เบรคตัวโก่ง นโยบายเอาใจนักท่องเที่ยวจีน ด้วยการคิดจะนำตำรวจจีนมาเดินลาดตระเวนในเมืองท่องเที่ยวไทย นายกฯ เศรษฐา โบ้ยตัวเกร็ง “ไม่ได้สั่งเลยครับ ไม่มีการสั่งครับ เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับผม ใครจะไปสั่ง”
หลังจากให้ข่าวกันครื้นเครง จากผู้ว่าการท่องเที่ยวว่าได้คุยกับสถานทูตจีนเป็นที่เรียบร้อย เตรียมนำตำรวจจีนมาร่วมลาดตระเวนในไทย เพื่อยกระดับความปลอดภัย และเชื่อว่าจะเพิ่มนักท่องเที่ยวจีนให้เป็นไปตามเป้า ๔ ล้านถึง ๔ ล้าน ๔ แสนคน
ไล่เรี่ยกัน โฆษกรัฐบาล ชัย วัชรงค์ ก็ให้ข่าว โดยปฏิเสธกลายๆ ว่าไม่ใช่ให้มาลาดตระเวน “ความจริงคือ ‘ตร.จีน’ จะมาร่วมทำงาน-แจ้งเบาะแสให้ ตร.ไทย เพราะกลุ่มจีนสีเทาเกรงกลัว ตร.จีน และจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น”
ต่อมาเมื่อ ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ออกมาเบรคชนิดยางไหม้ ว่า “ลาดตระเวนให้ตำรวจจีนลงพื้นที่ในไทย ‘ทำไม่ได้’ เป็นเรื่องอำนาจอธิปไตย...งั้นไม่ต้องมีตำรวจอย่างพวกพี่ ถ้าเขาต้องมาเดินตรวจ” ตานี้ นายกฯ จึงลุกลี้ลุกลน “ขอความเป็นธรรม”
เศรษฐา ทวีสิน ต้องให้ข่าวจากซาน ฟรานซิสโก ว่า ที่ น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ แถลงนั้นเป็นการสื่อสารผิด “ไม่ได้หมายความว่ามีตำรวจจีนมาเดินบนถนนเมืองไทย...ถึงอย่างไรตำรวจไทยต้องเป็นคนดูแล” นักข่าวแย้ง อ้าว ก็ผู้ว่าฯ ททท.พูดเอง
ว่านายกฯ สั่งการหลังกลับจากไปเยือนจีน ให้ประสานกับทางจีนในเรื่องนี้ไม่ใช่หรือ นายกฯ จึงต้องเบี่ยงเป็นว่า “แต่ถ้ามีความร่วมมือเกิดขึ้น ในแง่ของการประสานข้อมูลกับทางตำรวจจีน เชื่อว่าจะให้ความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวจีนมากขึ้น”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การเป็นหุ่นเชิดนั้น ถึงแม้เขาจะติดเครื่องยนต์กลไก หรือชิปอีเล็คโทรนิคให้ก็ตามที ก็ยังต้องเต้นตามเชือกที่เชิดอยู่ดี พอก้าวล้ำไปจะถูกกระชากกลับเช่นนี้
(https://twitter.com/thestandardth/status/1723988433356599794, https://www.matichon.co.th/politics/news_4281266 และ https://twitter.com/weeranan/status/1723894949895418034)