แดดร้อนแผดเผา สาวชาวบ้านห่วงผิวจะกร้านคล้ำ ก็เข้าใจ
แต่หนุ่มใหญ่ลายพรางใส่ทั้งหมวก ปิดทั้งหน้า นี่สิน่าจะไม่ธรรมดา
อันเนื่องมาแต่กรณีชาวบ้านนามูล-ดูนสาด ขอนแก่น ออกไปยืน
นั่ง สวดมนต์ กราบกราน ค้านการขนเครื่องจักรขุดเจาะก๊าซปิโตรเลี่ยมของบริษัทอพิโก้
(โคราช) เข้าสู่พื้นที่ เป็นเวลาหลายวัน โดยทางการอำเภอกระนวนสนธิกำลังกว่า ๒๐๐ คน
ฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง (อส.) และกลุ่มคนชุดพรางใส่หมวกปีกกว้างมีผ้าคลุมหน้า ไปคอยอำนวยความสะดวกแก่บริษัทขุดเจาะ
และสกัดกั้นชาวบ้าน
ผลล่าสุดเมื่อวาน พาดหัวหนังสือพิมพ์ใหญ่ ‘ต้านไม่ไหว’
“แม้ชาวบ้านจะรวมตัวคัดค้านกันอย่างหนาแน่น
แต่การขนย้ายอุปกรณ์ก็เป็นไปตามที่ทางกรมเชื้อเพลิงฯ วางไว้
ซึ่งทางบริษัทได้ลงมือต่ออุปกรณ์เจาะเรียบร้อยแล้ว”
หากแต่ “การต่อสู้ของชาวบ้านกลุ่มเล็กๆในชนบทห่างไกล
คือสายธารเดียวกันกับการต่อสู้เพื่อสิทธิ เสรีภาพ และประชาธิปไตย ของปัญญาชนในเมืองหลวง
ภาพที่ชาวบ้านยืนกันสามคน ‘ปิดหู ปิดตา ปิดปาก’ ห้อยป้าย ‘อยู่เฉยๆก็โดน’
แสดงให้เห็นชัดในข้อนี้”
จึงควรทบทวนที่มา มองหาที่ไป ไม่ให้ ‘เจ็บเนื้อ’ ไม่ต้อง ‘หยิกเล็บ’ ซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นวงจรไม่อุเบกขา อย่าให้ถึงขั้นอุบาทว์ ของการ ‘หยามเหยียดชาวบ้าน
ก่อกวนปิดกรุง และยึดอำนาจตัดสิทธิ’
ตามรายงานนาฑีต่อนาฑีของ ‘นักข่าวพลเมือง’
เรื่อง “บทบาทของชุมชนกับการปกป้องสิทธิของตนเอง
ขณะเดียวกันก็มีคำถามมากมายเกี่ยวกับบทบาทของเจ้าหน้าที่รัฐ กับท่าทีต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”
เขาลำดับเหตุการณ์นับแต่ ๑๑ ก.พ. ๕๘
“ทางราชการได้อนุญาตให้ บริษัท อพิโก้ (โคราช) จำกัด ทำการขนย้ายอุปกรณ์สำหรับขุดเจาะปิโตรเลียม
เข้าในพื้นที่แปลงสำรวจ L27/43 หลุมดงมูล-บี (ดงมูล-5) ตั้งแต่วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์
๒๕๕๘ เป็นต้นไป...ในขณะที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้มีหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ให้มีคำสั่งชะลอการดำเนินโครงการทั้งหมดในพื้นที่ไว้ก่อน...แต่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราช
อาณาจักร จ.ขอนแก่น ยังคงให้ทุกฝ่ายเดินหน้า รอง ผอ.รมน. จ.ขอนแก่น ถึงกับกล่าวในที่ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครั้งล่าสุดว่า
ถ้าชาวบ้านพูดไม่ฟังจะต้องใช้กฎอัยการศึก”
๑๒ ก.พ. ๕๘ “เวลาประมาณ ๑๒.๓๐
น.
รถกระบะบรรทุกทหารนอกเครื่องแบบเข้าตระเวนรอบหมู่บ้าน ถ่ายรูปชาวบ้าน และมีคำขู่เรื่องการใช้กำลังบังคับไม่ให้ชาวบ้านขัดขวางการขนย้ายอุปกรณ์ขุดเจาะปิโตรเลียม”
๑๓ ก.พ. ๕๘ “ชาวบ้านได้มีการทวงถามถึงหนังสือคัดค้านที่ได้ส่งไปในตอนกลางวัน
ว่ามีการตอบรับมาหรือไม่ พี่น้องหลายคนทวงถามถึงกระบวนเข้ามาที่ผิดปกติในครั้งนี้ เพราะไม่มีการบอกหรือแจ้งชาวบ้านในพื้นที่
ทั้งที่ใน EIA ได้ระบุไว้ว่า หากมีการขนย้ายอุปกรณ์ต้องแจ้งประชาชนในพื้นที่ก่อนอย่างน้อย
15 วัน”
๑๔ ก.พ. ๕๘ “เวลาประมาณ ๑๓.๓๐
น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร พร้อมกับ ‘กลุ่มคนที่แต่งกายอำพรางใบหน้า’ จากบริเวณด้านหน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลดูนสาด
มายังบริเวณสี่แยกซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านรวมตัวทำกิจกรรม กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติบ้านนามูล-ดูนสาด
เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่มุ่งหน้ามาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับบริษัท ก็พร้อมใจกันนั่งสวดมนต์
แผ่เมตตา กลางถนน”
๑๖ ก.พ. ๕๘ “เวลาประมาณ ๗.๓๐
น.
กลุ่มคนใช้คลุมผ้าผิดบังใบหน้า ประมาณ ๓๐ คน เดินมุ่งหน้ามายังสี่แยกจุดที่ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติบ้าน
นามูล-ดูนสาด รวมตัวกัน ทำให้ชาวบ้านกังวลถึงความปลอดภัย จึงยังไม่กล้านั่งสวดมนต์ที่ถนน...เมื่อรถขนอุปกรณ์เคลื่อนเข้ามา
‘กลุ่มคนใช้คลุมผ้าปิดบังใบหน้า’ ตำรวจ กองกำลังควบคุมฝูงชน
และกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ได้คล้องแขนเข้ามายืนเรียงแถวเต็มทั้งสองข้างถนนประมาณเกือบ
๒๐๐ คน กั้นชาวบ้านให้ออกจากถนน
เพื่อให้ขบวนรถขนอุปกรณ์เครื่องจักรขุดเจาะผ่านเข้าไปอย่างสะดวก”
“เวลาประมาณ ๑๔.๕๕
น. ‘กองกำลังปิดคลุมใบหน้า’ ตำรวจ ทหาร
กองอาสารักษาดินแดน (อส.) พร้อมเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. คุ้มครองขบวนรถขนอุปกรณ์กลับไปขนอุปกรณ์เพื่อนำเข้ามาในพื้นที่อีกครั้ง”
17 ก.พ. ๕๘ เช้าวันนี้
‘อีแม่ธรณีเอ้ย..เพิ่นสิเอาสารพิษมาทิ่มใส่อีแม่แล้วเด้อ อย่ายอมมันเด้อ’
ชาวบ้านหนึ่งในผู้คัดค้านการเข้ามาขุดเจาะก๊าซธรรมชาติบริษัทอพิโก้ ร้องขึ้นท่ามกลางเสียงร่ำไห้และตะโกนขับไล่”
“เวลาประมาณ
๐๙.๓๖ น. 'กองกำลังปิดคลุมใบหน้า'
ตำรวจ ทหาร และกองอาสารักษาดินแดน (อส.)
เดินทยอยเข้ามายังจุดที่ชาวบ้านสวดมนต์...เวลาประมาณ ๑๒.๒๐ น.
ขบวนรถขนอุปกรณ์กลับไปเพื่อขนมาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ โดยมีกองกำลังรักษาความปลอดภัยคุ้มกัน
ไม่ให้ชาวบ้านมือเปล่าเข้าไปขัดขวาง”
๑๘ ก.พ. ๕๘ “เวลาประมาณ ๑๓.๐๐
น. ระหว่างขบวนรถขนอุปกรณ์ขุดเจาะปิโตรเลียมกลับออกมาจากหลุมเจาะโดยมี ‘กลุ่มคนคลุมใบหน้า’ และเจ้าหน้าที่รัฐเข้าแถวคุ้มกัน โดยมีชาวบ้านมาคัดค้านบริเวณข้างถนน
เมื่อขบวนรถขนอุปกรณ์ส่วนหนึ่งออกไปกองกำลังคุ้มกันก็สลายตัว
ขณะที่ชาวบ้านที่คัดค้านยังคงอยู่บนถนน
ระหว่างนั้นมีรถขนอุปกรณ์ตามออกมาอีกครั้งและจอดรอบริเวณสี่แยก
ชาวบ้านจึงออกไปคล้องแขนกลางถนนขวางไม่ให้รถออกจากพื้นที่ กองกำลังคุ้มกันบริษัทกลับมาอีกครั้งพร้อมผลักดันชาวบ้านออกจากถนน
ระหว่างการฉุดกระชาก กลุ่มกองกำลังได้เหวี่ยงหญิงชาวบ้านออกจากถนน”
“บริษัทเฮสส์ อพิโก คอสเทล
เทเท็กซ์ เชฟรอน เกี่ยวข้องกันแบบคนละบริษัท อพิโก้ (โคราช) จำกัด และ อพิโก้
แอลแอลซี แต่กระเป๋าใหญ่ใบเดียวกัน โดยมี ปตท. กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ
กระทรวงพลังงาน เป็นเจ้าภาพ และนายกแต่ละคนก็ทำหน้าที่อวยชัยให้เป็นอย่างดี”
เขาถามเซี้ยว :ทีนี้ รู้หรือยังว่า ‘ชาวบ้านสู้กับใคร’
เราตอบเซ็ง : ไอ้โม่งชุดพราง
