รัฐไทยเวลานี้ไม่ใช่ใดอื่นอีกแล้วนอกไปจาก ‘ฟ้าสซิสต์’
ขนาดเจ้าหน้าที่บุกห้องแสดงศิลป์ถอดภาพที่แสดง
อ้างว่าเป็นการเมืองสุ่มเสี่ยง
นันท์ชนก วงษ์สมุทร์
ผู้สื่อข่าวบีบีซีไทยรายงานไว้ยังร้อน คำเล่าของผู้อำนวยการแกลเลอรี่เว่อร์
ย่านช่องนนทรี ว่าจู่ๆ ก็มีทหาร-ตำรวจ ๗ นายเดินเข้ามา
“ไล่ดูทีละรูป
แล้วสั่งให้ปลดเฉพาะรูปที่เขาคิดว่าค่อนข้างสุ่มเสี่ยง ก่อนจากไป
เขาบอกว่าเดี๋ยวจะส่งคนมาดูทุกวัน”
๓ ภาพที่ทหารปลดออกเหลือแต่ตะปูแขวนติดผนัง
เป็นชุดนิทรรศการ "Whitewash" ของ หฤษฏ์
ศรีขาว ซึ่งที่เหลือจะยังแสดงต่อจนถึงวันที่ ๒๒ กรกฎาคมนี้
นายจิรัสย์ รัฐวงศ์จิรกุล ผู้อำนวยการเล่าต่ออีกว่า
“ทหารบอกว่าสถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้กำลังสุ่มเสี่ยงต่อการแตกแยกอยู่
เราไม่ต้องการให้ใครทำให้เกิดความแตกแยกกับประเทศตอนนี้อีก
เขาบอกว่าเอาจริงๆ ทหารไม่ได้มีปัญหากับงานของคุณ
แต่เราไม่มั่นใจว่าอาจมีคนที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับคุณมาดูงาน เขาอาจเกิดความไม่พอใจ
และทำลายผลงานศิลปะของคุณหรือแกลเลอรีของคุณก็ได้”
เป็นข้อแก้ตัวในการใช้อำนาจลุกล้ำพร่ำเพรื่อ
อย่างเจ้าเล่ห์และตอแหลสิ้นดี โดยที่เมื่อนักข่าวไปถามโฆษก คสช. ต่อเหตุการณ์คุกคามเสรีภาพทางด้านศิลปกรรมที่เกิดขึ้นครั้งนี้
พ.อ.วินธัย สุวารี ตอบหน้าตาเฉย
“ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้” ฟังแล้ว ‘ชวน’ ให้นึกถึงคำพูดอย่างเดียวกันของอดีตนายกฯ
คนหนึ่งของพรรคการเมืองที่ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังตั้งรัฐบาลจากการเลือกตั้งได้
ถ้อยวลีเดียวกัน แต่ต่างมิติความหมาย
อดีตนายกฯ นั่นไม่รู้เรื่องจริงๆ ข่าวเร็วไปถามอะไรตอบไม่ได้ต้องรอรายงาน
แต่ครั้งนี้โฆษกคณะทหารมุสาตอบเพื่อจะ ‘ไม่ตอบ’
คงเบื่อคำพูดซ้ำซากของตัวเอง “เจตนาดี
ขอเวลาอีกนานๆ”
โปรดติดตามรายละเอียดเต็มๆ ของข่าวบีบีซีไทย ได้ที่ http://www.bbc.com/thai/thailand-40302099?SThisFB “ทหาร-ตร.
บุก ๒ แกลเลอรีภาพกลางกรุง สั่งปลดงานศิลปะทางการเมือง”