วันอาทิตย์, เมษายน 08, 2561

มีคนอยากให้ผู้พิพากษาสมัยนี้อ่าน จะสะกิดใจบ้างไหม?





คิดถึงพ่อ

ตุลาการรุ่นพ่อ เงินเดือนเลี้ยงลูก 3 คนไม่เคยพอ ถ้าจะดำรงตนไม่ให้แปดเปื้อนในยุคนั้น ไม่ใช่แค่ตัวเองหรอกที่ต้องไม่รับสินบน ไม่รับเงินตามน้ำ ทั้งครอบครัวต้องอยู่ในโหมดคิดและภาวะแบบเดียวกัน แม่ต้องรู้จักออมเงิน ต้องมีวินัยในการใช้เงิน มีวิธีบริหารจัดการทรัพยากร ทั้งเวลา คน เงิน ลูกก็ต้องเข้าใจว่าไม่ใช่จะได้เสื้อผ้าชุดนักเรียนใหม่ทุกปี สามปีถึงได้ครั้งนึงเพราะแม่ต้องเฉลี่ยเงิน หนังสือเรียนและเสื้อผ้าไปเที่ยว เรารับมรดกต่อๆกัน อะไรที่แม่ทำได้แม่ไม่ซื้อ แต่จะทำเอง ก่อนเปิดเทอมแม่จะเอาบัญชีมาอธิบายภาวะทางการเงินให้ฟัง และเคลียร์ว่าปีนี้ลูกคนไหนจะได้รองเท้าหรือเสื้อผ้าใหม่ ส่วนแม่ แม่แทบไม่มีเสื้อผ้าใหม่เลย ในช่วงที่ลูกยังเล็กจนถึงลูกเรียนมัธยม

บ้านน่ะเหรอ..ไม่มีหรอก เราอยู่บ้านหลวง ถึงมันจะเก่า จะโทรม จะผีหลอก แต่เราก็อยู่กับมันมา ไม่มีบ้านหลวงก็อยู่บ้านเช่า กว่าที่พ่อจะมีบ้านของตัวเองหลังแรก ก็ตอนอายุ 48 และกว่าจะผ่อนเสร็จ ก็อีกเกือบ 20 ปีถัดมา

ไม่มีหรอกเงินเดือนหลักแสน หรือบ้านในป่า เพียงเพื่อจะซื้อความสุจริตในอาชีพของคนคนหนึ่ง

คิดถึงพ่อ เพราะพ่อมักจะบอกว่าพ่อไม่มีอะไรให้นะ นอกจากการศึกษาแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นอีก คิดถึงพ่อที่มักจะบอกให้เห็นว่าที่เราดำรงตนมาได้ ไม่เสียหายด่างพร้อย สบตากับทุกคนได้ ก็เพราะแม่เข้าใจ ถ้าแม่เป็นแบบคุณนายคนอื่นที่อยากมีเพชรพลอยหรือมีบ้านใหญ่มีรถมือหนึ่ง ชีวิตเราทุกคนคงลำบากกว่านี้

คิดใหม่เถอะท่าน อย่าปรนเปรอคนเพื่อซื้อความสุจริตของคนเลย สิ่งนี้ซื้อไม่ได้ แลกเปลี่ยนก็ไม่ได้ด้วย เพราะมันเป็นคุณค่าที่ท่านต้องสำนึกเอง และจะรู้เองว่าต้องครองตนอย่างไร



Kusra Mukdawijitra