"ประยุทธ์" สั่งเองอารักขา ดูแล "ยิ่งลักษณ์" หวั่นเกิดอันตราย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1423749677
https://www.youtube.com/watch?v=BplmRnNPmmI
ooo
ประยุทธ์ เมินไม่ตอบโต้ สหรัฐฯ ลั่นหลังเลือกตั้งเสร็จขอวางมือ บอกเบื่อและเหนื่อย เสนอไอเดีย เชิญคู่ขัดแย้งลงสัตยาบันสงบศึก แต่ไม่ขอทำเอง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า การลงทุนต่างๆ ในประเทศไทยสิ่งสำคัญต่างชาติเชื่อมั่นประเทศไทยแค่ไหนและอยู่ที่ว่าบ้านเมืองเรามีเสถียรภาพหรือไม่ ถ้าบ้านเมืองไม่มีเสถียรภาพ รัฐบาลยังทะเลาะเบาะแว้งอยู่ เขาก็ไม่มาลงทุนด้วย อย่างตนไปประเทศญี่ปุ่นและทุกๆ ประเทศมานั้น ก็มีการซักถามและชื่นชมว่าประเทศไทยมีเสถียรภาพดี ขอให้กลับสู่ประชาธิปไตย "ซึ่งผมก็บอกว่า ผมก็ไปอยู่แล้ว อย่างไรผมก็ไป วันนี้ที่บริหารงานอยู่ก็อธิบายให้เขาเข้าใจว่าผมบริหารด้วยประชาธิปไตย โดยองค์กรต่างๆ ได้เข้ามาทำงานร่วมกันทั้งหมด ไม่เช่นนั้น ผมคงไม่ต้องมีบีโอไอ สั่งแต่ คสช.อย่างเดียวไม่ดีกว่าหรือ ซึ่งปัจจุบันต่างชาติมีความเข้าใจ ส่วนจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ เดี๋ยวก็ไปเลือกเข้ามา ถ้าเลือกได้ก็เลือก เลือกไม่ได้ท่านไปว่ากันมา ผมไม่รู้แล้ว"
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการชี้แจงไปยังสหรัฐอเมริกาหรือไม่ หลังจากที่สหรัฐฯ แสดงความกังวลต่อบทสัมภาษณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ ต่อสื่อญี่ปุ่นว่า อาจจะมีการใช้กำลังทหารเข้ามาแก้ปัญหาการเมืองในอนาคตอีก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ชี้แจงหมดทุกอย่าง ชี้แจงไปหมดแล้ว ไม่ต้องกังวล ส่วนที่สหรัฐฯ ไม่เข้าใจก็เป็นเรื่องของเขา เมื่อไม่เข้าใจก็เป็นเรื่องของท่าน ผมไม่ไปทะเลาะกับท่านอยู่แล้ว ที่ผ่านมาผมก็อธิบายจนไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรแล้ว โรดแมปก็คือโรดแมป ผมวางไว้ว่าปี 58 แล้วขณะนี้ผมผิดจากปี 58 ตรงไหน เพราะนี้ยังไม่จบปี 58 เลย แล้วมาเร่งรัดตอนนี้มันคงไม่ใช่ วันนี้เรากำลังเดินไปสู่จุดตรงนั้น สิ่งที่ผมบอกและอธิบายคือมันไม่ได้อยู่ที่ผมหรือ คสช.หรือรัฐบาลวันนี้ แต่มันอยู่ที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศและต่างประเทศก็ต้องเข้าใจ ให้โอกาสประเทศไทยเดินหน้าประเทศให้มีอนาคตอย่างยั่งยืน และติดต่อการค้ากันโดยสงบมีเสถียรภาพ ไม่มีความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งการเมืองถือว่าสำคัญที่สุด ผมก็กังวลว่าระหว่างที่เราเดินหน้าในเรื่องรัฐธรรมนูญอยู่นั้น ถ้ารัฐธรรมนูญไม่ออกมาแล้วจะเป็นอย่างไร ผมไปบังคับเขาไม่ได้ เพราะมอบหมายให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเป็นคนทำ ซึ่งได้คัดเลือกมาจากหลายส่วน มีทุกกลุ่ม วันนี้ก็ขอให้เขียนออกมา ผมมีหน้าที่อย่างเดียว ขอให้ออกมาให้ทัน ไม่ทะลาะเบาะแว้ง ถ้ารัฐธรรมนูญออกมาได้แล้วมีการโปรดเกล้าฯ มันจะมีอะไร วันนี้ขอให้ตกลงกันให้ได้ ข้อสำคัญคนที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งต้องออกมาแสดงความคิดเห็นตรงนั้น แล้วเอาตัวตนออกมาว่าเราจะเดินหน้าประเทศอีกสัก 4 ปีได้หรือไม่แล้วรัฐบาลหน้าจะอยู่อย่างไร มันต้องยอมรับในความเห็นต่างกันและเดินหน้าประเทศไปสัก 4 ปี ผมไม่เกี่ยวแล้ว เพราะเป็นการเลือกตั้ง"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้ารัฐธรรมนูญออกมาได้ ก็เดินหน้าระหว่างนั้นก็ทำกฎหมายลูก ซึ่งตนได้บอกว่าให้ร่างกฎหมายลูกที่จำเป็นบางเรื่องจะได้มีความรวดเร็ว ถ้ากฎหมายลูกเสร็จภายในสิ้นปี ทุกอย่างก็จบ แล้วก็เตรียมการเลือกตั้ง การเลือกตั้งก็จะออกมาที่ประมาณต้นปี 2559 ซึ่งตนก็อยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว เพราะได้วางพื้นฐานอะไรไว้มากมาย แต่ทุกคนต้องช่วยกันว่าสิ่งที่รัฐบาลทำมานั้น มันมีประโยชน์เพราะถ้าปล่อยให้มีความขัดแย้ง ปัญหาก็จะไม่จบ หากต้องการให้ทุกอย่างสมบูรณ์ก็อยู่ที่ประชาชนจะเลือกตั้งใครเข้ามาทำหน้าที่แทนตน ก็ต้องขอร้องว่าทุกคนอย่าขัดแย้งกันอีก เดินหน้าประเทศต่อไปให้ได้ โดยเฉพาะการเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นกับต่างประเทศ การลงทุน นอกจากนี้จะต้องเร่งทำทุกอย่างให้เกิดความสุจริตโปร่งใส ซึ่งเมื่อตนอธิบายทุกประเทศก็เข้าใจ ให้เวลากับเราแล้ววันนี้เราจะมานั่งเร่งรัดกันเองทำไม ตนไม่เข้าใจการเมืองคือการเมืองก็ต้องไปแก้กันให้ได้ ปัญหาความขัดแย้งเป็นเรื่องของคู่ขัดแย้ง ตนไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ตนมีหน้าที่รักษากฎหมายและกติกาของประเทศ ดังนั้น ตนไม่สามารถไปไล่ล่าใครข้างใดข้างหนึ่งได้ สื่อก็ต้องช่วย เรื่องบางเรื่องอย่าไปประโคมข่าวมากนัก มันเป็นเรื่องธรรมดา
"สิ่งที่ผมกังวลขณะนี้คือ หากเกิดเหตุความไม่สงบหรือเกิดอันตรายกับใครขึ้นมาสักข้างหนึ่ง ใครจะมารับผิดชอบ ก็จะกลับมาที่รัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นพวกไหนก็ตามก็ต้องดูแล อาจจะมากบ้างน้อยบ้างก็ขออย่าเอาเรื่องความขัดแย้งมาปนกันตรงนี้ ยืนยันว่าให้ความเป็นธรรมกับทุกคน" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กับสื่อญี่ปุ่นว่า หากบ้านเมืองเกิดความไม่เรียบร้อย ทหารจะกลับมาอีก หมายความว่าอย่างไร พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นการอธิบายว่าสิ่งที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้เราพร้อมเดินหน้าประเทศในทุกเรื่อง แต่ทุกอย่างอยู่ที่กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญว่าร่างได้หรือไม่ คนที่เกี่ยวข้องที่จะไปเลือกตั้งการเมืองพรรคฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลยอมรับกติกาตัวนี้หรือไม่ก็ต้องไปว่ากันมา ไม่ใช่เรื่องของตนแล้ว ถ้าเผื่อไม่ยอมรับก็ต้องไปต่อต้าน ตนก็ต้องทำให้สงบและเดินหน้าให้ได้ เพราะตนมีหน้าที่รับผิดชอบความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจะปล่อยให้เกิดขึ้นไม่ได้ ส่วนรัฐธรรมนูญจะมีการร่างหรือแก้ไขกี่ฉบับตนก็ไม่รู้แล้ว "ส่วนที่ผมพูดว่าหากบ้านเมืองไม่สงบทหารก็จะกลับเข้ามานั้นก็เป็นเพราะว่าจะมีใครรับประกันกับผมได้หรือไม่ว่าจะเชิญคนเหล่านี้ที่เป็นคู่ขัดแย้งมาเซ็นสัญญาสงบศึกกันได้ไหมว่าจะไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นอีกก่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ส่วนรัฐธรรมนูญก็คงจะไม่มีใครเห็นด้วยทั้งหมดก็เป็นเรื่องธรรมดาจากนั้นก็จัดการเลือกตั้งให้จบด้วยหลักธรรมาภิบาลและรับกันว่าจะปฏิรูปอย่างไรไปทำสัญญากันมาว่าจะไม่มีการประท้วงและมีความรุนแรงเกิดขึ้นมาอีกการประท้วงประชาธิปไตยห้ามกันไม่ได้อยู่แล้วประชาชนทำได้ตามสิทธิถ้าไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงเพราะวันนี้เรายังมีกฎอัยการศึกอยู่ไม่เช่นนั้นตนคงแก้อะไรไม่ได้ แต่วันนี้ก็มัวมาสาละวนกับเรื่องคุณยิ่งลักษณ์"พลเอกประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่นายกฯ จะเป็นคนเชิญคู่ขัดแย้งมาลงสัตยาบันร่วมกันพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้ ตนเพียงพูดให้ฟังไม่ใช่ปล่อยให้เดินห่างไปเรื่อย แล้วมาซัด คสช.ฝ่ายเดียว เราต้องให้คู่ขัดแย้งมารวมกันให้ได้ ซึ่งต่างประเทศเองเขาก็ถาม ซึ่งตนก็ชี้แจงไปว่า ปัญหาของประเทศไทยเป็นอย่างไร มีการปฏิวัติ รัฐประหารมาสิบกว่าครั้งแล้วไม่ใช่หรือ ถ้าไม่มีปัญหา ใครจะมาทำ ตนอยากจะรู้นัก มันเสี่ยงนะ
เมื่อถามย้ำว่า เป็นไปได้หรือว่าถ้าร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วจะให้ทุกฝ่ายมาลงสัตยาบันต่อหน้านายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ไม่ใช่เรื่องของผม เป็นเรื่องของสภาปฏิรูปให้คณะกรรมาธิการฯ ไปทำมา ยังมีอีกหลายขั้นตอน สื่อก็อยากแต่ให้ผมใช้อำนาจ แต่พอใช้ก็กล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน จะเอาอะไรก็เอาให้แน่สักอย่าง อย่ามาไล่ผมแบบนี้ สื่อก็ต้องช่วยกันสร้างสภาวะแวดล้อมให้เกิดบรรยากาศความร่วมมือ ไม่ใช่มาโยนให้ผมใช้อำนาจ เดี๋ยวก็มาว่ากันอีกว่าไม่เป็นประชาธิปไตย วันนี้อำนาจที่มีอยู่ก็เพื่อให้เกิดความสงบ ถ้าทุกอย่างมีความสงบเรียบร้อยไม่มีการคัดค้าน ไม่มีระเบิด อาวุธสงคราม ใครจะอยากใช้อำนาจ วันนี้ใครไม่มีเรื่องก็จะไปกลัวโดนอะไร จะไปกลัวอะไรกันหนักหนา ผมควรจะกลัวมากกว่า เพราะเป็นคนใช้อำนาจ"
เมื่อถามย้ำว่า อนาคตหากรัฐบาลบริหารประเทศไม่ได้ มีความขัดแย้ง ทหารจะกลับเข้ามาอีกใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ก็ช่วยกันสิ อย่าให้มันมี อย่ามาถามผมวันข้างหน้าผมไม่รู้ เพราะผมส่งให้ท่านแล้วไง ท่านบอกให้ผมเดินตามโรดแมปให้มีการเลือก ผมก็ส่งไม้ต่อให้มีการเลือกตั้ง ถ้าขัดแย้งกันอีก ก็เป็นสิ่งที่พวกท่านทำให้เกิดขึ้นมาเองทั้งหมด ผมไม่รู้แล้ว ผมหยุดเพื่อที่ผ่านมาให้เกิดความสงบ ผมทำแล้ว แต่ถ้ายังเกิดความไม่สงบจะกลับมาโทษผมอีกมันไม่ถูก วันนี้ทุกคนอยากเลือกตั้งก็ต้องไปหาทางเลือกกันให้ได้ หน้าที่ของผมคือจัดการเลือกตั้งให้ได้ แต่พอเลือกตั้งเสร็จแล้วตีกันอีก รัฐบาลก็แก้ปัญหากันมา แก้ให้ได้ก็แล้วกัน ถ้าเลือกตั้งแล้วตีกันอีก ผมก็ไม่รู้แล้ว ผมไม่เอาแล้ว เบื่อ เหนื่อย ผมจะไปพักผ่อนแล้ว วันนี้ทุกคนก็น่าจะได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าบอกว่ายังไม่รู้ก็อยู่อย่างนี้กันต่อไป อยู่บนความขัดแย้ง แต่ผมไม่อยู่ด้วยแล้ว คุณจะขัดแย้ง ทะเลาะกันต่อไป ผมไม่เอาด้วยแล้ว พอสักทีเถอะ"
เมื่อถามว่ามีแผนรองรับไว้แล้วยังว่า หากรัฐธรรมนูญออกมาแล้วยังเกิดความเห็นต่างอยู่ โดยเฉพาะจากฝ่ายการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หากยอมรับไม่ได้ก็ต้องไปหาเหตุหาผล หาช่องทางมาว่าจะแก้กันอย่างไร ตนไม่รู้
...
แล้วพอลงจากอำนาจ บิ๊กบัง แกก็ดูมีความสุข จนไม่ทราบว่า แล้วแกจะรัฐประหารทำไม ทั้งที่ทำมาแล้ว ก็มีแต่คนด่า สาบ แช่ง
หรือว่า บิ๊กบัง แกไม่อยากทำ แต่ที่ทำเพราะมี
ใบสั่ง
บิ๊กตู่เองก็คล้ายกัน นับวันแกก็พูดคล้ายบิ๊กบังไปทุกที่
ว่าผม เหนื่อย ล้า เครียด หุดหิด
อยากถอดหัวโขนจะแย่อยู่แล้ว
มีคนถามว่า
แล้วใครเอาหัวโขนไปสวมบิ๊กตู่นะ
คำถามนี้ บิ๊กบังเคยตอบไปแล้ว
ถึงตาย ก็ตอบไม่ได้
Kulwit