.jpg)
https://www.facebook.com/jom.petchpradab/videos/10154067677048965/
ควบคุมตัว วัฒนา เมืองสุข วันนี้มีพิลึกพิลั่นเชียวละ
https://www.facebook.com/jom.petchpradab/videos/10154067677048965/
ดังที่ผู้มี inquiring mind ทั้งหลายซึ่งติดตามข่าวนายวัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ทาง คสช. อ้างว่าผิดคำมั่นห้ามวิจารณ์รัฐธรรมนูญ วิจารณ์ คสช. อันทำให้ความมั่นคงชาติสั่นสะเทือน
มันสะเทือนตอนนี้แหละ ตอนที่จับเขาไปปรับทัศนคติสามสี่หน ด้วยกลเม็ดบิดเบือนกล่าวหา "ผิดสัญญา ไม่ใช่ลูกผู้ชาย"
วัฒนามาให้จับตามนัดหมาย วันจันทร์ที่ ๑๘ เมษายน เวลา ๑๑.๐๐ น. ที่บ้านของเขาแถวศรีนครินทร์ แต่ทหารเปลี่ยนใจขอย้ายให้ไปมอบตัวที่ มทบ. ๑๑ แทน
พอไปถึงทหารพยายามจะรุมทึ้งกันใหญ่ นายวัฒนาขอเวลา ๑ นาทีไปพบเจ้าหน้าที่สหประชาชาติที่รออยู่พร้อมกับนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย
แรกทหารก็จะไม่ให้แม้แต่หนึ่งนาที คราวนี้ต่อคำกันสักพักจึงยอม จากนั้นจึงนำตัวเข้าค่าย ระหว่างดึงแขนพาเดินเข้าไป นายวัฒนาก็ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไม่หยุด
ประเด็นสำคัญอยู่ที่การมาพบ คสช. ครั้งนี้ไม่ใช่ได้ทำผิดอะไร จะเข้าไปพบเพื่อชี้แจงว่าข้อกล่าวหาเหลวไหล เสร็จแล้วควรต้องออกมาภายในเวลาบ่ายสามโมง
ไม่งั้นเป็นอันว่า คสช. ขืนใจ เอาตัวไปควบคุมอีกเป็นครั้งที่สาม (ชมคลิปจาก ฟ้ารุ่ง ศรีขาว)
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=580450075453410&id=300084093490011
แต่ว่าก่อนจะเดินทางไป มทบ. ๑๑ นายวัฒนาได้โพสต์เฟชบุ๊คถึงการไปพบ คสช. วันนี้ว่า
“ผมจะบอกอะไรให้นะ จะเอาผมไปปรับทัศนคติอีกกี่ครั้งผมก็ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้”
และ “การออกเสียงประชามติบนมาตรการปิดกั้นเฉพาะฝ่ายที่คัดค้านดังที่กำลังเกิดขึ้นกับผม หรือการไม่ให้ข้อมูลที่ครบถ้วนแก่ประชาชน จะทำให้การออกเสียงประชามติไม่ได้รับการยอมรับในที่สุด ผมจึงเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายได้แสดงความเห็นและให้ข้อมูลอย่างครบถ้วนแก่ประชาชน
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ กรธ. ถูกหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีเนื้อหาไม่เป็นประชาธิปไตย จนทำให้ประชาชนทราบข้อมูลดังกล่าวเป็นอย่างดีแล้ว ดังนั้น หากไม่ผ่านการออกเสียงประชามติคือการส่งสัญญาณว่า ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยไม่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาแบบดังกล่าวอีกต่อไป”
(https://www.facebook.com/WatanaMuangsook/photos/a.684324191703113.1073741828.684312115037654/739681252834073/?type=3&theater)
เหตุผลง่ายๆ เข้าใจได้ไม่ยาก หากแต่ทหาร คสช. คงจะไม่ get ยอมเข้าใจ
ห่างออกไปกันคนละซีกโลก ชาวไทยในนครลอส แองเจลีส นัดพบกัน “เกิน ๕ คน” เพื่อทำกิจกรรมรดน้ำสงกรานต์แก่อาคันตุกะผู้มาเยือนจากฝรั่งเศส มิตรร่วมรบต้านเผด็จการ ดร.จรัล ดิษฐาอภิชัย
เสร็จแล้วเลยทำพิธีเผาพริกเผาเกลือไล่จัญไร ศัตรูประชาธิปไตย และเผด็จการที่ล้างบ้านผลาญเมืองกัน
แถมด้วย การอ่านถ้อยแถลงร่วมกัน ประกาศยืนเคียงข้างนายวัฒนา ต่อสู้กับการข่มเหงกดดันที่เขาถูก คสช. กระทำ
ooo
ที่มา ประชาไท
18 เม.ย.2559 ก่อน 11.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่นายวัฒนา เมืองสุข ประกาศทางเฟซบุ๊กว่าเขาจะมารายงานตัวตามการติดต่อจาก คสช. นักข่าวจากหลากหลายสำนักและผู้สังเกตการณ์จากองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ตัวแทนทูตานุทูตหลายประเทศได้เดินทางมารออยู่หน้ามณฑลทหารบกที่ 11 เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ นายวัฒนาซึ่งเป็นนักการเมืองที่ถูกปรับทัศนคติรวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แจ้งทางเฟซบุ๊กเมื่อราว 10.30 น.ว่า คสช.ได้เปลี่ยนแผนจากเดิมที่จะไปรับตัวเขาที่บ้าน เป็นการให้เขาเดินทางมาพบเอง ซึ่งแม้เขาจะมั่นใจว่าไม่ได้กระทำการสิ่งใดผิดก็ต้องมารายงานตัวเนื่องจากเกรงว่าจะโดนแจ้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งไม่รายงานตัว
"ผมจึงขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า ผมมาพบ คสช. ตามคำสั่งที่ให้ผมมารายงานตัวที่ มทบ. 11 แต่ คสช. ไม่มีอำนาจที่จะควบคุมตัวผมไว้ ไม่ว่าเพื่อการใดทั้งสิ้น หากภายใน 15.00 น. ของวันนี้ ผมยังไม่ออกมาคือการที่ คสช. กำลังใช้อำนาจโดยไม่ชอบกักขังหน่วงเหนี่ยวผมไว้ ทำให้ผมขาดอิสรภาพ ซึ่งผมจะดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้องอย่างถึงที่สุด ผมเรียนยืนยันอีกครั้งว่าผมไม่ได้ทำอะไรที่เป็นความผิด และจะ "ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ" อย่างแน่นอน" วัฒนาโพสต์เฟซบุ๊ก
เวลาประมาณ 11.00 น. นายวัฒนาเดินทางมาถึงหน้า มทบ.11 ได้เดินเข้าไปยังสโมสรซึ่งเป็นร้านอาหารก่อน เพื่อพูดคุยกับนายจาตุรนต์ ฉายแสง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และตัวแทนจากสถานทูตนอร์เวย์ แคนาดา สวิสเซอร์แลนด์ เป็นที่น่าสังเกตว่า เพจ Wattana Muengsuk ได้ใช้ฟังก์ชั่นล่าสุดของเฟซบุ๊ก โดยทำการถ่ายทอดสดในช่วงเวลาดังกล่าวไว้โดยตลอดด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารได้เข้ามาแจ้งให้วัฒนาเดินทางเข้าไปในมทบ.11 ในทันที แต่วัฒนายืนยันจะขอคุยกับกลุ่มคนดังกล่าวก่อน 5 นาที จากนั้นจึงเดินเข้าไปในมทบ.11 และขึ้นรถตู้เข้าไปด้านในพร้อมเจ้าหน้าที่ทหารที่ประกบอยู่นับสิบนาย
ก่อนการรายงานตัวดังกล่าว นายวัฒนายังได้โพสต์ข้อความในเพจระบุว่าประชาชนเจ้าของอำนาจจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าจะรับร่างรัฐธรรมนูญนี้หรือไม่ และไม่ว่าจะปรับทัศนคติเขากี่ครั้งเขาก็ยืนยันจะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับบนี้
"โพสต์สุดท้ายก่อนเข้าค่าย"
(อีกครั้งหนึ่ง)
ผมกำลังเดินทางกลับบ้านเพื่อไปพบ คสช. ที่จะมาควบคุมตัวผมเนื่องจากการที่ผมโพสต์ความเห็นผ่านเฟซบุ๊คว่า "ผมก็ไม่รับรัฐธรรมนูญ" ซึ่งผมก็ยังยืนยันว่าผมมีสิทธิจะแสดงความคิดเห็นดังกล่าวเพราะการแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน สหประชาชาติจึงบัญญัติรับรองสิทธิดังกล่าวไว้ในข้อ 19 แห่ง "ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน" ซึ่งประเทศไทยได้ให้คำรับรองไว้ตั้งแต่ ค.ศ. 1948 อันถือเป็นพันธกรณีระหว่างประเทศที่ไทยเราต้องปฏิบัติตาม ทั้งนี้เป็นไปตามมาตรา 4 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ คสช. เป็นผู้ขอพระราชทานมาบังคับใช้เอง
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ กรธ. กำลังจะนำไปให้ประชาชนออกเสียงประชามติ ทุกฝ่ายจึงต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ว่ากระบวนการประชามติได้เปิดกว้างให้ทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่แล้ว รวมทั้งประชาชนทราบข้อมูลสำคัญคือหากผลประชามติไม่ผ่านรัฐบาลจะดำเนินการต่อไปอย่างไร การออกเสียงประชามติบนมาตรการปิดกั้นเฉพาะฝ่ายที่คัดค้านดังที่กำลังเกิดขึ้นกับผม หรือการไม่ให้ข้อมูลที่ครบถ้วนแก่ประชาชน จะทำให้การออกเสียงประชามติไม่ได้รับการยอมรับในที่สุด ผมจึงเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายได้แสดงความเห็นและให้ข้อมูลอย่างครบถ้วนแก่ประชาชน
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ กรธ. ถูกหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีเนื้อหาไม่เป็นประชาธิปไตย จนทำให้ประชาชนทราบข้อมูลดังกล่าวเป็นอย่างดีแล้ว ดังนั้น หากไม่ผ่านการออกเสียงประชามติคือการส่งสัญญาณว่า ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยไม่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาแบบดังกล่าวอีกต่อไป ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องตระหนักในการแสดงเจตนารมณ์ดังกล่าว การดำเนินการต่อไปจะต้องสอดคล้องกับความต้องการของเจ้าของอำนาจ ด้วยการให้เจ้าของอำนาจเป็นผู้กำหนดกติกาทางการเมืองด้วยตนเอง เชื่อผมเถิดว่าคนไทยมีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะเลือกวิถีทางทางการเมืองของตนเองได้โดยไม่ต้องให้ใครมาชี้นำอีก เลิกดูถูกประชาชนว่าไม่มีความรู้ความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยได้แล้ว
ผมจะบอกอะไรให้นะ "จะเอาผมไปปรับทัศนคติอีกกี่ครั้งผมก็ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้"
วัฒนา เมืองสุข
พรรคเพื่อไทย
18 เมษายน 2559
