พูดตามสำนวนฝรั่งคงต้องบอกว่า “คุณยังไม่เห็นอะไรเลย” (You haven’t seen anything yet.) เกี่ยวกับ
ข้อมูลเศรษฐีคนไทยลูกค้าสำนักทนายปานามา ‘มอสแซ็ค ฟอนเซก้า’ ซ่อนเงินตามถิ่นปลอดภาษี อาทิ หมู่เกาะเวอร์จิ้น และเคย์แมน ซึ่งถูกเปิดโปงโดย ‘เอกสารปานามา’ ที่ว่ามีอยู่ ๒๑ คน
เพราะรายชื่อที่เปิดออกมาตามสื่อไทย ไม่ว่าเดลินิวส์ บางกอกโพสต์ ไทยพีบีเอส หรือกระทั่งสำนักข่าวอิศรา ซึ่งนัยว่าเป็นเครือข่ายของ ‘สื่อนานาชาติหุ้นส่วนนิเทศน์ศาสตร์สืบสวน’ (ICIJ) องค์กรที่สะสมข้อมูลทั้งหมดปริมาณ ๒.๖ เทราไบ๊ท์ ล้วนแต่เข้าใจผิดกันทั้งสิ้น
แท้จริง ‘ไอซีไอเจ’ ยังไม่ได้ทำการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดออกมาจนกว่าจะถึงเดือนพฤษภาคม อันจะทำให้เห็นข้อมูลเกี่ยวกับคนไทยได้ว่าเป็นใครบ้างและมูลค่าเท่าไหร่
แต่ที่นำมาเขียนถึงกัน ไม่ว่าจะเป็นเสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี และคุณหญิงวรรณา ภรรยา พี่น้องตระกูลจิราธิวัฒน์ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน นายยืนยง โอภากุล คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร์ นางเอมอร ศรีวัฒนประภา ตระกูลเจียรวนนท์ โชควัฒนา ศรีเฟื่องฟุ้ง พรประภา ทวีสิน และนวลแข ล้วนแต่มาจากข้อมูลเก่าจาก ‘ข้อมูลนอกฝั่งรั่ว’ หรือ ‘Offshore Leaks’ ซึ่งเปิดโปงโดยไอซีไอเจเช่นกัน ในปี ๒๕๕๖
ธีรนัย จารุวัสตร์ รายงานความผิดพลาดนี้ไว้ที่ ข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ (http://www.khaosodenglish.com/detail.php?newsid=1460013781) โดยมีเนื้อข่าวตอนหนึ่งระบุว่า พ,.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. พูดถึงเรื่องนี้ว่า “ดีแล้ว ถ้าคนเหล่านี้กระทำความผิดจริง เราจะเอาเข้าคุกกันหลายคนเชียวละ” (หมายเหตุ -นี่เป็นถอดความจากรายงานภาษาอังกฤษ)
ส่วนพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรียุติธรรมตอบนักข่าวว่า ข้อมูลเหล่านั้นเป็นข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับธุรกรรมการเงิน “ผมอยากให้ผู้สื่อข่าวเคารพสิทธิของคนเหล่านั้นและมองภาพในแง่ดี เพื่อความเป็นธรรม...
อย่าได้มองเป็นการคอรัปชั่นไปเสียหมด บางกรณีอาจเป็นการลงทุนระหว่างประเทศ”
ที่ซึ่งในความเป็นจริงของข้อมูลที่ถูกเปิดโปงบางส่วนเป็นการกระทำที่ไม่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ หรือแม้แต่กฎหมายภายในของหลายประเทศ หากแต่เป็น ‘ช่องโหว่’ ทางระเบียบกฎหมายที่มีความลักลั่นกันอยู่ ทำให้พวกมหาเศรษฐี ผู้นำประเทศ นักการเมือง รวมทั้งนักธุรกิจนอกกฎหมายใช้เลี่ยงภาษีและปกปิดทรัพย์สินของตนจากสาธารณะ
กระนั้นก็ดี ผลจากการเปิดโปงเอกสารปานามาในเบื้องต้นทำให้ทั่วโลกรับทราบว่าประธานาธิบดีวราดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียมีเครือข่ายคนใกล้ชิดกับพวกพ้องทางการเมือง ทำธุรกรรมการเงินเลี่ยงกฎหมาย ฟอกเงินและซ่อนเงินไว้นอกฝั่งถึง ๒ พันล้านดอลลาร์ นายกรัฐมนตรีไอ๊ซ์แลนด์ซึ่งปรากฏชื่อเป็นลูกค้าของมอสแซ็ค ฟอนเซก้า ถูกประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงจนต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งไปแล้ว
การเปิดโปงข้อมูลเอกสารปานามาครั้งนี้นับว่ายิ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์สำหรับ ‘ความโปร่งใสสาธารณะ’ เป็นผลงานชิ้นเอกทางสื่อมวลชนสากล ซึ่งมิใช่เพียงฝีมือคนเก่งกล้าไม่กี่คนเช่นที่เป็นมานับแต่ เอกสารเพ็นตากอนโดยแดเนียล เอลสเบิร์ก วอเตอร์เกตโดยคาร์ล เบิร์นสไตน์กับบ็อบ วู้ดเวิร์ด วิกิลี้คโดยเดเนียล แอสแซง และเอกสารความมั่นคงสหรัฐโดยเอ็ดเวิร์ด สโนว์เด็น คราวนี้เป็นการประสานของนักหนังสือพิมพ์และนักกิจกรรมต่างเชื้อชาติและภาษานับร้อยทั่วโลก โดยมีไอซีไอเจเป็นตัวกลางสำคัญ
ดังที่แอนดี้ กรีนเบิร์ก รายงานไว้ในนิตยสารออนไลน์ ‘ไวรด์’ ว่ากระบวนการเปิดโปงเอกสารปานามาเริ่มเมื่อปี ๒๕๕๗ หลังจากที่แฮ็คเกอร์ผู้ใช้นาม ‘จอห์น โด’ ติดต่อไปยังหนังสือพิมพ์ซุดด๊อยซ์ซี้ทตุง โดยมีนักข่าวชื่อแบสเชี่ยน โอเบอร์มายเออร์ เป็นคนรับข้อมูลด้วยการติดต่อระหว่างกันผ่านทางระบบแช้ทปกปิด (encrypted chat)
(http://www.wired.com/…/reporters-pulled-off-panama-papers-…/)
ทั้งสองสื่อสารติดต่อกันโดยต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่าตัวจริงเป็นใคร โดยใช้รหัสลับที่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ เพื่อไม่ให้มีการทิ้งร่องรอยใดๆ แต่แต่ข้อมูลที่คุย ‘แช้ท’ ก็จะลบทิ้งทุกครั้ง
หลังจากได้รับข้อมูลจำนวนหนึ่งแล้ว ‘ซุดด๊อยซ์ซี้ทตุง’ ก็เริ่มติดต่อเพื่อประสานกับไอซีไอเจที่เปิดโปงเครือข่ายซ่อนเงินหนีภาษีที่เรียกว่า ‘ออฟชอร์ลี้ค’ ไว้เมื่อปี ๒๕๕๖ และประสานงานกันทั่วโลกไซเบอร์ในระบบปกปิด ทั้งกับสำนักข่าว เช่น บีบีซี เดอะการ์เดียน และฟิวชั่น และเครือข่ายนักกิจกรรมนานาชาติ เช่น เดอะอินเตอร์เซ็ป
สำนักข่าวแต่ละแห่งจะนำข้อมูลไปวิจัยและตีความ เช่นเดียวกับที่ไอซีไอเจประสานในทางลับกับเครือข่ายกิจกรรมไซเบอร์เสรีเพื่อที่สามารถแปลเนื้อหาข้อมูลส่วนที่เป็นภาษาสเปน และที่เกี่ยวกับหน่วยงานการเงินท้องถิ่นปานามาออกมาได้
จนเมื่อการส่งมอบข้อมูล (ด้วยระบบส่งไฟล์ขนาดยักษ์ที่ผู้เกี่ยวข้องไม่ยอมเปิดเผย) ได้ถึง ๑๑.๕ ล้านชิ้นแล้ว ผู้ร่วมงานทุกส่วนจึงเริ่มเปิดโปงบทวิจัยและรายงานเกี่ยวกับข้อมูลออกมาอย่างพร้อมเพรียงตั้งแต่วันที่ ๔ เมษายน โดยที่ข้อมูลดิบตัวจริงทั้งหมดยังไม่มีการปล่อยออกมาจนกว่าจะถึงเดือนพฤษภาคมนี้