วันอาทิตย์, เมษายน 24, 2559
RED USA เขียนถึง “นายฉุนเฉียว” กับการลงประชามติ วันที่ 7 สิงหาคม 2559
ที่มา http://www.heyha-asean.com/forums/topic/red-usa-เขียนถึง-ปายุด-ได้ดีม/
Red USA
ถึงแม้ราชกิจจานุเบกษา
กำหนด 7 สิงหา เป็นวันลงประชามติ
ให้ประชาชนออกเสียงว่าจะ “รับหรือไม่รับ” ร่าง รธน “ฉบับมีชัย”
แต่ “นายฉุนเฉียว”
กลับออกอาการกร่าง “พองตัวในอำนาจ”
ส่งเสียงกร้าวว่าถ้ายังมีความวุ่นวายจะไม่ให้ลงประชามติ
http://m.posttoday.com/politic/427646…
อาการกร้าวของ “นายฉุนเฉียว”
เป็นการ “ยกตนใหญ่เกินความเป็นจริง” โดยคิดไปว่าวาทะแห่งตนเป็นกฎหมายอันศักดิ์สิทธิ์ สามารถหักล้างคำประกาศในราชกิจจาเบกษาสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ตามอารมณ์อันแปรปรวนแห่งตน
พร้อมสำทับด้วยโทษจำคุก 10 ปี
หากผู้ใดฝ่าฝืนรณรงค์เรื่อง “ร่าง รธน” ฉบับมีชัย
ไม่ว่าจะรณรงค์ให้ “Vote Yes” หรือประชาสัมพันธ์ให้ ” Vote No”
ก่อนการร่างและการประกาศใช้ พรบ.ว่าด้วยการลงประชามติด้วยซ้ำ
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/P…/034/1.PDF
โดยไม่กริ่งเกรงว่าจะเกิดเหตุการ “วันเสียงปืนแตก” อย่างในอดีตที่ผ่านมาเมื่อ 50 ปีก่อน ในวันที่ 7 สิงหาคม 2508 ที่บ้านนาบัว ตำบลโคกหินแฮ่ อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม
ความโง่เขลาของ “นายฉุนเฉียว” AKA (as known as) ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกเสียงฮือฮาจากคอการเมืองได้ไม่ว่างเว้น ก่อให้เกิดความสมเพชในระหว่างประชาชนว่าทำไม “นายฉุนเฉียว” จึงแสดงความโง่เขลาและไร้สาระอย่างเด็กไร้เดียงสาได้เสมอต้นเสมอปลายไม่มีวุฒิภาวะของผู้นำให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
ส่งผลให้ “ความกลัวและความกริ่งเกรง”
ในอำนาจของ “นายฉุนเฉียว” ที่ท่วมท้นล้นฟ้าในระยะแรกๆลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ประชาชนเริ่มไม่กลัวอำนาจของ คสช. และไม่หวาดหวั่นต่อคำสั่งตาม ม.44 ของ “นายฉุนเฉียว” เพิ่มมากขึ้น
วัฒนา เมืองสุข อดีต สส. และรัฐมนตรีแห่งพรรคเพื่อไทย, ฟอร์ด เส้นทางสีแดงและเพื่อน, จ่านิว ทนายอานนท์ นำภาและคณะจากกลุ่มพลเมืองโต้กลับ รวมทั้งนักศึกษาจากกลุ่มประชาธิปไตยใหม่เป็นอาธิ ได้แสดงให้ประจักษ์ว่าไม่เคยกริ่งเกรงต่ออำนาจที่ได้มาอย่างไม่ชอบธรรมของ “นายฉุนเฉียว” และยิ่งวันประชาชนก็ยิ่งออกมาท้าทายอำนาจของ “นายฉุนเฉียว” มากขึ้นเรื่อยๆเพราะรู้ว่า “นายฉุนเฉียว” ไม่มีอำนาจจริง เป็นเพียงหุ่นเชิดเท่านั้น
ประชาชนทั่วไปเอื้อมระอาต่อพฤติกรรมของ “นายฉุนเฉียว” ทำให้ “นายฉุนเฉียว” ต้องออกมาโอดครวญว่า ทำไมประชาชนจึง กดไลท์ให้งานประชาสัมพันธ์และผลงานของรัฐบาล คสช น้อยมากจนน่าอดสู สู้จำนวนกดไลท์ของ “เน วัดดาว” ไม่ได้
คือมีคนกดไล้ท์ให้ผลงานและการประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลและรายการคืนความสุขให้ประชาชนของ “นายฉุนเฉียว” เพียงไม่กี่ไล้ท์ในขณะที่มีผู้กดไล้ท์ให้ “เน วัดดาว” เป็นล้าน
จึงขอบอก “นายฉุนเฉียว” ไว้ตรงนี้ด้วยความหวังดีว่าเรื่องนี้อย่านำไปเปรียบเทียบกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเป็นอันขาด “ถ้าไม่อยากผิดหวังจนหัวใจหยุดเต้น” เพราะเธอคือเจ้าของฉายา “ยิ่งลักษณ์ 5 ล้านไล้ท์” ที่จำนวนคนกดไล้ท์ยังเพิ่มขึ้นทุกวันอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง
มีคำถามถึง “นายฉุนเฉียว”
เป็นคำถามที่อยากให้คนในสังคมนำไปขยายต่ออย่างกว้างขวาง ว่า…ทำไม….และทำไม…..
ว่า “นายฉุนเฉียว” ทำไมจึงเลือน
วันลงประชามติที่เคยกำหนดไว้ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2559 มาเป็นวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ทั้งๆที่วันที่ 7 สิงหาคมเมื่อ 50 ปีก่อนเป็นวันแรกที่สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยจับอาวุธขึ้นต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการทหารไทย จนกลายเป็นตำนานเล่าขานว่าเป็น “วันเสียงปืนแตก”
ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย(ผรท) ที่รัฐบาลยอมรับให้กลับมาใช้ชีวิตตามปรกติตามนโยบายการเมืองนำการทหารด้วยประกาศ 66/23 ยังร่วมรำลึกถึงการจับอาวุธขึ้นสู้กับรัฐบาลไทยในอดีตกันเป็นประจำเกือบทุกปีในวันที่ 7 สิงหาคม
คำบอกเล่าที่พูดกันหนาหูว่า “นายฉุนเฉียว” และคณะฝักใฝ่ในเรื่องของหมอดูและไสยศาสตร์น่าจะมีส่วนจริงอยู่ไม่น้อย พลันที่โหรวรินทร์ให้คำนิยามใหม่ของวันที่ 7 สิงหาคมว่าเป็นวันมหาฤกษ์
เหมาะกับการกระทำการปราบปรามมหาศัตรู “นายฉุนเฉียว” และคณะก็ปักใจเชื่อว่าจะชนะในการลงประชามติและปราบปรามผู้เห็นต่างได้อย่างราบคาบ วันลงประชามติที่เคยกำหนดไว้ก่อนหน้าให้เป็นวันที่ 31 กรกฎาคม 2559 จึงต้องเลื่อนออกไปตามคำทำนายของโหร
กระนั้นก็ตามคำพูดของ “นายฉุนเฉียว”
ที่ว่า “ถ้าวุ่นวายกันนัก” จะยกเลิกไม่ให้มีการลงประชามติ จะตีความเป็นอื่นไม่ได้นอกจาก “นายฉุนเฉียว” เริ่มหวั่นไหว ไม่มั่นใจว่า “ร่างรธน ฉบับมีชัย” จะผ่านประชามติ
และวันที่ 7 สิงหาคมคงไม่ใช่วันมหาฤกษ์ตามคำบอกเล่าของโหรเป็นแน่ ทางออกเพื่อรักษาหน้ามีอยู่วิธีเดียวคือล้มกระดาน