คดีทั้งหลายที่คณะทหาร คสช. ใช้จัดการกับกลุ่มนักศึกษาต่างๆ เพื่อปิดปากพวกเขาและเขียนเสือให้วัวกลัว กำลังจะเริ่มตีกลับ หรือ backfired
ไม่ว่าจะเป็นการเหมารวมด้วยข้อหาบ่อนทำลาย ตามมาตรา ๑๑๖ หรือเจาะจงความผิดฐานขัดขืนคำสั่งคณะรัฐประหาร ฉบับที่ ๓ และที่ ๑๗ ไปจนกระทั่งการกลั่นแกล้งให้เจ็บร้อนด้วยความผิดอาญามาตรา ๑๑๒ ล้วนถูกตำหนิและจับตาคุมประพฤติของ คสช. จากชุมชนนานาชาติ โดยเฉพาะในประเทศประชาธิปไตยตะวันตก
(ดูเรื่องโหวตรัฐสภาเยอรมันติเตียนการออกกฎหมายของไทยมากำกับการออกเสียงประชามติที่ http://thaienews.blogspot.com/…/german-lawmakers-denounce-t…)
การควบคุมตัว (ในลักษณะ ‘อุ้ม’) ต่อกลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยใหม่และเกษตรเสรี ๑๓ คน จากสมุทรปราการ นำไปกักขัง จองจำ ล่ามโซ่ ตีตรวน เป็นเวลา ๑๒ วัน แล้วจึงยอมให้ประกันปล่อยตัวชั่วคราวหลังจากตั้งข้อหา ม.๑๑๖ และคำสั่ง คสช. ๓/๒๕๕๘
ก็ดูเหมือนจะโดนแรงสะท้อน (ถีบ) ถอยหลังอย่างจัง ตรงที่เด็กหนุ่มผู้ต้องหาถามผู้พิพากษาศาลทหาร
“ท่านมั่นใจหรือเปล่าว่า ท่านกำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง...
การเป็นเจ้าหน้าที่ไม่ใช่เป็นแค่ เพียงการทำตามคำสั่งเท่านั้น หากท่านมีหน้าที่ในการทำ
สิ่งที่ถูกต้อง ดูพวกเราทั้งเจ็ดคน ท่านสบตาผมสิครับ ท่านจ้องมองมาที่พวกเรา
หากท่านไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง นั่นหมายความว่าท่านไม่ได้ทำตามหน้าที่
ท่านเป็นเพียงผู้ที่ได้รับคำสั่ง ซึ่งมันจะมีความหมายอะไร”
กับที่เพิ่งยอมปล่อยตัวสองแอ๊ดมินเฟชบุ๊คล้อผู้นัมพ์ หฤษฏ์ (มหาทน) กับ ณัฏฐิกา (วรธันยวิชญ์) หลังจากขังคุกมา ๕ ผลัด ๒ เดือน เพราะหลักฐานอ่อนไม่พอฟ้องคดีร้ายแรงขนาด ม.๑๑๒ ที่ใครจะแจ้งความต่อใครก็ได้ โดยวางหลักประกัน ๕ แสน
หฤษฎ์ ให้สัมภาษณ์ว่า “คดี ม.๑๑๒ ยากมากที่จะได้รับการประกันตัวเช่นตนเอง แต่ในเรือนจำยังมีนักโทษคดี ม.๑๑๒ และคดียาเสพติดอีกจำนวนมาก มีผู้ที่ถูกดำเนินคดีโดยไม่เกี่ยวข้องอะไรแต่ถูกเพื่อนกลั่นแกล้ง”
สุดท้ายหฤษฎ์กล่าวว่า “อยากให้สังคมเข้าใจว่าการเป็นผู้ต้องหาคดี ม.๑๑๒ ไม่ได้เป็นผู้ที่ทำผิดไปแล้ว ยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะสิ้นสุดกระบวนการทางยุติธรรม”
คดี ๑๑๒ “เป็นคดีที่สร้างความเสื่อมเสียให้ตัวเองและครอบครัว ทั้งนี้ไม่เคยมีความคิดและแนวทางเกี่ยวกับคดีนี้มาก่อน
การเป็นผู้ต้องหาคดี ม.๑๑๒ ไม่ได้เป็นผู้ที่ทำผิดไปแล้ว ยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะสิ้นสุดกระบวนการทางยุติธรรม”
(http://www.prachatai.com/journal/2016/07/66776)
หากแต่ว่าพวกเจ้าหน้าที่ไม่ค่อยสำเหนียก ดีแต่ทำตามนายสั่ง แล้วก็สับสนไขว้เขว
ดังที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. โวยวายว่ามีรัฐธรรมนูญปลอม เพราะหน้าปกแบบเดียวกัน แต่เนื้อหาไม่เหมือนกัน ทั่นผู้เฒ่าอยู่นานเลยเหมาเอาว่า ‘บิดเบือน’
ครั้นนายปกรณ์ อารีกุล สมาชิกประชาธิปไตยใหม่ แย้งว่า “ในฐานะที่เคยแจกเอกสารดังกล่าวกับมือนายมีชัยเอง” เมื่อเดือนที่แล้ว “น่าจะตรวจสอบและมีความเห็นมาตั้งนานแล้ว
การที่ อ.มีชัย เพิ่งมามีความเห็นว่าเอกสารนี้มีการบิดเบือนในช่วงที่มีการจับกุมนักโทษประชามตินั้น จึงคิดว่าอาจารย์น่าจะออกมาเพื่อให้เป็นประเด็นทางการเมืองมากกว่า”
ส่วนข้อหามีทุนหนุนหลัง ดังประกาศชัดตลอดว่าเรามีเลขบัญชีให้บริจาคเข้ามา มีกล่องบริจาค “งบประมาณทั้งหลายมาจากการบริจาคของประชาชนที่เห็นด้วยกับเรา เรื่องนี้ตรวจสอบได้อยู่แล้ว”
“ถ้าแฟร์ ประชาชนลองคิดว่า เรา อย่างที่ผมบอก เอกสาร ผมว่าเราพิมพ์มาไม่น่าจะเกินหมื่นฉบับ โอเคอาจจะมีลิงค์ให้ดาวโหลดกันทั่วไป เสื้อน่าจะขายได้ไม่เกิน ๓,๐๐๐ ตัว กับรัฐบาลหรือ กรธ. กำลังจะมีเอกสาร ๑๗ ล้านฉบับ ที่จะใช้เครื่อมือของ กกต. แจกไปทั่วประเทศอีก ในเชิงของความแฟร์ มันไม่แฟร์อยู่แล้ว”
(http://www.prachatai.com/journal/2016/07/66786)
ขณะที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. “กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่เอกสารความเห็นแย้งสาระสำคัญร่างรัฐธรรมนูญ เล่มที่ ๒ ว่า ตนเห็นว่าเป็นเพียงเอกสารความเห็นแย้งที่นักศึกษากลุ่มหนึ่งทำขึ้นมา ไม่ถือว่าเป็นร่างรัฐธรรมนูญปลอม”
(http://www.matichon.co.th/news/205264)
นี่ไง องค์กรลิ่วล้อ คสช. พูดไม่ตรงกัน ลักลั่นจนเลอะ แค่นั้นไม่พอ โฆษก คสช. ออกมาแถอีกคน
อ้างว่าพบ “กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่มีความเชื่อมโยงกับนักเคลื่อนไหวหลายคน ที่เห็นชัดๆก็มีนายสมบัติ บุญงามอนงค์ บก.ลายจุด แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง...
การสนับสนุนกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ อาจจะไม่ใช่การให้เงินทองเพื่อรวมตัวเคลื่อนไหว อาจจะแฝงอยู่ในรูปแบบอื่น แต่ก็ถือว่าให้การสนับสนุนอยู่ดี”
(http://www.komchadluek.net/news/politic/233071)
พ.อ.วินธัย สุวารี ใช้เหตุผลง้ายง่าย “มีข้อมูลความเชื่อมโยงทางสังคม เช่น การนัดทานข้าว การถ่ายรูปโพสต์ลงเฟซบุ๊ค” ตายห่ หยั่งงี้ต้องโดนกันระนาวแล้วละ
พัลวันพัลละเก ทำท่าจะเละ เลยต้องอาศัยลิ่วล้ออีกราย คือ กรธ. ลูกน้องมีชัย ออกมาฟันม่านเอง
นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขานุการกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ แก้ต่างเรื่องมีร่าง รธน.ปลอม อีกว่า กรธ.และกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขณะนี้เข้าใจตรงกันแล้ว
“กรณีการดำเนินการเพื่อเอาผิดผู้ที่ทำร่างรัฐธรรมนูญปลอม ที่ จ.เชียงใหม่ และกรณีการบิดเบือนทางเฟซบุ๊กไลฟ์ของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.” กำลังรวบรวมหลักฐานเล่นงานอยู่
(http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=712154)
สรุปว่างานนี้ออกมา อย่างที่ Atukkit Sawangsuk บอก “ใครกันแน่ใช้วิชามาร ทั้งที่รู้แก่ใจ”