พอทักษิณบอก ‘วอร์-สงคราม’ ยังไม่จบ ยังสู้ศึก ‘battles’ ต่อไปเท่านั้นแหละ สนช.เผยไต๋ ทำท่าจะถ่วงเวลา ยืดเลือกตั้งออกไปอีก
‘ครูหยุย’ หรือ
วัลลภ ตังคณานุรักษ์ สนช. ที่อาจแอบหวังว่าหลังจากหมดวาระแล้ว คสช.คงจะตั้งไปเป็น
สว. ไว้กำกับ ครอบงำรัฐบาลหลังเลือกตั้ง ออกมาวิจารณ์ถึงการงัดข้อระหว่าง
สนช.กลุ่มหนึ่งกับกรรมการเลือกตั้งบ้าง
เขาว่า กกต.ชุดเก่า ‘ถือโอกาส’ ชิงตัดหน้าชุดใหม่ จัดการเลือกตัว ‘ผู้ตรวจการเลือกตั้ง’ ๖๑๖ คนเสียเอง ไม่รอกรรมการฯ
ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่เสียก่อน ทำให้ สนช. ๓๖ คนเข้าชื่อกันขอแก้
พรป.การเลือกตั้ง ส.ส.นั้น
“ไม่ใช่เรื่องง่าย
เพราะต้องผ่านขั้นตอนมากมาย...ยังไม่รู้ว่าผลจะออกมาอย่างไร แต่ดูแนวโน้มคงแก้ไขเสร็จไม่ทันการเลือกตั้ง
เดือนก.พ. ๒๕๖๒”
แบบนี้ก็เข้าทางพวกที่อยากให้ประยุทธ์
จันทร์โอชา ได้เป็นนายกฯ อีกครั้งหลังจากมีการเลือกตั้งตามโร้ดแม็พ คสช.ราวๆ
กุมภาฯ ๖๒ ดังที่ วรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทปราการ พรรคเพื่อไทย ผู้ที่เคยเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรม
‘สุดซอย’ อันอื้อฉาว เหน็บไว้
“ที่เป็นเช่นนี้เพราะท่านยังไม่มั่นใจว่าเลือกตั้งแล้วจะได้กลับมาเป็นนายกฯ
อีกจึงอยากอยู่ในอำนาจโดยการยื้อการเลือกตั้งใช่หรือไม่” แถมด้วยคำบลัฟ “แต่ถ้าต้องเลื่อนออกไปอีกเชื่อว่าคนจะลุกขึ้นมาทวงในสิ่งที่ท่านให้สัญญา
และความวุ่นวายจะเกิดขึ้น”
อีกคน สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล
อดีตรองประธานสภาจากพรรคชาติไทยพัฒนา ซัดหนักก่อนหน้านี้ ว่า “นี่ยังไม่ทันทำอะไรเลยแต่ไปคิดหวาดระแวงอย่างนั้นอย่างนี้
ก็ในเมื่อพวกคุณเป็นคนเขียนกฎหมายออกมาเอง
ดังนั้นเมื่อกฎหมายออกมาใช้แล้ว
ก็ต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่ได้เขียนลงไป แต่เมื่อทำตามที่เขียนแล้วมีปัญหา มีอุปสรรค
ทำให้ทุกอย่างไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ ก็ยังสามารถแก้ไขได้ กกต. ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติย่อมต้องเสนอขอแก้ไขอยู่แล้ว”
เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งติเรือทั้งโกลน
อย่าพึ่งตีตนไปก่อนไข้ ต้องลองปฏิบัติก่อนไม่เช่นนั้นคนจะขบขันพวกคุณไปเสียเปล่า
อย่าเพิ่งก้มลงไปดูดเอาน้ำลายที่ตัวเองถ่มลงไปเลย จะอายคน”
รวมทั้งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญคนหนึ่ง
ชาติชาย ณ เชียงใหม่ อดไม่ไหว จวกหนักความพยายามขอแก้
พรป.ที่พวกตนเองผ่านออกมาแล้วว่า
“ถือว่าเข้ารกเข้าพงกันหมดแล้ว
ถ้าผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ได้รับเลือกมา ไม่ขาดคุณสมบัติ
แล้วจะไปหาเหตุอะไรมายกเลิกเขา ปัญหาดังกล่าวมีทางออก
ไม่น่าถึงขั้นเสนอแก้ไขกฎหมาย”
ประจวบเหมาะเจาะแจะเลยทีเดียวกับที่อดีตนายกรัฐมนตรีเจ้าของยี่ห้อ
‘ระบอบทักษิณ’ พูดกับกลุ่มนักการเมืองจากภาคอีสาน ที่เดินทางไปพบและอวยพรวันเกิดที่ฮ่องกง
ว่าอยากเห็นคนไทยได้ศักดิ์ศรีกลับคืนมาด้วยการกลับไปสู่ประชาธิปไตย
“ผมอายุ ๖๙ ยังไม่มีประชาธิปไตยเลย แต่ว่าสิ่งที่เราต้องการคือ
อยากเห็นประเทศของเรารุ่งเรือง และที่สำคัญคืออยากเห็นศักดิ์ศรีกลับมาสู่คนไทย
เพราะว่าเราเคยอยู่กับระบอบประชาธิปไตย
ทุกคนมีศักดิ์ศรี มีสิทธิเสรีภาพ เดี๋ยวนี้เรากำลังถูกปกครองโดยใครก็ไม่รู้
ที่อยู่ๆ ก็ถือปืนมา ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่เรารับไม่ได้”
เพราะนี่เป็นสงครามเพื่อประชาธิปไตย “ไม่ยอมแพ้
คำว่าแพ้มันมีได้ ๒ กรณี คือกรณีที่เราตาย หรือกรณีที่เรายอมไปเอง
ถ้าเรายังสู้อยู่นี่ ถือว่าไม่มีปัญหา นั่นก็คือมีแต่แบตเทิล”
“วันเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็คือวันตัดสิน จะเป็นวันที่ประชาชนตัดสินว่า
ผมพูดจริงหรือเปล่า”