าน ไม่ใช่เฉพาะเสื้อแดง แต่กว้างกว่า รวมประชาชนที่เดือดร้อนไปทั่ว ยกตัวอย่างชาวบ้านที่ต่อต้านเหมืองโปแตช ไม่ใช่เสื้อแดงนะครับ ขวัญชัย ไพรพนา ต่างหากเชียร์เหมือง (ถ้าจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ไปดูเหมืองโปแตช ขวัญชัยจะคุ้มกันให้ อิอิ)

ปรองดองอะไรในเมื่อ สนช.ปปช.กกต. อำนาจทั้งหลายที่ คสช.ตั้งหรือ คสช.ปล่อยให้ใช้อำนาจ ยังตามไล่ล่ากันแบบย้อนแย้ง (เช่น ปปช.ให้คลังฟ้องแพ่งยิ่งลักษณ์ 6 แสนล้านจากนโยบายจำนำข้าว ทั้งที่ปู่สมหมายเพิ่งแก้ผ้าเอาหน้ารอด อัด 7 หมื่นล้านเข้ากองทุนหมู่บ้านตามนโยบายทักษิณ) คนฝ่ายหนึ่งถูกไล่ล่า แต่อีกฝ่ายเกรงอกเกรงใจกันถึงขนาดตั้งเวทีให้ถกเถียงในทำเนียบ อย่างนี้มันตอกลิ่มซะมากกว่า

Atukkit Sawangsuk

ไม่ปรองดองยังตอกลิ่มทายท้าวิชามาร

ที่มา ข่าวหุ้นออนไลน์

2015-02-23

ประชาชน 86% ในดุสิตโพลเชื่อ “ปรองดอง” เกิดยากเพราะต่างฝ่ายต่างมีทิฐิ เลือกข้าง ไม่รับฟังความเห็นของกันและกัน 81% บอกว่าคนเห็นแก่ตัว แก่งแย่งผลประโยชน์ 77% บอกว่าเพราะความเหลื่อมล้ำรวยจน 75% บอกว่าเพราะข้อมูลข่าวสารบิดเบือนให้ร้าย 65% บอกว่าเพราะความยุติธรรมสองมาตรฐาน

ไม่ว่าข้อไหน ชาวบ้านธรรมดายังเข้าใจปัญหามากกว่ากรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่จะตั้งกรรมการ 15 คนมาปรองดอง คำถามแรก คุณคิดว่ายังมีเทวดาที่ไหนเป็นกลาง คำถามสอง ทำไมต้องรอรัฐธรรมนูญใหม่ ทำไมไม่ปรองดองตั้งแต่วันนี้ คำถามสาม ถ้าจะร่างรัฐธรรมนูญล็อกอำนาจจากเลือกตั้งไม่ให้เป็นไปตามความต้องการประชาชน แล้วยังจะปรองดองไปทำไม ในเมื่อวางระเบิดให้ขัดแย้งอยู่ดี

ยังมีคำถามสี่ ห้า หก เจ็ด ฯลฯ แต่สำคัญสุดคือการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จในวันนี้เอื้อปรองดองไหม เอาละ คสช.ใช้รัฐประหารหยุดความแตกแยก สังคมพึงพอใจชั่วคราว แต่ 9 เดือนผ่านไป ความขัดแย้งที่สั่งสมไว้มากมายไม่สามารถกดด้วยอำนาจ ด้วยการปิดปากงดแสดงความเห็น ทุกคนเป็นเด็กนักเรียนที่พูดได้เมื่อครูทหารชี้ให้ยืนเท่านั้น

เพราะเอาเข้าจริงมันก็มีเด็กดื้อ เด็กประจบ เด็กฉวยโอกาส คณะครูผู้มีอำนาจก็ไม่ใช่อรหันต์มาจากไหน สุดท้ายก็กลายเป็นข้างหนึ่งถูกไล่ล่า ถูกกด แต่อีกข้างเหิมเกริมได้ใจ รัฐบาลอ่อนข้อให้ตั้งเวทีค้านสัมปทานปิโตรเลียม โดยไม่ได้ข้อสรุป ไม่รู้ค้างคาถึงเมื่อไหร่ ล่าสุดยังขัดแย้งบานปลายถึงวงการสงฆ์ ซึ่งเอาละ มหาเถรสมาคมสมควรถูกวิจารณ์ แต่หัวหน้าม็อบกรวยห่มผ้าเหลืองนำฝูงชนไปถวายรองเท้าแตะ สากกะเบือ กางเกงใน ดอกไม้จันทน์ นี่มันพระหรือเจ้าพ่อมาจากไหน

9 เดือนผ่านไปคสช.กลายเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชนที่ต้องการเสรีภาพ ไม่ใช่แค่เสื้อแดง ดูอย่างกลุ่มเสรีชนไทยแลนด์ที่ชูเสื้อรูปนกถูกมัดปากและขา ก็เคยไปให้กำลังใจศาลรัฐธรรมนูญแกนนำกะเหรี่ยงภาคเหนือที่ถูกคุมตัว แกนนำชาวบ้านที่คัดค้านเรื่องไล่คนออกจากป่า เรื่องเหมืองทอง เหมืองโปแตชล้วนไม่ใช่แดงทั้งสิ้น (ตลกร้าย ขวัญชัย ไพรพนา สิเชียร์เหมืองโปแตช)

ขณะที่พูดเรื่องปรองดอง ขณะที่นิด้าโพลยังเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปเจรจา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่พม่า อัยการสูงสุดกับ ป.ป.ช.ก็ฟ้องยิ่งลักษณ์ขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเอาละ คสช.บอกว่าเกิดก่อน 22 พ.ค.57 แต่อัยการสูงสุดก็ท่านเป็นคนตั้ง แล้วยังสั่งฟ้องวันเดียวกับ สนช.ถอดถอน

นี่สนช.ยังจะเอาผิด 38 ส.ว.ฐานแก้รัฐธรรมนูญให้ ส.ว.มาจากเลือกตั้ง ทั้งที่ สนช.เป็นสภาแต่งตั้งโดยรัฐประหาร กลับตั้งตัวเป็นศาลศักดิ์สิทธิ์ การถอดถอนตัดสิทธิไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมนะครับอย่าเถียงให้ยาก

ตลกร้ายคือป.ป.ช.ไล่บี้คลังเรียกค่าเสียหายยิ่งลักษณ์จากนโยบายจำนำข้าว 6 แสนล้าน แต่ปู่สมหมาย ภาษี กำลังจะแก้ผ้าเอาหน้ารอดอัดฉีดเงินกองทุนหมู่บ้าน มรดกประชานิยมไทยรักไทย ย้อนแย้งไหม

ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ไม่มีทางปรองดองเรื่องอดีต แต่กลไกต่างๆ ที่ คสช.ตั้งหรือ คสช.ปล่อยให้มีอำนาจ ทั้งสนช. สปช. กมธ. ป.ป.ช.กกต. ฯลฯ ยิ่งตอกลิ่มความขัดแย้ง ขณะที่ คสช.ทำตาปริบๆ อ้างว่าไม่เกี่ยวไม่ข้อง แต่ผลก็ย้อนไปสู่ท่านอยู่ดี

การเมืองอย่างนี้ไม่แปลกใจเลยที่แบงก์ชาติบอกว่าเงินล้นระบบ 9 แสนล้านบาทแต่ไม่มีใครกู้ไปลงทุน