การท่องเที่ยวไทยสำหรับคนอังกฤษ สงสัยจะต้องปิดตายตอน คสช. จะได้อยู่ยาวนี่ละ
เมื่อไม่นาน ในยุค คสช.ครองเมืองนี่แหละ สวรรค์ของนักท่องเที่ยวฝรั่งหนุ่มสาว ‘เกาะเต่า’ กลายเป็น ‘นรก’ ไป เมื่อสองแบ็คแพ็คชาวอังกฤษถูกฆ่าสยอง โดยมีอิทธิพลท้องถิ่นพัวพัน ทางการไทยเลยจับแพะตัดสินประหารชีวิตสองหม่อง ทั้งๆ ที่ญาติของผู้ตายรายหนึ่งไม่เชื่อว่าเป็นคนร้ายจริง
มาวันนี้สื่อในอังกฤษ (อย่างน้อย ๕ แห่ง) รายงานความริยำของคนท้องที่แหล่งท่องเที่ยวดังอีกแห่งของไทย ‘หัวหิน’ เป็นถิ่นสัญญานอันตรายไปแล้ว ไม่ใช่ถิ่นสัญญาอย่างเพลงว่า
เมื่อปรากฏข้อความภาษาไทยบนหน้าทวิตเตอร์ของ Richard Barrow @RichardBarrow ตากล้องฝรั่ง expat ครูสอนอังกฤษ นักถ่ายภาพและเขียนถึงสถานที่ท่องเที่ยวไทยมานานราว ๒๐ ปี เป็นที่ชื่นชมของคนไทยจำนวนมาก
“หัวหิน เคยเป็นสถานที่ ๆ ชาวต่างชาติวัยเกษียณมาพักอาศัยอยู่..ถ้าเป็นแบบนี้ คงไม่มีใครมาแล้วแน่ ๆ”
https://www.youtube.com/watch?v=VjyArvoCCFI&feature=youtu.be
ภาพวิดีโอเห็นชัด จู่ๆ ขี้เมาไทยก็ปราดเข้าไปต่อยฝรั่งหงายหลังทั้งยืน หลังจากนั้นมีพวกพ้องที่เมาแล้วพาลด้วยกันมาช่วยต่อยตีฝรั่งสูงอายุคนอื่นๆ ในกลุ่ม ซ้ำแล้วซ้ำอีกกลางย่านผู้คนขวักไขว่ในตลาดหัวหิน จนท้ายสุดสลบเหมือดไปสามคนบนทางเท้า
จากเหตุการณ์นี้ Richard Barrow @RichardBarrow ระเบิดเป็นลายลักษณ์อักษรออกมาว่า “ In protest against the Thai media's disinterest in the brutal attack on tourists in Hua Hin, I will NOT be promoting #Thailand today.”
เรื่องทำนองนี้อาจเป็นธรรมดาของท้องที่ใดท้องที่หนึ่งในประเทศไทย ที่คนเมาในที่สาธารณะเกิดหมั่นไส้ต่างชาติขึ้นมา แล้วเข้าไปทำร้ายเอาดื้อๆ ดังปรากฏในคลิป แต่เหตุเกิดในชุมชนเป็นเวลานานพักใหญ่ ไม่มีใครเข้าขัดขวาง ไม่มีตำรวจ ทหารท้องที่โผล่ไปรักษาความสงบสักคน
นี่สิไม่ใช่ธรรมดาของบ้านเมืองที่อ้างว่า การยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทำให้ระงับความรุนแรงได้อย่างราบคาบ หนำซ้ำเหตุเกิดในที่ชุมชนขวักไขว่อย่างนี้ไม่มีข่าวแพร่งพรายออกมาเลยในสื่อไทย จนกระทั่งไปปูดทั่วอังกฤษนั่นแหละ สื่อไทยถึงได้เริ่มขยับก้นกัน
คุณบาร์โรว์แฉไว้จะเอาข่าวจากอังกฤษแหล่งไหนล่ะ มีทั้งนั้น อาทิ
http://www.telegraph.co.uk/…/video-british-family-brutally…/ …
thesun.co.uk/…/Shocking-moment-man-is-knocked-out-cold-and-… …
dailystar.co.uk/…/British-family-beaten-Thailand-gang-horri… …
http://www.express.co.uk/…/WATCH-Horrifying-British-tourist… …
dailymail.co.uk/…/Terrifying-moment-British-couple-son-beat… …
ล่าสุด Khaosod English @KhaosodEnglish รายงานว่า “Three Arrested Over Brutal Beating of British Family http://www.khaosodenglish.com/detail.php?newsid=1461818416 …”
สายไปนิดหลังจากข่าวกระฉ่อนทั่ว United Kingdom แล้วเพิ่งมีการจับกุม ซ้ำเหตุเกิดในท้องที่ชายทะเลเลื่องชื่อ ซึ่งทั่นผู้นัมบ์เคยนำบริวารไปเดินทักทายนักท่องเที่ยวต่างชาติฮอลแลนด์ชวนให้ “คัม คัม ทู ไทยแลนด์” ยังจำกันได้ดิ
เพียงแต่เวลานี้ตะหานและตำหวดของทั่นผู้นัมบ์มัวแต่สาละวนกับการ ‘อุ้ม’ พวกนักศึกษาเห็นต่างร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ คสช. ยัดบทเฉพาะกาลไว้ครอบหมดชนิดไม่ต้องมีตัว รธน.ยังได้
จากทวี้ตของ Jonathan Head @pakhead ทราบว่ามีนักศึกษาถูกควบคุมตัวทั้งหมด ๒๔ คน ๑๐ คนถูกอุ่มจากบ้านต่างสถานที่กันทั้งในกรุงเทพฯและขอนแก่น อีก ๑๔ คนถูกรวบตัวขณะพากันไปยืนนิ่งประท้วงการอุ้มสิบคนแรก ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ต่อมา ๑๓ คนได้รับการปล่อยตัวในกรุงเทพฯ สี่คนถูกอายัดตัวไว้ดำเนินคดี อีกสองคนถูกนำตัวจากขอนแก่นเข้าค่ายทหารในกรุงเทพฯ โดยที่ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. เผยว่า “จนท.ตามพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดีย ๑๐ คน (ที่ถูกอุ้มคืนก่อนและตอนเช้า) มาโดยตลอด พร้อมทั้งมีหลักฐานที่สมบูรณ์ในการเอาผิดทางคดีได้”
ส่วน “ฝ่าย กม. คสช. ระบุ ๙ คนที่คุมตัวมาเมื่อวาน (๒๗ เม.ย.) คือ ๘ คนที่คุมตัวในกทม.- ๑ คนจากขอนแก่น ฐานความผิด ม.๑๑๖ ฐานยุยงปลุกปั่น และ พ.ร.บ.คอมฯ #PPTVHD36”
พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ที่เพิ่งแก้ใหม่ เพิ่มระวางโทษเป็น ๒๐ ปีจองจำ นั่นไง
ทั้งหมดทั้งมวลเกิดขณะทั่นผู้นัมบ์ ไปเยี่ยมเยียนโครงการหลวงที่แม่เหียะอยู่พอดี กลับมาบอกนักข่าว “ไม่มีคอมเม้นต์” ใดๆ ทั้งสิ้น จะเรื่องหัวหิน ขอนแก่น หรืออนุสาวรีย์ชัยฯ แต่กับ Deep Blue Sea @WassanaNanuam ทั่นแย้มว่า
“ค้นพบแล้ว ‘กับดักตัวเอง’ คืออะไร..ลั่นจะไม่ติดกับดักตัวเองอีกแล้ว จะไม่ตอบโต้ใคร ไม่พูดการเมือง พูดแต่สร้างสรรค์”
อนุโมทนา สาธุ Amen เอวัง.
.....
British family brutally assaulted in Hua Hin, Thailand
https://www.youtube.com/watch?v=VjyArvoCCFI&feature=youtu.be
thaivisacom
Published on Apr 27, 2016
Police in Thailand are asking for help in identifying a group of youths who carried out a quite brutal assault on a family of British tourists.
Full story: http://www.thaivisa.com/forum/topic/9...