คิม จอง-อึน: 5 เรื่องที่เรายังไม่รู้เกี่ยวกับผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ

เชื่อกันว่า วันเกิดของคิม จอง-อึน คือ วันที่ 8 มกราคม แล้วมันเป็นความจริงใช่หรือไม่ และเขาจะมีอายุเท่าไหร่ในปีนี้

คิม จอง-อึน: 5 เรื่องที่เรายังไม่รู้เกี่ยวกับผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ

8 มกราคม 2024

บีบีซีไทย

คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ กำลังจะมีอายุครบ 40 ปี แต่เขาจะมีอายุเท่านี้จริงหรือ ?

เป็นที่เชื่อกันอย่างกว้างขวางว่าวันเกิดของคิม จอง-อึน คือ วันที่ 8 ม.ค. แต่ก็มีความเห็นร่วมกันที่น้อยมากเกี่ยวกับวันเกิดที่แน่ชัดของเขา

วันเกิดของคิม จอง-อึน ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องลี้ลับเรื่องเดียวเกี่ยวกับตัวเขา นี่คือคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ 5 ข้อ เกี่ยวกับผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ซึ่งก้าวขึ้นสู่อำนาจเมื่อปี 2011

1. คิม จอง-อึน เกิดเมื่อไหร่


เราไม่รู้เรื่องนี้อย่างแน่ชัด

"มีข้อถกเถียงมากมายเกี่ยวกับปีที่เขาเกิด ไม่ว่าจะเป็น 1982, 1983 หรือ 1984" ดร.เอ็ดเวิร์ด ฮาวเวลล์ อาจารย์สาขาการเมือง ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือ ที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด บอกกับบีบีซี

วันเกิดของคิม จอง-อึน ที่เชื่อกันว่า คือ วันที่ 8 ม.ค. เป็นวันทำงานปกติของประเทศคอมมิวนิสต์แห่งนี้ ขณะที่วันเกิดของ คิม จอง-อิล บิดาของเขา ซึ่งคือวันที่ 16 ก.พ. ของทุกปี จะมีการเฉลิมฉลองในวันที่เรียกว่า "วันแห่งดวงดาวที่ส่องแสง" (Day of the Shining Star)

ส่วนวันที่ 15 เม.ย. วันเกิดของคิม อิล ซุง ปู่ของ คิม จอง-อึน ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ ถูกกำหนดให้เป็น "วันแห่งดวงอาทิตย์" (Day of the Sun)

อย่างไรก็ดี รายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกครอบครัวคนอื่น ๆ ของคิม จอง-อึน ก็ถูกปกปิดไว้เป็นความลับเช่นกัน


ดร.ฮาวเวลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประเทศเกาหลีเหนือ บอกว่าเรื่องที่เรารู้คือ คิม จอง-อึน มีพี่ชายต่างมารดาและเป็นบุตรคนโตของนายคิม จอง อิล ที่ชื่อว่า คิม จอง-นัม แต่เขาถูกลอบสังหารในมาเลเซียเมื่อปี 2017

มีข้อมูลว่านายคิม จอง-อิล บิดาของคิม จอง-อึน มีคู่ครองอยากน้อย 4 คน แต่ความสัมพันธ์ของเขากับหญิงเหล่านี้ถูกปกปิดมิดชิดจากการรับรู้ของสาธารณะ

ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับ โค ยอง-ฮุย แม่ของคิม จอง-อึน เชื่อว่าเธอเกิดในญี่ปุ่น ก่อนย้ายมาที่เกาหลีเหนือในช่วงทศวรรษ 1960 เพื่อประกอบอาชีพเป็นนักเต้น นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวด้วยว่า เธอเป็นคู่ครองคนโปรดของคิม จอง-อิล

ข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับแม่ของคิม จอง-อึน ยังปรากฏในปี 2018 เมื่อมีการค้นพบภาพถ่ายของ โค ยอง-ฮุย ระหว่างที่เธอเยือนประเทศญี่ปุ่นในปี 1973

สำนักข่าวโคเรียไทม์ส รายงานว่า เกาหลีเหนือไม่ค่อยเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับนางโคต่อสาธารณะเท่าใดนัก ด้วยเพราะอาชีพของเธอที่เป็นนักเต้น และภูมิหลังเกี่ยวกับครอบครัวที่มาจากญี่ปุ่น

"การเกิดในญี่ปุ่น ซึ่งเคยเป็นประเทศที่มายึดครองคาบสมุทรเกาหลีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ต้องลดขั้นทางสังคมของเธอลงไป แต่เพราะว่าเธอแต่งงานกับคิม จอง-อิล เธอจึงมีไลฟ์สไตล์ที่หรูหราได้" ดร.ฮาวเวลล์ กล่าว

2. ภริยาของคิม จอง-อึน คือใคร

รายงานข่าวหลายกระแส ระบุว่า คิม จอง อึน พบกับนางรี ซอล จู ภริยา เป็นครั้งแรกในงานแสดงมิวสิคัล

เป็นอีกเรื่องที่เราไม่แน่ใจ เรารู้ว่าภริยาของคิม จอง-อึน คือ นางรี ซอล จู แต่เราไม่ทราบแน่ชัดว่าทั้งคู่เข้าพิธีแต่งงานกันเมื่อใด ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าน่าจะเกิดขึ้นในปี 2009

ข้อมูลเกี่ยวกับ "สหายรี ซอล จู" นับว่ามีน้อยมาก มีข้อสังเกตว่าหรือเธอจะเป็นอดีตนักร้องที่ทำให้คิม จอง-อึน สะดุดตา ระหว่างที่เธอกำลังแสดงหรือไม่ ?

คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ เคยปรากฏว่ามีรายชื่อของนักแสดงชาวเกาหลีเหนือรายหนึ่งที่ใช้ชื่อเดียวกันนี้ แต่ไม่เคยมีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าเธอใช่คนเดียวกันหรือไม่

สมาชิกสภานิติบัญญัติคนหนึ่ง ได้อ้างฝ่ายข่าวกรอง ระบุว่า พวกเขาเชื่อว่า รี ซอล จู เคยเดินทางไปเกาหลีใต้ในปี 2005 ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของทีมผู้นำเชียร์ทีมนักกีฬาของเกาหลีเหนือในการแข่งขันรายการกรีฑาชิงแชมป์เอเชีย และเธอยังเรียนร้องเพลงในประเทศจีนด้วย

ด้านทางการเกาหลีเหนือไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ นอกเหนือจากการบอกว่ารี ซอล จู เป็นภริยาของนายคิม

3. เขามีลูกกี่คนกันแน่

คิม จอง-อึน ปรากฏตัวต่อสาธารณะกับคิม จู-แอ บุตรคนที่สอง แต่กระนั้น เขาก็ยังมีบุตรคนอื่น ๆ อีก ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขามีน้อยมาก

รายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับครอบครัวของคิม จอง-อึน ยังยากที่จะหาได้พบ

คาดการณ์ว่า นางรี ซอล จู ตั้งครรภ์ในปี 2016 หลังจากที่เธอไม่ปรากฏตัวในที่สาธารณะระยะหนึ่ง แต่กระนั้นก็ไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ เชื่อว่าบุตร 2 คน ของคิม จอง-อึน ก่อนหน้านี้ เกิดในปี 2010 และ 2013 แต่ไม่มีข้อมูลว่ามีบุตรชายหรือไม่ ดังนั้น จึงไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ใครจะเป็นทายาทผู้สืบทอดอำนาจจากเขาในอนาคต อย่างไรก็ดี ในความเป็นจริง เรื่องราวเกี่ยวกับบุตรทั้งหมดของคิม จอง-อึน เป็นที่รับรู้น้อยมาก

คิม จอง-อึน ปรากฏตัวพร้อมกับ คิม จู-แอ ที่เชื่อกันว่าเป็นบุตรคนที่สองของเขา และคาดกันว่าเธอมีอายุประมาณ 10 ขวบ นี่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับบุตรของผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือที่เรารู้มากที่สุด และเธอก็ปรากฏตัวในงานพิธีสำคัญอย่างน้อย 5 ครั้ง ในปี 2023 ที่ผ่านม

"เรายังคงไม่รู้เรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับลูก ๆ ของเขา" ดร.ฮาวเวลล์ อธิบาย และย้ำว่า การที่เรารู้ชื่อของบุตรสาวคิม จอง-อึน ก็เพราะว่าเดนนิส ร็อดแมน นักบาสเก็ตบอลคนดังชาวอเมริกันซึ่งเป็นเพื่อนของนายคิมเผลอให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษ เมื่อปี 2013 และเอ่ยชื่อของ คิม จู-แอ ออกมาระหว่างการสัมภาษณ์

"เขามีบุตรคนอื่น ๆ ด้วย แต่เรารู้เรื่องเกี่ยวกับพวกเขาน้อยมาก เราไม่รู้กระทั่งว่ามารดาของพวกเขาเป็นใครบ้าง" ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือระบุ

ความเห็นจากนักวิเคราะห์หลายคน ซึ่งรวมทั้งหน่วยสืบราชการลับของเกาหลีใต้ มองว่า คิม จู-แอ จะเป็นทายาทที่ถูกวางตัวให้เป็นผู้นำคนต่อไปของเกาหลีเหนือ แต่ ดร.ฮาวเวลล์ ไม่เชื่อเช่นนั้น

นักวิชาการจากอ็อกซ์ฟอร์ดมองว่า เพราะเธอยังอยู่ในวัยเด็ก และนางคิม โย-จอง น้องสาวของนายคิม จอง-อึน ก็มีประสบการณ์มากกว่า อีกทั้งยังมีเส้นสายเครือข่ายที่ดีกว่าในหมู่ชนชั้นนำ ซึ่งทำให้เธออาจเป็นคู่แข่งที่ถูกวางตัวให้สืบทอดอำนาจต่อจากพี่ชาย

"ผู้นำเกาหลีเหนือมักจะออกสื่อพร้อมกับน้องสาวทั้งระหว่างการยิงขีปนาวุธ งานเลี้ยง หรือเกมการแข่งขันฟุตบอล เพราะเขาอยากถูกรับรู้ว่าเป็นชายที่รักครอบครัวและเป็นผู้นำที่มีเมตตา" ดร.ฮาวเวลล์ กล่าว

4. เขาใช้ชีวิตหรูหราอู้ฟู่ได้อย่างไร ขณะที่ประเทศยากจนข้นแค้น

ผู้นำเกาหลีเหนือมักจะเดินทางด้วยรถยนต์ที่หรูหรา

เกาหลีเหนือและผู้นำ เผชิญกับการคว่ำบาตรอย่างรุนแรงจากสหประชาชาติและประเทศตะวันตกมาเป็นเวลาหลายปี เพราะโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธพิสัยไกล แต่แม้ว่าจะมีการคว่ำบาตร ดร.ฮาวเวลล์ กล่าวว่า คิม จอง-อึน ได้ทำทุกวิถีทางที่เขาจะทำได้เพื่อหลีกเลี่ยงการมาตรการคว่ำบาตร

"เกาหลีเหนือมีเงินทุนสำหรับการให้สินบนเจ้าหน้าที่ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อการใช้จ่ายของระบอบโดยเฉพาะ เพราะคิมต้องการเพิ่มเงินส่วนนี้เพื่อที่เขาและครอบครัวยังใช้ชีวิตที่หรูหราต่อไปได้"

ดร.ฮาวเวลล์ เชื่อว่า มีเครือข่ายของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่ยินดีมอบเงินให้กับเกาหลีเหนือ และมีข้อกล่าวหาว่า เงินอาจจะมากจากการกองทุนที่ตั้งขึ้นโดยวิธีอื่น

"คนมักจะคิดว่าเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่โดดเดี่ยวและไม่มีอินเทอร์เน็ต แต่จริง ๆ มันมีอินเทอร์เน็ตที่ดำเนินการโดยรัฐ และสงครามไซเบอร์ก็กลายเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของระบอบคิม มีการเจาะเข้าไปยังระบบคอมพิวเตอร์ของประเทศอื่น ๆ และขโมยเงินเพื่อนำไปใช้ในระบบเศรษฐกิจของตัวเองรวมทั้งโครงการพัฒนานิวเคลียร์"

5. คิม จอง-อึน ใส่ใจประชาชนในประเทศหรือไม่

นักวิจารณ์ชี้ว่า วิถีการใช้ชีวิตของผู้นำเกาเหลีเหนือขัดแย้งกับบุคลิกที่เขาแสดงว่าเอาใจใส่ประชาชน

คำกล่าวสุนทรพจน์ของคิม จอง-อึน เมื่อปี 2020 ได้แสดงให้เห็นอีกด้านของผู้นำสูงสุดรายนี้

เขาแสดงความขอบคุณต่อกองพลทหารที่ทำงานหนักในช่วงที่เกิดโรคระบาด รวมทั้งการรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ช่วงหนึ่งเขาได้ปาดน้ำตาระหว่างที่กล่าวถึงความยากลำบากของประเทศ เหตุการณ์นี้นับเป็นการแสดงออกทางอารมณ์ของผู้นำเกาหลีเหนือที่ไม่ค่อยได้เห็นมากนัก

ผู้สังเกตการณ์บางรายมองว่า คิม จอง-อึน อาจกำลังพยายามอ่อนน้อมในระหว่างที่ประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ

ในทางกลับกัน บททดสอบของผู้นำเกาหลีเหนือที่ยังคงใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ได้ชี้ให้เห็นในทางตรงกันข้าม

คิม จอง-อึน ยังคงดำรงวิถีและธรรมเนียมแบบเดิมในการเดินทางระยะไกลด้วยขบวนรถไฟอันหรูหรา ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ คิม อิล ซุง ของเขา

ผู้บัญชาการทหารรัสเซีย ซึ่งเคยเดินทางบนขบวนรถไฟกับ คิม จอง-อิล บิดาของคิม จอง-อึน เมื่อปี 2001 เคยกล่าวถึงความมั่งคั่งระหว่างที่ย้อนความทรงจำของเขาบนรถไฟสายโอเรียนท์ เอ็กซ์เพรส ไว้ว่า

"ไม่ว่าจะสั่งอาหารจากชาติไหน ทั้งรัสเซีย จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น หรือฝรั่งเศส ก็เป็นไปได้ทั้งหมด" เขาระบุ พร้อมกับบอกว่า ทั้งกุ้งล็อบสเตอร์สด ๆ ไวน์จากบอร์โดซ์ และไวน์เบอร์กันดี ก็ถูกส่งตรงมาจากกรุงปารีส

ไม่ว่าจะเป็นขบวนรถไฟมีระดับหรือยานพาหนะหรูหราอื่น ๆ เช่น เครื่องบินส่วนตัว เป็นภาพที่ตรงกันข้ามกับชีวิตอันยากจนของประชาชนชาวเกาหลีเหนือ

ชาวเกาหลีเหนือเปิดเผยกับบีบีซีว่า อาหารนั้นขาดแคลนอย่างหนักกระทั่งเพื่อนบ้านของเขาต้องอดตาย ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า สถานการณ์เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990

นี่กำลังบอกอะไรเกี่ยวกับการจัดลำดับความสำคัญของคิม จอง-อึน ?

"เขาไม่เพียงแต่ต้องการปกป้องระบอบของเขาเอาไว้ แต่ยังรวมถึงความเป็นผู้นำทรราชย์และการปกครองแบบกดขี่ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ใส่ใจประชาชน 26 ล้านคนในประเทศของเขาเลย" ดร.ฮาวเวลล์ระบุ

"เขาคิดว่านี่เป็นยุทธศาสตร์ที่ทำให้เขาไปต่อได้อย่างนั้นหรือ ?"

ที่มา (https://www.bbc.com/thai/articles/cx7xw35xl01o)