ข่าว ‘โหม’ ที่ว่า “ไม่ใช่เรื่องจริง” นี้บอกอะไร ผู้คนโหยหาแสง อยากได้มงลง หรือติดอันดับโลก อะไรสักอย่างใช่ไหม สื่อถึงได้สนองแบบ “ฟังไม่ได้ศัพท์ จับเอาไปกระเดียด” “ไทยเป็นอันดับ ๓ ของโลก มีธาตุลิเธี่ยมมาก”
ถึงขั้น กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ต้องเร่งชี้แจง (แบบชักแม่น้ำทั้ง ๕) ก่อนจะยอมรับโดยดุสดีว่า “ไม่ใช่เรื่องจริง” เอาเฉพาะข่าวที่ ‘สาลิกานิวส์’ เสนอ ก็อ้าง น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม
“ได้สั่งการให้ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เร่งสำรวจแหล่งแร่ลิเทียมที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างความมั่นคง และเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต” แล้ว รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
นายอดิทัต วะสีนนท์ มาสานฝันว่า “ได้อนุญาตอาชญาบัตรพิเศษจำนวน 3 แปลง เพื่อสำรวจแหล่งลิเทียมในพื้นที่อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา” ไปแล้วนะ ซ้ำ “พบว่า หินอัคนีเนื้อหยาบมากสีขาวหรือหิน ‘เพกมาไทต์’ ซึ่งเป็นหินต้นกำเนิดที่นำพาแร่ ‘เลพิโดไลต์’ สีม่วง
หรือแร่ที่มีองค์ประกอบของลิเธียมมาเย็นตัวและตกผลึก จนเกิดเป็นแหล่งลิเธียมที่มีศักยภาพ ๒ แหล่ง ได้แก่ แหล่งเรืองเกียรติ มีปริมาณสำรองประมาณ ๑๔.๘ ล้านตัน” ท่านรองฯ ก็บอกโต้งๆ ว่าแร่ที่พบแหล่งนี้ “เกรดลิเธียมออกไซด์เฉลี่ย ๐.๔๕%”
โดยลิเธียมที่แหล่งเรืองเกียรติ ถ้าทำเมืองออกมาแล้ว “คาดว่า” จะได้วัตถุดิบสำหรับผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ที่ใช้ในรถไฟฟ้า ขนาด ๕๐ kWh (Kilowatt hour = ๑ พันวัตต์ใน ๑ ชั่วโมง) “ได้ไม่ต่ำกว่า ๑ ล้านคัน”
คิดตื้นๆ ก็ต้องสงสัยว่า ตั้งเกือบ ๑๕ ล้านตัน ผลิตแบตเตอรี่ใช้ในรถไฟฟ้าได้แค่ ๑ ล้านคันเท่านั้นเหรอ แต่ข่าวที่แชร์กันตื้นกว่า จับประเด็นแค่ ๑๔.๘ ล้านเนี่ยที่สามของโลกแล้วละ ต้องให้ผู้รู้หลายท่านมากระตุกต่อม ‘ปมเด่น’ แบบไทยๆ กัน
Jessada Denduangboripant คนหนึ่งละที่ออกมาท้วงว่า ไอ้ ๑๔.๘ ล้านตันนั้นเป็น “เป็นปริมาณของหินแร่ที่ชื่อว่า หินเพกมาไทต์ ซึ่งมีธาตุลิเธียมปะปนอยู่ เฉลี่ย ๐.๔๕%” เมื่อถลุงแล้วจะได้ลิเธียมไม่ถึง ๐.๕% นะ ซึ่งคำนวณคร่าวๆ แล้ว
จำนวนลิเธียมที่ได้ “ก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ ๖-๗ หมื่นตัน แค่นั้นเองครับ” เป็นอันว่าแร่ที่พบไม่ใช่ลิเธี่ยมล้วนๆ ซึ่งนำมาผลิตแบตเตอรี่รถไฟฟ้าได้เลย ก็ต้องรอดูผลสำรวจที่แหล่งบางอีตุ้มอีกแห่ง ว่าจะมีหินเพกมาไทต์ มากกว่าหรือน้อยกว่า
ถึงจะไม่ได้ที่สามก็ไม่เป็นไรมั้ง ข้อมูลของ อ.เจษฎาบอกว่า รถเทสลาโมเดลเอสหนึ่งคัน ใช้ธาตุลิเธี่ยมทำแบตเตอรี่ ๖๒.๖ กิโลกรัม ล้านคันก็แค่ ๖๒,๖๐๐ ตัน ต่ออายุรัฐบาล ‘เศรษฐา’ ได้ครบสี่ปีแน่
(https://www.facebook.com/jessada.denduangboripant/posts/LxbFstuevuq7RT และ https://www.salika.co/2024/01/05/salika-news-vol-5-4/IwAR3GrbK817IA)