พอโครงการชินกันเซ็นไทย-ญี่ปุ่น เส้นทางระยอง-พิษณุโลก
ที่ลิ่วล้อ คสช.สายเทคโนแครทจัดการ กำลังจะไปสวย รถไฟเร็วสูงจีนสายบางปะอิน-โคราชที่ทหารไปดีลหวานๆ
มา ก็ดันเกิดปัญหา จะต้องใช้ ม.๔๔ จัดการเสียละ
นี่ไง ชี้ให้เห็นว่าแม้แต่ภายใน คสช. เอง
เรื่องการพัฒนาประเทศพวกพลเรือนทำได้ดีกว่า เพราะไม่กล้า ‘ดีล’
แบบเด็ดๆ ละมัง
วานนี้ (๑๕ มิ.ย.) ทีมตูบฝ่ายกฎหมายให้สัมภาษณ์เรื่องว่า “พยายามปลดล็อคทุกเรื่อง”
ประชาชนจึงได้มีโอกาสรู้เรื่อง
ว่ารถไฟเร็วสูงที่จะให้จีนสร้างด้วยนวรรตกรรมล้ำหน้านั้น ผ่านมา ๓ ปีกว่า ก็ “ยังติดปัญหาอยู่ ๔-๕ ข้อ” ยังไม่เปิดทางไปสู่ความ ‘ถาวรและยั่งยืน’ เสียที
แม้แต่แค่เส้นทางชิมลอง ‘appetizer’
เรียกน้ำย่อย ๓.๕ กิโลเมตร ก็ยังต้องฝ่า ‘ล็อค’
เช่นเดียวกันกับโครงการหลัก
ไหนจะปัญหาระเบียบกำกับอาชีพวิศกรรมและสถาปัตยากรรม
ที่ต้องให้พวกช่างจีนที่จะมาทำการก่อสร้าง ต้องผ่านการสอบใบอนุญาตประกอบการของไทยเสียก่อน
“กฎหมายไทยกำหนดให้วิศกรที่ทำงานในประเทศไทยต้องมีใบอนุญาต”
นายอมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกรชี้แจง “ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ
ไม่ว่าวิศวกรคนนั้นจะมีความสามารถล้ำเลิศ” แค่ไหน
ดร.อมรชี้ว่า คสช. ไม่ควรใช้มาตรา ๔๔
สั่งให้วิศวกรจีนข้ามขั้นตอนไม่ต้องสอบมาตรฐานใบอนุญาตประกอบวิศวกรรมไทย
นั่นจะทำให้เกิดภาพพจน์ต่อประเทศไทยได้ว่าไม่รักษากฎหมาย
“แล้วโครงการรถไฟความเร็วสูงอื่นอย่างเช่นของญี่ปุ่นล่ะ
ถ้าตอนนั้นไม่มีมาตรา ๔๔ แล้วจะทำอย่างไร” เลขาฯ สภาวิศวกรท้วงพร้อมเสนอให้ความช่วยเหลือวิศวกรจีนในการสอบผ่านใบประกอบการของไทย
โดยจะช่วยสอนเรื่องภูมิศาสตร์และสภาพแวดล้อมให้แก่วิศวกรจีนสามารถสอบผ่านได้ภายใน
๒-๓ เดือน ขณะที่วิศวกรไทยต้องใช้เวลาถึง ๕-๖ เดือนในการสอบผ่าน
แต่เอ๊ะ อย่างนี้ไม่ได้เรียกว่าเป็นวิธี ‘ลัดขั้นตอน’ หรือ ‘เบี่ยงประเด็น’ หรอกหรือ ทั้งหมดในแนวทางที่อ้างกันมานี่ไม่ต่างอะไรไปกว่า ‘สุกเอาเผากิน’ หรือไม่ก็ ‘สับขาหลอก
ตบตา’
แหม่ เพิ่งชมอยู่หลัดๆ ถึงตรงนี้ลิ่วล้อ
คสช. สายเท็คโนแครท ก็ไม่ต่างอะไรกับต้นตอ ที่มัก ‘จับแพะชนแกะ’ อยู่เสมอไม่ได้ขาด
อย่างกรณีวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฏฯ
หลังจากที่งมโข่งกันมาหลายอาทิตย์ แบบมีข่าวเล็ดลอดว่ารู้ตัวคนร้ายแล้วบ้าง เตรียมจับกุมบ้าง
จนกระทั่งได้ตัวคนร้ายเป็นชายสูงอายุวัย ๖๒ ปี ขนาดแม่ทัพแดง ภาค ๑.
ไปกำกับการจับกุมสดด้วยตนเอง
เบื้องต้นทันควันเมื่อจับกุมเสร็จก็นำตัวเข้าค่ายกักกัน
“จึงอาศัยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ ๓/๒๕๕๘ ที่ให้อำนาจตำรวจและทหารเป็นเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อย
ควบคุมตัวอดีตวิศวกรคนรายดังกล่าวไปที่กองร้อยกองบังคับการ กองพันทหารราบ
มณฑลทหารบกที่ ๑๑ (พัน ร.มทบ. ๑๑) เพื่อสอบปากคำ ๗ วัน”
ข่าวที่ผ่านออกมาบอกว่าคนร้ายเป็นวิศวกรไฟฟ้า
แถม“ยอมรับไม่ชอบทหาร ไม่ชอบรัฐบาลคสช.” ก็เลยเข้าทางสร้างความบริสุทธิ์ให้แก่
คสช. ไม่ได้ทำเอง และไม่ใช่โจรใต้
นอกจากเจออุปกรณ์ไป๊ป์บอมบ์ ท่อพีวีซี
กล่องเซอร์กิต สายไฟต่างๆ แล้ว ยังได้ของกลางสำคัญ นาฬิกาแขวนที่บนหน้าปัดเป็นรูป ‘ทักษิณ’ อีกด้วย
อะไรมันจะเข้าทางพันธกิจที่พวกแฟนคลับลุงตูบออกมาเรียกร้องกำจัด
‘ระบอบทักษิณ’
ให้สิ้นซากเสียก่อนที่จะคืนอำนาจแก่ประชาชนอย่างเต็มพิกัด ขยับประชาธิปไตยขึ้นมาเป็นค่อนใบได้
และนี่ก็คนที่เพิ่งแจงจะแจ้งว่าระบอบทักษิณเป็นอะไรกันแน่ คืออดีต รมว.พาณิชย์
วัฒนา เมืองสุข ก็บังเอิญปะจะดะโดน ปปช. ชี้มูลข้อกล่าวหาทุจริตบ้านเอื้ออาทร
ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดฟ้องร้องต่อไปเลยพอดี