วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 12, 2566

นี่แหละ อดิศร เพียงเกษ ส.ส.‘เก๋า ที่ทำให้ ‘เพื่อไทย’ ถอยหลังลงคลอง

อดิศร เพียงเกษ ส.ส.นักกลอนคนนี้ เป็นส่วนหนึ่งในนักการเมืองรุ่นเก๋า ที่ทำให้พรรคเพื่อไทยถอยหลังลงคลองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ละสิ่งแต่ละอันที่เขาพยายามให้ร้ายฝ่ายค้าน มันกลายเป็นประจานความตื้นเขินของตนเองเสียเกือบจะร่ำไป

อย่างกรณีล่าสุดที่ต้องการผ่อนเบาความเสียหายทางการเมือง อันเกิดจากถูก ศิริกัญญา ตันสกุล จากฝ่ายค้านเอาข้อเท็จจริงต่างๆ ที่โครงการแจกเงินดิจิทัลหมื่นบาทหมกเม็ดไว้ มาเปิดโปงอย่างต่อเนื่อง จนท้ายที่สุดโครงการนี้ก็เป็นดังที่คุณไหมว่าไว้ทั้งหมด

อดิศรเปลี่ยนการเขียนจากร้อยกรองเป็นร้อยแก้ว แต่กลายเป็นร้อยหวาย เมื่อเขาเสียดแทงเชิงท้าทายศิริกัญญา ว่าถ้าโครงการเงินหมื่นดิจิทัลประสบความสำเร็จขึ้นมาละก็ คุณไหมควรต้องไปบวชชี ยุติการเมืองเรื่องเศรษฐศาสตร์

ว่าเป็นการแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งถ้าเป็นบ้านๆ อย่างเราๆ ก็คงตอบว่า รับผิดชอบอะไร ในเมื่อสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นที่เขาพูดไว้ แล้วลงเอยก็ต้องทำตามนั้นเกือบหมด ถ้ามันเกิดสำเร็จขึ้นมาก็น่าจะต้องจัดพานพุ่มไปแสดงความขอบใจสิ

แต่ศิริกัญญาเพียงตอบว่า อะไรกัน กลายเป็นเรื่องพนันไปเสียได้ ที่จริงฝ่ายบริหารต่างหากที่ต้องตอบคำถามต่อประชาชน เหตุเพราะนี่เป็นนโยบาย เรือธง ของพรรคเพื่อไทย ดังนั้นถ้าจะตอกกลับเธอให้เจ็บแสบที่สุด ก็ต้อง

เอารายงานการประชุมของคณะกรรมการดิจิตอลวอลเล็ต ออกมากางให้ประชาชนได้เห็นกันทั้งหมดทั้งสิ้นสิ ส่วน ส.ส.ก้าวไกลคนอื่น บ้างตอบโต้ไปตามเพลงฉ่อย เช่น ส.ส.จอจาน ดอนเมือง ย้อนรอยอดิศร ว่างั้นถ้าโครงการนี้แท้งล่ะ

“คุณตุ๊จะรับผิดชอบอย่างไร? ผมขอ มีให้เลือก ๔ ข้อ เช่นกัน ๑.เลิกแต่งกลอน แต่งเพลง ๒.ไปบวชพระ ๓.ลาออกจากประธานวิปรัฐบาล ๔.กราบขอโทษประชาชน” แล้วลงท้ายล้อเลียน “ซีเรียสเช่นกันนะตอบด้วย” ขณะที่ เพชร กรุณพล ซีเรียสจริง

“ในเมื่อตั้งใจจะกู้มาแจกและหวังเงินคืนจากภาษี...ขอแนะนำให้รัฐบาลเริ่มสร้างความเข้าใจเรื่องภาษีกับร้านค้ารายย่อยที่ยังไม่เคยเข้าสู่ระบบภาษี และร้านค้าที่เคยถูกเรียกภาษีย้อนหลังจากโครงการคนละครึ่ง” ด้วยนะ

มีคนต่อยอด ว่าอย่าลืมคำนวณ ค่าเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศด้วยนะ @petchy66 เสริมว่า “ถ้าให้คิดแบบคร่าวๆดอกเบี้ยเงินกู้ ๕-๘% กู้ ๕๐๐,๐๐๐ ล้าน ดอกต่อปีก็ ๒๕,๐๐๐-๔๐,๐๐๐ ล้าน และลดลงทุกปีที่ชำระเงินต้นครับ”

พอมาถึง Atukkit Sawangsuk ติ่งซ่มบอก “รัฐบาลอ้างว่าใช้เงินหมื่นดิจิตอล จีดีพีจะเพิ่มจาก ๒% เป็น ๕% ถ้าไม่เป็นจริงจะรับผิดชอบอย่างไร ตัวเลขเว่อร์ไปไหม เศรษฐาอ้างว่าจะใช้หนี้ ๕ แสนล้านใน ๔ ปี ในปี ๗๐ ถ้าใช้หนี้ไม่ได้ตามสัญญาจะว่าไง”

ล้วนเป็นคำถามที่แม้แต่นังแบกนายแบก ก็ยังไม่อยากตอบ

(https://www.facebook.com/baitongpost/posts/2ao8t3gM4gdC9kz, https://ch3plus.com/news/social/morning/374191 และ https://twitter.com/petchy66/status/1723217403960787094)