ในห้วงเวลาที่บ้านเมืองกำลังเปลี่ยนผ่านสู่อำนาจนิยมสมบูรณ์ฯ
บวกทหารรู้ดีที่สุด อย่างเต็มคราบ เพียงแค่รอไฟมอดเก็บเถ้าเสียก่อนเท่านั้น
ในบรรยากาศที่บริทนี่ย์มาเต้นให้ดูได้ แต่ถ้าลำไยเต้นเป็นของไม่ดี
โดยเฉพาะเพลงที่มันมีงูออกมา ‘โคตรฮิต’ แต่เพลง ‘No
Coup’ ของกลุ่มดาวดินหาฟังยาก
(หมายเหตุ @nimdaex :“เพลง Burn it down บน Youtube ต้นฉบับจริงยอดวิว ๓ ล้านกว่า ส่วนไอ้คนที่ไปดูดเค้ามา repost ใส่ชื่อว่า ‘เพลงที่มันมีงูออกมา’ ยอดวิวห้าล้าน”
ในสภาพการณ์ที่ชาวบ้านถูกไม้พะยูงต้นใหญ่ล้มลงใส่หลังคา
แต่ไม่กล้าตัดเคลื่อนย้าย เพราะกฎหมายศักดิ์สิทธิ์เหลือหลาย ไม้พะยูงเป็นไม้หวงห้าม
ใครตัดต้องโทษคุก ๒-๕ ปี หรือปรับหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ป้าวัย ๕๑
ชาวกาฬสินธุ์ต้องทนอยู่กับไม้ล้มหลังคาพังเกือบสองเดือน ได้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาช่วย
สั่งการด้วยอำนาจ ป. วิอาญา ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ไปช่วยตัดและจัดเก็บ เสร็จภายใน ๑
วัน รวดเร็วทันข่าว
ในอารมณ์ที่ ‘เกษียร’ (เตชะพีระ) เขียนยาวเรื่องว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
ในขณะที่ ‘เสถียร’ (Dabod) เขียนดีเรื่องไม่เข้าใจ
ทำไมถึงยังมีความเกลียดฝังในกันอยู่หนักหนา (แต่เขาน่าจะทำให้ยิ่งลักษณ์น้ำตาคลอด้วยความปลื้ม)
ดูเหมือนจะช่วยให้ถีบถอยห่างจากอาการสิ้นหวังได้อย่างดี
ลองอ่านดู
“ระยะหลังเมื่อผมเดินผ่าน
หนุ่มใหญ่ใส่เสื้อแดงเจ้าของรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวไก่ใกล้ที่ทำงานมักกวักมือเรียกพร้อมยกแก้วเหล้าดองยาสีแดงให้ผมได้ดื่มอยู่เสมอ
ผมคงรู้สึกผิดบาปเป็นอย่างมากหากต้องปฏิเสธ
ผมไม่แน่ใจว่าน้ำมิตรไมตรีของเราเริ่มต้นงอกงามตั้งแต่เมื่อไหร่
ผมพบกับเขาตั้งแต่ผมเริ่มแวะเวียนมาที่นี่เมื่อสิบปีที่ผ่านมา ภาพของเขายังดูคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
อ้อ! จะว่าไม่เปลี่ยนก็อาจไม่ใช่ เพราะในช่วงที่กระแสการเมืองขึ้นสูงในช่วงปี 53 เขาก็ได้แสดงตัวเองชัดเจนว่าเป็นคนเสื้อแดง
ช่วงนั้นเขาใส่เสื้อแดงมาขายทุกวัน บนตู้กระจกปิดสติ๊กเกอร์สีแดงมีข้อความว่า "ยุบสภา" ตัวใหญ่ประดับอยู่
แต่อนิจจา ช่วงเวลาที่เขาได้แสดงออกถึงความคิดเห็นทางการเมืองแบบชัดๆ มันดูช่างสั้นนัก หลังจากที่ทหารบดขยี้คนเสื้อแดงที่ราชประสงค์ไม่นานนัก สติ๊กเกอร์ที่เคยเด่นชัดทิ่มแทงสายตาคนรอบข้างก็ได้ถูกลอกออกไป
เราไม่ค่อยได้คุยอะไรกันมากนัก มีบางครั้งเขาบ่นพ้อกับผมถึงสถานการณ์ที่เป็นไป แต่ด้วยสถานการณ์รอบข้างที่ไม่น่าไว้วางใจนักผมบอกกับเขาได้เพียงแค่คำสั้นๆ ว่า ทน ทนไป !
หลังๆ มาเลยยิ่งไม่ค่อยได้คุยอะไรกัน ก็คนแพ้ ไม่ได้เป็นกรวดเม็ดร้าว ไม่ได้เป็นสิ่งชำรุดในประวัติศาสตร์ จะบอกเล่าถึงความเจ็บปวด จะมีอะไรให้พูดมากมายแล้วใครหน้าไหนเล่าที่จะมาสนใจรับฟัง
ระยะหลังการพยักหน้าให้กัน การหยิบยื่นจอกยาดองพร้อมกับแก้วใส่น้ำเย็นจึงเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของมิตรภาพระหว่างเรา
อย่างน้อยเราก็ยังไม่ถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะอย่างน้อยมิตรภาพก็ยังงอกงาม แม้ว่ามันจะเป็นมิตรภาพของผู้แพ้
เป็นมิตรภาพที่ไร้ถ้อยจำนรรจ์”
ผมคงรู้สึกผิดบาปเป็นอย่างมากหากต้องปฏิเสธ
ผมไม่แน่ใจว่าน้ำมิตรไมตรีของเราเริ่มต้นงอกงามตั้งแต่เมื่อไหร่
ผมพบกับเขาตั้งแต่ผมเริ่มแวะเวียนมาที่นี่เมื่อสิบปีที่ผ่านมา ภาพของเขายังดูคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
อ้อ! จะว่าไม่เปลี่ยนก็อาจไม่ใช่ เพราะในช่วงที่กระแสการเมืองขึ้นสูงในช่วงปี 53 เขาก็ได้แสดงตัวเองชัดเจนว่าเป็นคนเสื้อแดง
ช่วงนั้นเขาใส่เสื้อแดงมาขายทุกวัน บนตู้กระจกปิดสติ๊กเกอร์สีแดงมีข้อความว่า "ยุบสภา" ตัวใหญ่ประดับอยู่
แต่อนิจจา ช่วงเวลาที่เขาได้แสดงออกถึงความคิดเห็นทางการเมืองแบบชัดๆ มันดูช่างสั้นนัก หลังจากที่ทหารบดขยี้คนเสื้อแดงที่ราชประสงค์ไม่นานนัก สติ๊กเกอร์ที่เคยเด่นชัดทิ่มแทงสายตาคนรอบข้างก็ได้ถูกลอกออกไป
เราไม่ค่อยได้คุยอะไรกันมากนัก มีบางครั้งเขาบ่นพ้อกับผมถึงสถานการณ์ที่เป็นไป แต่ด้วยสถานการณ์รอบข้างที่ไม่น่าไว้วางใจนักผมบอกกับเขาได้เพียงแค่คำสั้นๆ ว่า ทน ทนไป !
หลังๆ มาเลยยิ่งไม่ค่อยได้คุยอะไรกัน ก็คนแพ้ ไม่ได้เป็นกรวดเม็ดร้าว ไม่ได้เป็นสิ่งชำรุดในประวัติศาสตร์ จะบอกเล่าถึงความเจ็บปวด จะมีอะไรให้พูดมากมายแล้วใครหน้าไหนเล่าที่จะมาสนใจรับฟัง
ระยะหลังการพยักหน้าให้กัน การหยิบยื่นจอกยาดองพร้อมกับแก้วใส่น้ำเย็นจึงเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของมิตรภาพระหว่างเรา
อย่างน้อยเราก็ยังไม่ถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะอย่างน้อยมิตรภาพก็ยังงอกงาม แม้ว่ามันจะเป็นมิตรภาพของผู้แพ้
เป็นมิตรภาพที่ไร้ถ้อยจำนรรจ์”
“คราวหน้าไปอุดหนุนพี่เขากันครับ” Pandit Chan รีบจัดแจง “มีสองโต๊ะเล็กๆ เองครับ แถมที่ตั้งโต๊ะก็เอียงด้วย” Wannakiat เร่งเตือน “ไม่เป็นไรครับ
เราซื้อเบียร์ไปดื่มและอุดหนุนเขาได้ครับ” การสนทนาชักจะเข้าที่
ศุภวัฒน์ แซ่ตั้ง “บอกพิกัดก็ดีครับ ใครไกล้จะได้แวะเวียนไปอุดหนุน
ให้กำลังใจ”
Kit Walaipan “สะท้อน สะเทือนใจมาก เราจะมีวิธีใดๆ ที่จะทำให้คนบนๆ ที่สะดวกสบายมีโอกาสไปหมดในทุกๆ
อย่าง ได้เข้าใจความลำบากที่คนกลุ่มเหล่านี้ต้องเผชิญ...”