ที่มา มติชนออนไลน์
25 เม.ย. 59
จนท.เชิญ เบญจรัตน์ แซ่ฉั่ว นักวิชาการจาก ม.มหิดล ไป สน.ปทุมวัน หลังแจกเอกสารรณรงค์โหวตโนร่าง รธน.
วันที่ 25 เมษายน ทวิตเตอร์ของ iLaw รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว อ.เบญจรัตน์ แซ่ฉั่ว นักวิชาการจากสถาบันสิทธิมนุษยชนศึกษาและการพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ไป สน.ปทุมวัน หลังพบมีการแจกเอกสารรณรงค์โหวตโนร่าง รธน.นอกจากนี้ ยังยึดเอกสารที่นำมาแจกด้วย โดยเป็นเอกสารชวนโหวตโน ของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่
มีรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากงานถกแถลง “คำถามพ่วงท้ายมีนัยอย่างไร” ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ายึดเอกสาร 7 เหตุผลไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และเตรียมเชิญตัว เบญจรัตน์ แซ่ฉั่ว อาจารย์ประจำสถาบันสิทธิฯ มหาวิทยาลัยมหิดล ไปยัง สน.ปทุมวัน โดยแจ้งว่า ต้องการพูดคุยด้วย แต่เมื่อผู้สื่อข่าว และผู้ร่วมงาน เข้าไปดูเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ได้เปลี่ยนใจจากการขอเชิญตัว เป็นขอนามบัตรแทน เพื่อที่จะติดต่อเพื่อเรียกไปคุยวันอื่น
ทั้งนี้ เบญจรัตน์ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมถกแถลงในงานที่จัดขึ้น โดยประเด็นหลักที่เธอกล่าวถึงวันนี้คือ การเรียกร้องให้เปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายได้แสดงความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญได้อย่างอิสระ โดยไม่ตกอยู่ภายใต้การปิดกั้นจากผู้มีอำนาจ
โดยพ.ต.ท.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ รองผกก.สส.สน.ปทุมวัน กล่าวว่า เมื่อเวลา 14.00 น. มีการเสวนา ที่บริเวณห้องเสวนาคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายหลังการเสวนา เวลาประมาณ 16.00 น. นางเบญจรัตน์ ยืนอยู่บริเวณหน้าห้อง และแจกเอกสารมีเนื้อหา7ประการในการโหวตโนร่างรัฐธรรมนูญ เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ปทุมวันและเจ้าหน้าที่ทหารจึง เข้าไปพูดคุยและขอให้ยุติพฤติกรรมดังกล่าว ทั้งนี้ขอยืนยันว่าไม่มีการเชิญตัว นางเบญจรัตน์มาที่สน.ปทุมวันแต่อย่างใด
ต่อมาเวลา 18.00 น. ร.ท.วินัย พลอยนุช รองผบ.ชุดปฎิบัติการพื้นที่ 1 กองพันทหารม้า ที 1 รักษาพระองต์ เข้าพบ ร.ต.อ.พิชัย คำพุด รองสว.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน เพื่อขอลงบันทึกประจำวัน โดยนำแผ่นพับ VOTE NO ” 7 เหตุผล ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 7 สิงหาคม 59 ประชามติเพื่ออนาคต ” มาส่งมอบให้เจ้าหน้าที่เพื่อเป็นหลักฐาน
ร.ท.วินัย กล่าวว่า เมื่อเวลา 13.00 น.นำกำลังมาดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณอาคารคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เนื่องจากมีการเสวนา “คำถาม พ่วงท้ายมีนัยอะไร ” เป็นการเสวนาเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ เหตุการณ์ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย กระทั่งเวลา ประมาณ 16.00 น. นางเบญจรัตน์ มาเดินแจกแผ่นพับโหวตโน บริเวณหน้าห้องประชุม จึงได้เจรจาพร้อมเชิญตัวมาพูดคุยไม่ให้แจกเอกสารแผ่นพับดังกล่าว เนื่องจากเนื้อหาในแผ่นพับเป็นเหมือนการชี้นำ อย่างไรก็ตามเกรงว่าจะเกิดความวุ่นวายจึงได้ขอนามบัตรพร้อมยึดเอกสารเข้าลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน โดยจะนำเอกสารแผ่นพับส่งให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบเนื้อหาในแผ่นพับดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง หากพบว่าผิดกฎหมายจะมาแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
.....
ตำรวจขอชื่อและเบอร์โทรศัพท์ อ.เบญจรัตน์ แซ่ฉั่ว หลังแจกเอกสารคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ #Nationtv pic.twitter.com/NaxldaVO5S— thanyawat⊿ (@IPD_THANN) April 25, 2016
อันนี้เหี้ยมาก ทีทหารบังคับเด็กใส่ชุดรด.ไปแจกเอกสารให้รับร่างรัฐธรรมนูญ ก็ต้องไปจับด้วยสิ มีหน้ามาบอกว่าไม่ได้ชี้นำ แค่ใส่ชุดทหารไป มันก็ชี้นำแล้วล่ะ ไม่งั้นก็ให้คนใส่เสื้อสีอื่นไปแจกบ้างดิ
มิตรสหายท่านหนึ่ง
....
Update ล่าสุด...
จาก
Update ล่าสุด...
จาก
ขอบคุณมากค่ะสำหรับการถามไถ่ข่าวคราวหน้าไมค์และหลังไมค์ และโดยเฉพาะคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุด้วยกัน Ngamsuk Rattanasatain Achara Ashayagachat Bain Saisaeng Pathomporn Ihrp
ตกลงไม่ได้ถูกพาตัวไปสน.นะคะ ทนาย Ann Paw ช่วยคุยกับเจ้าหน้าที่และยืนยันว่าถ้าไม่ได้กระทำผิดและถ้าไม่มีเอกสารเรียกตัวเป็นลายลักษณ์อักษรก็ไม่ต้องไป (ถามตำรวจว่าเราทำอะไรผิด เขาก็บอกว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่อยากให้ไปคุยที่สน.)
พ.ร.บ. ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 รับรองว่า "บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเผยแพร่ความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงโดยสุจริตและไม่ขัดต่อกฎหมาย" การแจกแผ่นพับเหตุผลที่ไม่ควรรับร่างรธน.ไปสามสี่แผ่น ก็คงไม่ใช่ความผิดต้องห้ามตามมาตรา 61(3) ที่ห้ามการ "หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ หรือใช้อิทธิพลคุกคาม เพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง หรือออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ออกเสียง" แน่ๆ
อีกหลายเดือนก่อนประชามติจะอยู่กันอย่างไร ถ้าประชาชนไม่มีสิทธิพูดคุยแลกเปลี่ยนกันถึงเนื้อหาในร่างรธน. แล้วจะเรียกว่าเป็น "ประชา"มติ ได้อย่างไร
ตกลงไม่ได้ถูกพาตัวไปสน.นะคะ ทนาย Ann Paw ช่วยคุยกับเจ้าหน้าที่และยืนยันว่าถ้าไม่ได้กระทำผิดและถ้าไม่มีเอกสารเรียกตัวเป็นลายลักษณ์อักษรก็ไม่ต้องไป (ถามตำรวจว่าเราทำอะไรผิด เขาก็บอกว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่อยากให้ไปคุยที่สน.)
พ.ร.บ. ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 รับรองว่า "บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเผยแพร่ความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงโดยสุจริตและไม่ขัดต่อกฎหมาย" การแจกแผ่นพับเหตุผลที่ไม่ควรรับร่างรธน.ไปสามสี่แผ่น ก็คงไม่ใช่ความผิดต้องห้ามตามมาตรา 61(3) ที่ห้ามการ "หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ หรือใช้อิทธิพลคุกคาม เพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง หรือออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ออกเสียง" แน่ๆ
อีกหลายเดือนก่อนประชามติจะอยู่กันอย่างไร ถ้าประชาชนไม่มีสิทธิพูดคุยแลกเปลี่ยนกันถึงเนื้อหาในร่างรธน. แล้วจะเรียกว่าเป็น "ประชา"มติ ได้อย่างไร