วันพุธ, พฤศจิกายน 08, 2566

“วันนี้ตอนสืบพยานคดีใครฆ่าพระเจ้าตาก ผมถอดเสื้อในศาลครับพี่ เรียกร้องให้ศาลเห็นถึงความผิดปกติในกระบวนการยุติธรรม” จดหมายจากอานนท์ นำภา ถึงลูก เล่าเรื่อง น้าเก็ท โสภณ


อานนท์ นำภา
12h ·

จดหมายฉบับลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ถึงปราณและอิสรานนท์ลูกรัก
.
“วันนี้ตอนสืบพยานคดีใครฆ่าพระเจ้าตาก ผมถอดเสื้อในศาลครับพี่ เรียกร้องให้ศาลเห็นถึงความผิดปกติในกระบวนการยุติธรรม”
.
น้าเก็ท โสภณ เดินยิ้มๆมาเกาะลูกกรงห้องขังพ่อช่วง 5 โมงเย็นหลังเขากลับจากศาล เขาเล่าเรื่องราวที่เขาถอดเสื้อนักโทษประท้วงในห้องพิจารณาต่อหน้าศาลในคดี 112 ที่ศาลอาญาธนบุรี พ่อตกใจไม่คิดว่าน้าเกรทจะทำจริงๆ
.
น้าเก็ทในวัย 25 เด็กหนุ่มที่สุภาพเรียบร้อย ตัวผอมสวมแว่นแบบเด็กเรียน จบรังสีแพทย์และกำลังจะเรียนต่อแพทย์ศาสตร์ จำเลยคดี 112 จากการพูดเรื่องประวัติศาสตร์ เรื่องใครฆ่าพระเจ้าตาก เพื่อนร่วมแดน 4 ของพ่อ ที่พ่อเรียกว่าเพื่อนก็เพราะพวกเราอยู่ในเรือนจำก็เป็นเพื่อนกันจริงๆ น้าเก็ทเป็นคนจริงจังและมีความรู้ เรามักพูดคุยกันในทุกๆเช้าในวงกาแฟและกินข้าวด้วยกัน จากสถานการณ์การตื่นตัวทางการเมืองเมื่อปี 256 3 ผลักให้คนรุ่นใหม่หลายคนออกมาต่อสู้ทางการเมืองนักเก็ทคือหนึ่งในนั้น
.
12 พฤศจิกายนนี้เป็นวันเกิดน้าเก็ทพวกเราคงฉลองกันในคุกคงมีเรื่องเล่าสนุกสนุกน้าเก็ตมาเล่าให้ปลาและอิสรานนฟังเป็นระยะตราบเท่าที่ประเทศยังไม่เป็นประชาธิปไตยพ่อกับน้าเก็ตก็คงอยู่ที่นี่ตรงนี้
.
ปล. ลูกทั้งสองไม่ต้องห่วงว่าพ่อจะไปถอดเสื้อประท้วงเหมือนน้าเก็ทอย่าง น้อยก็ช่วงนี้ที่ยังไม่มีซิกแพค พ่อพยายามออกกำลังกายลดน้ำหนัก หวังว่าการแสดงออกของนักเก็ทจะทำให้บางคนหรือหลายคนตระหนักถึงความผิดปกติในกระบวนการยุติธรรมไทย ไว้พ่อจะเขียนมาเล่าวีรกรรมของพวกเราให้ลูกฟังอีกครั้ง
.
รักและคิดถึงลูกทั้งสอง
.
อานนท์ นำภา แดน 4


.....
Get Surariddhidhamrong is at ศาลอาญาธนบุรี.
16h · Bangkok, Thailand ·
คดีใครฆ่าพระเจ้าตากของเก็ท
จะตัดสินวันที่ 27 ธันวาคม 2566 เชิญชวนมาร่วมฟังคำตัดสินและให้กำลังใจเก็ทได้ที่ศาลอาญาธนบุรี
ส่วนนัดไต่สวนพยานที่จะมีในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ถูกยกเลิกและไม่มีการเบิกตัวเก็ทไปที่ศาลอาญาธนบุรี เนื่องจากได้ไต่สวนพยานเรียบร้อยแล้ว ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา
#FreeGet #LetsGetRighs
.....
Get Surariddhidhamrong is at ศาลอาญาธนบุรี.
· Bangkok, Thailand ·
1d
ระหว่างการพิจารณาคดีไต่สวนสืบพยานวันนี้ที่ศาลธนบุรี
เพื่อประท้วงต่อศาล ผมได้ถอดเสื้อเรือนจำสีน้ำตาลท่อนบนและนั่งหันหลังให้ศาล
ผมได้กล่าวว่าการไต่สวนนี้ไม่ปกติ
การถูกโดนล่ามโซ่ด้วยกุญแจเท้าไม่ปกติ
การไม่ให้ประกันก็ไม่ปกติ
แต่พอแค่ผมถอดเสื้อท่อนบน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และศาลบอกว่าการถอดเสื้อของผมไม่ปกติ ต้องการให้ใส่เสื้อท่อนบนเหมือนเดิมเพื่อความ “ปกติ” เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์บอกว่าผมอยู่ในการควบคุมของเขาและต้องทำตามคำสั่งของเขา
พวกคุณอยู่ในระบบ เห็นระบบไม่ปกติแต่ไม่เคยทักท้วง แต่พอผมถอดเสื้อแค่ท่อนบนดันบอกว่าไม่ปกติ เจ้าหน้าที่ทุกคนบอกว่าจะทำตามหน้าที่อย่างเดียวโดยไม่ตั้งคำถาม โดยจริงๆหน้าที่ ที่ควรทำคือการบูรณาการให้กระบวนการยุติธรรมมีความยุติธรรมมากขึ้น ทำไมต้องให้คนนอกองค์กรอย่างผมหรือคนอื่นๆ มาคอยชี้เหรอว่าสิ่งที่คุณทำกันอยู่มันไม่ปกติ อย่างระบบในเรือนจำมันเปลี่ยนได้เสมอขึ้นอยู่กับพวกคุณจะเปลี่ยนให้มันดีขึ้นหรือเปล่า?
วันนี้ตำรวจที่มาเป็นพยานฝั่งโจทก์ยังเปลี่ยนทรงผม ให้ไม่ต้องขาวสามด้านแล้วเลย มันก็เกิดจากการที่คนภายในช่วยผลักดันระบบด้วยถึงได้เปลี่ยนแปลง
วันนี้ผมได้มีคำแถลงต่อศาลคร่าวๆ ดังนี้ “กล่าวขอโทษที่ถอดเสื้อเพราะผมถูกขัง มีแต่ตัว นี่เป็นวิธีสันติ ทุกคนอาจมองว่าผมไม่ใช่คนปกติ ศาลอาจมองว่าผมไม่ใช่คนปกติ สิ่งนี้ที่อาจทำให้รู้สึกว่าความผิดปกติวันนี้ของผม จะทำให้ศาลรู้สึกถึงความไม่ปกติของสังคมที่ประชาชนออกมาเรียกร้อง คนที่ถูกกล่าวหาในคดีอาญาทางการเมืองแทบประกันไม่ได้ ในคดี 112 ที่ถูกใช้ จะเป็นกษัตริย์เองที่ถูกประชาชนวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้น เพราะใช้มาตรา 112 รังแกประชาชน ยิ่งใช้ยิ่งถูกวิจารณ์ อยากให้ศาลได้รู้สึกถึงความแปลกใจต่อกระบวนการยุติธรรมกันบ้าง ผมก็เป็นผู้ประสบภัยต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนอยากให้เห็นความไม่ปกติของกระบวนการยุติธรรม”
——————————————
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566
เก็ทอยู่ในเรือนจำมา 75 วัน #LetsGetRights #Freeget