
เปิดระบอบทักษิณ :สถิติและตัวเลขที่น่าสนใจ ช่วงปี 2540-2550
BY SARA BAD
JUNE 12, 2017
ispace thailand
เมื่อเราย้อนอดีตกลับไปเมื่อ 20 ปี ที่ผ่านมา คงเป็นคืนวันที่น่าหวนคืน เพราะประเทศเรามีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มีรัฐธรรมนูญที่ถือได้ว่าเป็นประชาธิปไตยที่สุดในบรรดารัฐธรรมนูญทั้งหลายสิบฉบับ ในทางเศรษฐกิจที่ล้มลงในห้วงนั้นหลังภาวะต้มยำกุ้งใน 2540 ก็ดูเหมือนจะดีขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนทั่วไปเริ่มจะลืมตาอ้าปากได้
ความสัมพันธ์ระหว่างการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมในไทยดูเหมือนจะไปได้ดี ในห้วงเวลานั้น โดยเฉพาะการการขึ้นมาของคนชื่อว่าทักษิณ ชินวัตร นักธุรกิจและนักการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง ได้จัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี ในปลายปี 2543 บริหารประเทศด้วยนโยบายทางเศรษฐกิจที่อัดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจฐานราก จนเกิดการจ้างงานและลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนมีรายได้
มีนโยบายที่ถูกใจคนรากหญ้าในต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นโครงการสาธารณสุขอย่างโครงการประกันสุขภาพแห่งชาติ 30 บาท รักษาทุกโรค โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) โครงการกองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท และโครงการอื่นๆอีกมากมาย
ด้วยการบริหารงานที่เข้าถึงประชาชน และเศรษฐกิจไทยโตอย่างต่อเนื่อง นำพาให้รัฐบาลทักษิณ ชนะการเลือกตั้งอีกครั้งภายหลักจากหมดวาระในสมัยแรก และเป็นชัยชนะอย่างถล่มทลายเหนือพรรคคู่แข่ง
แต่ก็ไม่วายที่การเมืองไทยก็ยังคงเป็นการเมืองไทยอยู่วันยังค่ำ มีการทำรัฐประหารในปี 2549 และการเมืองไทยก็วุ่นวายตลอดมาจนถึงปัจจุบันนี้ว่า 10 ปี ที่การเมืองไทยก็ย้อนกลับไปเป็นวงจรอุบาทว์เช่นเดิม มีรัฐบาลทหารขึ้นครองเมือง สถาปนาเป็นรัฐทหาร จำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชน และเพิ่มงบประมาณให้พวกพ้องตัวเอง
หนึ่งในเหตุผลการอธิบายของกลุ่มคนเหล่านี้ คือการสถาปนาผีทักษิณ เพื่อให้ประชาชนตื่นกลัวระบอบนักการเมือง สร้าง “ระบอบทักษิณ” ขึ้นมา เพื่อบอกว่านักการเมืองเป็นพวกเสวยสุขบนความยากจนของประชาชน โกงกินประชาชน และข้าราชการ ทหาร คือพระเอกขี้ม้าขาวที่จะมาขจัดความทุกข์ยาก และปลดปล่อยให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น แต่ก็อย่างที่เห็น การบริหารงานของเผด็จการทหาร จำกัดเสรีภาของประชาชน ละเมิดสิทธิมนุษยชน สร้างภาระหนี้ให้กับประชาชน เพิ่มงบประมาณให้กองทัพซึ่งส่วนทางกับเศรษฐกิจที่ตกต่ำในปัจจุบัน
งานเขียนชิ้นนี้ จะพาย้อนกับไปดูสถิติ และข้อมูลที่น่าสนใจช่วงปี 2540-2550 ช่วงที่ทักษิณบริหารประเทศ ระหว่างปี 2544-2549 ว่าตัวเลขต่างๆเป็นอย่างไร ทำไมประชาชนถึงโหยหาคนที่ชื่อทักษิณ

ภาพที่ 1.0 อัตรากาารเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)
ภาพที่ 1.0 เป็นดัชนีชี้วัดถึงเศรษฐกิจของประเทศว่าเติบโตขึ้นหรือลดลง ซึ่งจากภาพ จะเห็นได้ว่าภายหลังจากเศรษฐกิจประเทศไทยดิ่งลงเหวด้วยภาวะต้มยำกุ้ง เมื่อปี 2540 ค่อยๆกลับมาดีขึ้นช่วงปี 2543 และเพิ่มขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆตลอดการบริหารงานของระบอบทักษิณ และดิ่งลงอีกครั้งปี 2550 ภายหลังการรัฐประหารยึดอำนาจของเหล่าทหาร

ภาพที่ 2.0 เป็นจำนวนการจัดเก็บภาษีระหว่างปี 2541-2550 จะเห็นได้ว่าอัตราการจัดเก็บภาษีเพิ่มสูงขึ้นเห็นได้อย่างชัดเจน จากเพียงแค่ 4-5 แสนล้านบาท ในปี 2543 เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในปี 2549-2550 กว่าล้านล้านบาท และจัดเก็บได้สูงขึ้นในพื้นที่ต่างจังหวัดและกรุงเทพมหานคร

ภาพ 3.0 เปรียบเทียบประมาณการรายได้จากภาษีอากรและภาษีที่จัดเก็บได้ 2540-2550 พบว่านอกจากการจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนๆ แล้ว ในส่วนของประมาณการรายได้ก็เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงรากฐานเศรษฐกิจที่ดีต่อเนื่อง






ispace thailand
เมื่อเราย้อนอดีตกลับไปเมื่อ 20 ปี ที่ผ่านมา คงเป็นคืนวันที่น่าหวนคืน เพราะประเทศเรามีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มีรัฐธรรมนูญที่ถือได้ว่าเป็นประชาธิปไตยที่สุดในบรรดารัฐธรรมนูญทั้งหลายสิบฉบับ ในทางเศรษฐกิจที่ล้มลงในห้วงนั้นหลังภาวะต้มยำกุ้งใน 2540 ก็ดูเหมือนจะดีขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนทั่วไปเริ่มจะลืมตาอ้าปากได้
ความสัมพันธ์ระหว่างการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมในไทยดูเหมือนจะไปได้ดี ในห้วงเวลานั้น โดยเฉพาะการการขึ้นมาของคนชื่อว่าทักษิณ ชินวัตร นักธุรกิจและนักการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง ได้จัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี ในปลายปี 2543 บริหารประเทศด้วยนโยบายทางเศรษฐกิจที่อัดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจฐานราก จนเกิดการจ้างงานและลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนมีรายได้
มีนโยบายที่ถูกใจคนรากหญ้าในต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นโครงการสาธารณสุขอย่างโครงการประกันสุขภาพแห่งชาติ 30 บาท รักษาทุกโรค โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) โครงการกองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท และโครงการอื่นๆอีกมากมาย
ด้วยการบริหารงานที่เข้าถึงประชาชน และเศรษฐกิจไทยโตอย่างต่อเนื่อง นำพาให้รัฐบาลทักษิณ ชนะการเลือกตั้งอีกครั้งภายหลักจากหมดวาระในสมัยแรก และเป็นชัยชนะอย่างถล่มทลายเหนือพรรคคู่แข่ง
แต่ก็ไม่วายที่การเมืองไทยก็ยังคงเป็นการเมืองไทยอยู่วันยังค่ำ มีการทำรัฐประหารในปี 2549 และการเมืองไทยก็วุ่นวายตลอดมาจนถึงปัจจุบันนี้ว่า 10 ปี ที่การเมืองไทยก็ย้อนกลับไปเป็นวงจรอุบาทว์เช่นเดิม มีรัฐบาลทหารขึ้นครองเมือง สถาปนาเป็นรัฐทหาร จำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชน และเพิ่มงบประมาณให้พวกพ้องตัวเอง
หนึ่งในเหตุผลการอธิบายของกลุ่มคนเหล่านี้ คือการสถาปนาผีทักษิณ เพื่อให้ประชาชนตื่นกลัวระบอบนักการเมือง สร้าง “ระบอบทักษิณ” ขึ้นมา เพื่อบอกว่านักการเมืองเป็นพวกเสวยสุขบนความยากจนของประชาชน โกงกินประชาชน และข้าราชการ ทหาร คือพระเอกขี้ม้าขาวที่จะมาขจัดความทุกข์ยาก และปลดปล่อยให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น แต่ก็อย่างที่เห็น การบริหารงานของเผด็จการทหาร จำกัดเสรีภาของประชาชน ละเมิดสิทธิมนุษยชน สร้างภาระหนี้ให้กับประชาชน เพิ่มงบประมาณให้กองทัพซึ่งส่วนทางกับเศรษฐกิจที่ตกต่ำในปัจจุบัน
งานเขียนชิ้นนี้ จะพาย้อนกับไปดูสถิติ และข้อมูลที่น่าสนใจช่วงปี 2540-2550 ช่วงที่ทักษิณบริหารประเทศ ระหว่างปี 2544-2549 ว่าตัวเลขต่างๆเป็นอย่างไร ทำไมประชาชนถึงโหยหาคนที่ชื่อทักษิณ

ภาพที่ 1.0 อัตรากาารเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)
ภาพที่ 1.0 เป็นดัชนีชี้วัดถึงเศรษฐกิจของประเทศว่าเติบโตขึ้นหรือลดลง ซึ่งจากภาพ จะเห็นได้ว่าภายหลังจากเศรษฐกิจประเทศไทยดิ่งลงเหวด้วยภาวะต้มยำกุ้ง เมื่อปี 2540 ค่อยๆกลับมาดีขึ้นช่วงปี 2543 และเพิ่มขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆตลอดการบริหารงานของระบอบทักษิณ และดิ่งลงอีกครั้งปี 2550 ภายหลังการรัฐประหารยึดอำนาจของเหล่าทหาร

ภาพที่ 2.0 เป็นจำนวนการจัดเก็บภาษีระหว่างปี 2541-2550 จะเห็นได้ว่าอัตราการจัดเก็บภาษีเพิ่มสูงขึ้นเห็นได้อย่างชัดเจน จากเพียงแค่ 4-5 แสนล้านบาท ในปี 2543 เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในปี 2549-2550 กว่าล้านล้านบาท และจัดเก็บได้สูงขึ้นในพื้นที่ต่างจังหวัดและกรุงเทพมหานคร

ภาพ 3.0 เปรียบเทียบประมาณการรายได้จากภาษีอากรและภาษีที่จัดเก็บได้ 2540-2550 พบว่านอกจากการจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนๆ แล้ว ในส่วนของประมาณการรายได้ก็เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงรากฐานเศรษฐกิจที่ดีต่อเนื่อง






(งบประมาณกระทรวงกลาโหม 2550 - 2561)

อ้างอิง
วัฒนา เมืองสุข,Facebaook Page; Wattana Muangsuk,ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2560
https://www.google.co.th/search?q=%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B4%E0%B8%93&oq=%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B4%E0%B8%93&aqs=chrome..69i57j69i61j0l4.6723j0j9&sourceid=chrome&ie=UTF-8

อ้างอิง
วัฒนา เมืองสุข,Facebaook Page; Wattana Muangsuk,ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2560
https://www.google.co.th/search?q=%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B4%E0%B8%93&oq=%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B4%E0%B8%93&aqs=chrome..69i57j69i61j0l4.6723j0j9&sourceid=chrome&ie=UTF-8