วันอังคาร, พฤศจิกายน 14, 2566

’อุ๊งอิ๊ง‘ ไขคำตอบ #ช็อกมินต์ เป็น Soft Power ยังไง? ฝากถึง FC ชาไทย-โอเลี้ยง ไม่ต้องน้อยใจไปนะ😅


Baramee Chaiyarat
1d·

ผม. โอเลี้ยงแก้ว
แม่ค้า. กาแฟเย็นใช่ไหมคะ
ผม เฮ้อ
แม่ค้า (เสียงเขียว) เอาน้ำอะไรคะ
ผม. (เสียงดังฟังชัด) โอเลี้ยงแก้ว
จบ




 

.....

Atukkit Sawangsuk
11h
·
ซอฟท์พาวเวอร์
เรียกกลับมาทำการ์ตูนพระมหาชนก ส่งออกทั่วโลก

The Showhopper is with Walt Disney Studios.
3d·

หลายๆ คนน่าจะทราบกันแล้วว่าในปีนี้ Walt Disney Animation Studios เค้าจะเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีกันด้วยภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องใหม่เอี่ยมอย่าง Wish ที่กำลังจะเข้าฉายวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้
.
แต่เพื่อนๆ ทุกคนรู้มั้ยครับว่าความพิเศษของเรื่องนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นแค่หนังที่เฉลิมฉลอง Legacy ของสตูดิโอที่สร้างฝัน สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายกว่าหลายศตวรรษเท่านั้น แต่สำหรับพวกเราคนไทยทุกคน นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 100 ปี ที่แอนิเมชันของดิสนีย์จะมีผู้กำกับเป็นคนไทยเป็นครั้งแรกอีกด้วยนะครับ ซึ่ง Wish เป็นผลงานร่วมกันกำกับของ Chris Buck ผู้ที่เคยฝากฝีมือกำกับในแอนิเมชัน
อย่าง Tarzan, Frozen ทั้งสองภาค (ร่วมกับ Jennifer Lee) และพี่ฝน - วีระสุนทร ซึ่งเป็นผลงานการ Debut การกำกับเป็นครั้งแรกของเธออีกด้วย
.
Broadway Boy ได้รับโอกาสได้เข้าไปชม Preview Screening ของ Wish ที่ทางดิสนีย์ ประเทศไทยได้จัดฉายให้เราได้ชมเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ที่พิเศษกว่าตัวหนังที่เขาเอามาให้เราดูเกือบๆ ครึ่งเรื่องเลย นั่นก็คือการที่พี่ฝนเค้าได้มาแนะนำหนัง อธิบายเรื่องราวของหนังด้วยตัวเอง และ “เส้นทางฝัน” ที่พาพี่ฝนจากประเทศไทย ไปสู่การทำงานที่ดิสนีย์ ที่ผมอดไม่ได้จริงๆ อยากมาเขียนเล่าให้ทุกๆ คนได้อ่านกันครับ
.
พี่ฝนของเรานี้มีจุดเริ่มต้นของเส้นทางฝันที่ไม่ต่างจากทุกๆ คนเลยครับ นั่นก็คือพี่ฝนเริ่มหลงในแอนิเมชันดิสนีย์เป็นครั้งแรกตั้งแต่เด็กที่จังหวัดชลบุรี ที่พี่เค้าได้สัมผัสกับภาพยนตร์ยุค Renaissance ของค่ายนี้.. พี่ฝนหลงใหลในเรื่องราว หลงรักเพลงที่พาให้เราเข้าไปรู้จักกับตัวละคร และแน่นอน หลงใหลในงานภาพแอนิเมชันมากๆ จนถึงขั้นลงมือฝึกวาดรูปด้วยตัวเอง แต่จากแรงบันดาลใจนั้น มันก็ยังไม่ได้ทำให้พี่ฝนเห็นเส้นทางว่านี่จะกลายเป็นอาชีพได้จริงจัง ตอนมัธยมปลาย พี่ฝนสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และเส้นทางแรกของพี่ฝนก็คือการสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลได้สำเร็จ
.
สำหรับหลายๆ คน และก็เชื่อว่าสำหรับพี่ฝนด้วย นี่ก็เป็นความสำเร็จของชีวิตแล้ว แต่ลึกๆ ในใจแล้ว พี่ฝนก็ยังชอบแอนิเมชัน ยังแอบวาดรูปอยู่ทุกวันที่มีเวลาว่างจากการเรียนหมอ และพอพี่ฝนได้เรียนหมอไปปีนึง เธอก็เริ่มคิดว่า นี่เป็นเส้นทางที่ฝันจริงๆ ใช่ไหม และหากเลือกทางนี้จริงๆ แล้ว อาจต้องทิ้งความฝันการวาดรูปไปเลยก็ได้ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น พี่ฝนเองก็ยังนึกไม่ออกว่า แล้วไอการวาดรูปที่เป็น Inspiration มาตั้งแต่เด็กเนี่ย มันจะเอาไปทำอาชีพอะไรได้ … จนวันนึงพี่ฝนก็นึกขึ้นได้ว่า ก่อนที่พี่ฝนจะจบ ม.6 มีรุ่นพี่เตรียมอุดมท่านหนึ่งที่เคยมาบรรยายเรื่องราวการทำงานของเขาให้ฟัง ซึ่งพี่คนนั้นคือ ไพฑูรย์ รัตนสิรินทรวุธ หนึ่งในคนไทยที่ได้ไปทำงานที่ดิสนีย์ในอเมริกา ในฐานะ Effects Animator ที่ทำงานให้ดิสนีย์มานาน
.
หนึ่งในสิ่งที่พี่ฝนบอกพวกเราทุกคนใน Preview Screening วันนั้นก็คือ “ถ้าฝันว่าอะไร ก็อย่ากลัวที่จะบอกให้โลกรู้”เพราะสุดท้าย ความฝันของพี่ฝนก็แรงกล้า จนพี่ฝนตัดสินใจเปลี่ยนสายการเรียนจากหมอ ไปสู่การเรียนแอนิเมชันจริงๆ เริ่มเรียนปริญญาตรีใหม่เลยในสาย Fine Arts Columbus College of Art & Design (Time-Based Media Studies) ที่อเมริกา และระหว่างนั้นก็ติดต่อรุ่นพี่ท่านนั้น ขอคำแนะนำ รวบรวมผลงานวาดรูป และส่ง Portfolio ไปสมัครงานที่บริษัท Animation ต่างๆ จนทำให้พี่ฝนได้ทำงานที่บริษัทเจ๋งๆ มากมายในฐานะ Story Artist ที่ Illumination Entertainment, Nickelodeon, Warner Bros และได้ทำงานที่ดิสนีย์ในที่สุดเมื่อปี 2011
.
พี่ฝนมีฝันอยากเป็น Animator แต่ว่าตำแหน่งแรกสุดของพี่ฝนที่ดิสนีย์คือ Story Artist ซึ่งหน้าที่ของตำแหน่งนี้คือเป็นคนที่จะต้องเอาไอเดียของผู้เขียนบท ผู้กำกับ และโปรดิวเซอร์ไปจินตนาการจนกลายเป็น Storyboard เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพชัดเจนขึ้น ก่อนจะล็อคดีไซน์ของหนังก่อนที่จะส่งไปให้ Animator ลงเป็นหนังจริงๆ ซึ่งพี่ฝนเองก็เพิ่งมาทำความรู้จักอาชีพนี้ได้ตอนที่ไปเรียน และก็เห็นว่า การวาด Storyboard นี้ก็มีอะไรมากกว่าแค่วาดรูปเฉยๆ สามารถเล่าเรื่องได้เช่นกัน ก็ถือได้ว่าเป็นงานที่เพอร์เฟกต์กับสิ่งที่พี่ฝนชอบทำเลย เพราะได้ใช้ทั้งการวาดรูปและจินตนาการเต็มที่ งานแรกที่พี่ฝนได้เป็น Story Artist ก็คือ Frozen ภาคแรก ต่อด้วย Zootopia, Moana, Ralph Breaks The Internet และ Frozen 2
.
แต่ว่าเส้นทางฝันของพี่ฝนยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะหลังจากที่ได้โชว์ความสามารถอย่างเต็มที่ในฐานะ Story Artist พี่ฝนก็ได้เลื่อนขั้นเป็น Head of Story ในภาพยนตร์ดิสนีย์ปี 2021 อย่าง Raya & The Last Dragon ซึ่งคราวนี้ไม่ใช่แค่วาดรูปอย่างเดียวแล้วครับ เพราะในตำแหน่งนี้พี่ฝนจะรับหน้าที่เป็นหัวเรือในการคุมทิศทางว่าจากบทหนังทั้งเรื่อง จะสื่อสารออกมาเป็นภาพอย่างไร ต้องคิดว่าแอคชันต่างๆ ของหนังจะถูกสื่อสารอย่างไรเพื่อให้หนังทั้งเรื่องต่อเนื่องกันเป็นเนื้อเดียว มุมกล้องจะเป็นอย่างไร Staging เป็นอย่างไร
.
งานนี้ Head of Story จะทำงานกับผู้กำกับอย่างใกล้ชิดเลยครับ ซึ่งทักษะการเป็น Head of Story ประกอบกับทักษะการวาดรูปในตำแหน่ง Story Artist ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นการเตรียมตัวพี่ฝนไปสู่ตำแหน่งใหญ่ที่จะเอาทั้งสองทักษะมาประกอบกันเพื่อสร้างหนังซักเรื่อง ซึ่งก็คือตำแหน่งผู้กำกับนั่นเอง
.
พี่ฝนบอกเองเลยว่าขนาดหนังเสร็จพร้อมฉายแล้ว พี่ฝนยังรู้สึกเหนือจริงอยู่เลยที่ไม่ใช่แค่ได้เป็นผู้กำกับไทย “คนแรก” ที่ได้เป็นหัวเรือใหญ่ที่สุดในการสร้างแอนิเมชันดิสนีย์ แต่เป็นหนังที่เฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของค่ายนี้อย่าง Wish ซึ่งถูกแพลนมาตั้งแต่ Frozen 2 กำลังจะสร้างเสร็จในปี 2018 และทีนี้พี่ฝนไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่วาด หรือ คุมทิศทางเท่านั้น แต่พี่ฝนจะได้คิด และตัดสินใจทุกองค์ประกอบของหนังแบบเต็มที่ ร่วมกับ Chris Buck ผู้กำกับที่ฝากผลงานใน Frozen ทั้งสองภาค และ Tarzan มาแล้วอีกด้วย ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงรายละเอียดที่น่าสนใจหลายๆ อย่าง ทั้งงานภาพที่จะเป็นการผสมผสานของเทคนิคภาพวาดสีน้ำ 2 มิติ กับแอนิเมชัน 3 มิติ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับแอนิเมชันยุคแรกๆ ของ ดิสนีย์อย่าง Sleeping Beauty และเลือกว่าจะใช้อัตราส่วนภาพ 2.55 : 1 หรือ Cinemascope เพื่อให้หนังได้อัตราส่วนภาพที่กว้าง ได้เห็นงานแอนิเมชันแบบเต็มจอสุดๆ
.
และที่พี่ฝนดีใจมากๆ ก็คือการได้ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ และร่วม Shape องค์ประกอบสำคัญมากๆ ของ Wish นั่นก็คือ บทเพลง ครับ ซึ่ง Wish ทางผู้สร้างเค้าตัดสินใจแต่แรกแล้วว่าจะเป็นแอนิเมชันที่มีเพลงแบบเต็มที่ แต่งเพลงใหม่ทั้งหมดมากถึง 7 เพลง และผู้แต่งเพลงเรื่องนี้ก็จะเป็นนักแต่งเพลงอย่าง Julia Micheals ที่แม้ว่าจะไม่เคยแต่งเพลงให้ดิสนีย์มาก่อน แต่เธอก็มีผลงานแต่งเพลงดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Sorry ของ Justin Bieber, Hands to Myself ของ Selena Gomez และแต่ง 2002 ร่วมกับ Ed Sheeran อีกด้วย พี่ฝนเล่าให้ฟังอีกด้วยครับตอนที่ได้นั่งคุยกันหลังจากงาน Preview Screening Presentation ว่า
กว่าจะเลือก 7 เพลงนี้มาได้ มีอีกหลายเพลงเลยแต่งมาแล้วไม่ได้ถูกใช้ในหนัง แต่เพลงที่พี่ฝนชอบมากๆ ก็หนีไม่พ้นเพลงอย่าง “I’m A Star” ที่พี่ฝนให้คำจำกัดความว่าจะเป็น Be Our Guest แห่งยุคนี้ครับ
.
กับอีกเพลงที่ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจมากๆ ของพี่ฝน คือเพลงหลักของเรื่องอย่าง “This Wish” ที่พี่ฝนเป็นคนเริ่มคิดไอเดียเพลง ตั้งแต่ Prompt แรกที่ส่งให้ผู้แต่งเพลงว่าอยากได้เพลงที่อธิบายตัวละครหลักอย่าง Asha ว่าเป็น “Everyday girl turned activist” ซึ่งเพียงแค่นั้น ผู้แต่งเพลงอย่าง Julia ร่วมกับโปรดิวเซอร์ของเธอ Benjamin Rice ก็สามารถเขียนออกมาเป็นเพลงเต็มๆ อย่างที่เราได้ฟังกัน แถมพี่ฝนยังเป็นคนที่เข้าไปคุมอัดเพลงในห้องอัดกับนักแสดงรางวัลออสการ์ Ariana DeBose (ที่พี่ฝนบอกตัวจริงน่ารักมาก และเป็นกันเองมากๆ ) และยิ่งไปกว่า งานแอนิเมชันฉากเพลง This Wish ที่เราจะได้ชมกันนั้น ถูกแปลงโฉมมาจาก Storyboard ที่พี่ฝนเป็นคนวาดด้วยมือของเธอเองอีกด้วย
.
พี่ฝนทิ้งท้ายเอาไว้ให้เราว่า Theme ที่สำคัญที่สุดของ Wish คือ “ไม่มีพลังไหนในจักรวาล ที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าพลังของผู้มีฝันที่แท้จริง” ซึ่งก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่ามันก็อาจจะเป็นสิ่งที่ตัวพี่ฝนเองอยากฝากให้พวกเราทุกคนด้วยนะครับ เพราะพี่ฝนเองนี่แหละที่ฟังเสียงฝันของตัวเอง และเลือกที่จะวิ่งตาม และสร้างเส้นทางของตัวเอง จนนำมาสู่การได้เป็นผู้กำกับคนไทยคนแรกในดิสนีย์ครับผม อ่านถึงตรงนี้กันแล้วอยากดูหนังกันก็รอไม่นานแล้วครับ ภาพยนตร์ลำดับที่ 62 ฉลองครบรอบ 100 ปีของ Walt Disney Animation Studios อย่าง “Wish พรมหัศจรรย์” พร้อมเข้าฉายแล้ว 23 พฤศจิกายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ และติดตามวีดีโอสัมภาษณ์พิเศษเต็มๆ กับผู้ให้เสียงไทยอย่างพี่อิงค์-วรันธร และพี่ตู่-ภพธร ได้ที่ IG ของเรา วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายนนี้ครับผม
.
#TheShowhopper #BroadwayBoy #WISHพรมหัศจรรย์ #Disney #Animation #ดิสนีย์ #แอนิเมชัน #ฝนวีระสุนทร #หนังใหม่ #แนะนำหนังใหม่