วันเสาร์, มิถุนายน 17, 2560

ครั้งนี้อยากได้รถไฟเร็วสูงไว้ต่ออายุอีกสัก ๕ ปี ก็เลยต้องยอมจีน

ดูรายละเอียดราชกิจจาฯ “มาตรการเร่งรัดและเพิ่มประสิทธิภาพการดําเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา” แล้ว

อดคล้อยตามคอมเม้นต์บนสื่อโซเชียลไม่ได้ว่า คสช. เอาอธิปไตยไทยไปมอบให้บริษัทก่อสร้างจีนเสียงั้น

นี่คนหนึ่งละ “Tone Pinnacle มันคือการสูญเสียอธิปไตยของชาติครับทุกท่าน

การที่ไทยยินยอมให้คนประเทศอื่นมาทำกิจกรรมใดๆในประเทศไทย โดยไม่ต้องคำนึงถึงกฏหมายของไทยที่มีอยู่แต่เดิม ย่อมหมายถึงไทยได้สูญเสียอธิปไตยให้กับประเทศนั้นไปแล้วครับ

ขอแสดงความเสียใจต่อวิศวกรไทย สถาปนิกไทย และคนไทยทั้งประเทศด้วยครับ”

มาตรการที่ว่านั้นคือ คำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ ๓๐/๒๕๖๐ ให้นำมาตรา ๔๔ มาใช้บังคับให้โครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-โคราช เพื่อให้ได้ขยับเคลื่อนตัวไปข้างหน้าบ้างเสียที

โดยเฉพาะในข้อ ๓ ที่ระบุว่า “ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบดังต่อไปนี้” อันมี กฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคา กฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง ระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วยการพัศดุ ระเบียบการรถไฟว่าด้วยการจัดจ้าง ฯลฯ


นั่นเท่ากับไม่มีตัวบทกฎหมายและระเบียบใดๆ สามารถใช้กำกับควบคุมการดำเนินการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเส้นนี้ ปล่อยฟรีสุดแท้แต่วินิจฉัย (อำเภอใจ) ของผู้ดำเนินงาน

ไม่ว่าจะเป็นด้านออกแบบโครงสร้างพื้นฐาน ปรึกษาควบคุมงาน หรือเกี่ยวกับระบบราง ระบบฟ้าและเครื่องกล รวมถึงการจัดหาขบวนรถและฝึกอบรมบุคคลากร

ร้อนถึงสมาคมวิศวกรรมต้องออกมาท้วงติง ๓ ข้อ มีประเด็นสำคัญอยู่ว่า “วิศวกรจีนจะต้องขึ้นทะเบียน หรือต้องผ่านการประเมินคุณสมบัติเป็นภาคีวิศวกรพิเศษจากสภาวิศวกร” นายเธนศ วีระศิริ ว่า

อีกทั้งขอให้มีการถ่ายโอนเทคโนโลยี่ระหว่างวิศวกรไทยและจีนด้วย ซึ่งน่าจะเป็นไปไม่ได้ในเมื่อ คสช. ใช้อำนาจ ม.๔๔ เป็นเกณฑ์กำกับ


และก็ไม่มีการยอมลดราวาศอก เหตุเพราะมันมีเบื้องหลังอยู่นิด ดังที่นายกสภาสถาปนิก Jed Phromyothi กล่าวไว้บนเฟชบุ๊ค “สภาสถาปนิกและสภาวิศวกรได้พยายามทำเต็มที่แล้วที่จะรักษากฎหมายวิชาชีพไว้ แต่รัฐบาลไม่ฟังครับ

เพราะจีนบอกว่าถ้าวิศวกรและสถาปนิกจีนต้องสอบเพื่อจะรับใบอนุญาตระดับภาคีพิเศษ จีนก็จะไม่ทำโครงการนี้ รัฐบาลกลัวว่าจีนจะไม่ทำ ก็เลยต้องยอมจีนทุกอย่าง...

จีนมองว่าการที่สถาปนิกและวิศวกรต้องสอบใบอนุญาตไทยเป็นการเสียศักดิ์ศรี เพราะจีนออกแบบและสร้างรถไฟความเร็วสูงมาแล้วมากกว่า ๒๐,๐๐๐ กม. ไทยยังไม่คยสร้างเลยแม้แต่ ๑ กม. จะมีอะไรไปสอบเขา

(เรา) ทั้งสองสภาฯ บอกจีนว่าเราไม่ต้องการสอบความรู้ด้านเทคโนโลยี่ เพราะรู้ว่าเขาเก่งเรื่องรถไฟความเร็วสูง แต่เราต้องการทดสอบว่าเขามีความรู้เกี่ยวกับ local condition กฎหมายและวัฒนธรรมไทย เพียงพอที่จะเข้ามาทำงานในเมืองไทยหรือไม่ แต่เขาก็ยังยืนกรานที่จะไม่สอบ”

ถึงกระนั้น ทางด้านสมาคมวิศวกรรมก็มีคำเตือนในเชิงธุรกิจฝากไว้น่าฟังว่า “ระยะเวลาเดินทางของรถไฟความเร็วสูงในระยะทางไกล อาจแข่งขันกับสายการบินต้นทุนต่ำไม่ได้...

เพราะในปัจจุบันค่าโดยสารเครื่องบินต้นทุนต่ำมีราคาค่าตั๋วถูกมาก บินไกลสุดในประเทศไม่เกิน ๑ ชั่วโมง ๒๐ นาที และใช้ระยะเวลาเดินทางรวมรอการเดินทางโดยเครื่องบินจะไม่เกิน ๔ ชั่วโมง”

ความที่ คสช. ต้องการสร้างผลงานให้ได้สักอย่าง หรือว่า ดีลจีนมันหวานเสียจนปล่อยไปไม่ได้ คิดอะไรไม่ออกก็ใช้ ม.๔๔ ดีไปอย่าง มีแก้วสารพัดนึกอยู่ในกำมือ ลงเอยแล้วดีลนี้โดนด่าขรมทุกภาคส่วน

ผู้ประกอบการเหล็กไทย ๗ สมาคมไม่มีใครเห็นชอบกับการใช้ ม.๔๔ ในการดำเนินงานรถไฟเร็วสูง ดังเช่น นายเภา บุญเยี่ยม เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตเหล็กครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน ตั้งแง่ว่า

จะเปิดช่องเอื้อประโยชน์ให้ผู้ผลิตเหล็กนำเข้ามาใช้ในโครงการ...โดยเฉพาะการยกเว้นภาษีนำเข้า รวมทั้งคุณภาพมาตรฐานเหล็กจีน

นายนาวา จันทนสุรคน นายกสมาคมแผ่นรีดร้อนไทย แสดงความกังวลว่า “หากรัฐบาลกำหนดเงื่อนไขให้จีนนำเหล็กเข้าก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพ – นครราชสีมาทั้งหมด จะกระทบกับผู้ผลิตเหล็กในประเทศอย่างหนัก

เนื่องจากมีเหล็กหลายอย่างที่ผลิตได้ในไทยสามารถรองรับครงการนี้ได้ นายนาวา จันทนสุรคน นายกสมาคมแผ่นรีดร้อนไทย ให้ข้อมูลว่า

การสร้างสถานีรถไฟในการทำหลังคา ที่ต้องใช้เหล็กแผ่น เหล็กท่อ ส่วนโครงสร้างคอนกรีตผนังอาคาร ใช้เหล็กเส้นและเหล็กแผ่นรีดร้อน” ที่มีอยู่แล้วในไทยได้

ส่วน “เหล็กที่ใช้ทำรางรถไฟความเร็วสูงต้องเป็นเหล็กพิเศษที่ไทยยังผลิตไม่ได้จะต้องนำเข้าจากจีน ซึ่งผู้ประกอบการไทยยอมรับได้”


ถึงอย่างนั้น ผู้ประกอบการไทยไม่ว่าจะด้านไหน พูดไปก็ไล้ฟ์บอย ถ้าจีนดึงดันจะเอาอย่างใจต้องการทุกอย่าง แล้วที่ผ่านมาทางไทยให้ได้ไม่หมด โครงการนี้ถึงได้ยืดยาดล่าช้ามาขนาดนี้


นี่นับว่าเป็นประวัติการณ์เลยเชียว ผ่านมาสามปี คสช. ไม่เคยฟังใคร เอ็งเก่งเอ็งแน่ไปเสียทุกอย่าง แต่ครั้งนี้อยากได้รถไฟเร็วสูงไว้ต่ออายุอีกสัก ๕ ปี ก็เลยต้องยอมจีน ลื้อจะเอาอะไร อั๊วให้ทั้งนั้น ฮ่อ